ค่ำวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลังการเจรจาทวิภาคีที่ประสบความสำเร็จอย่างดีงาม ประธานประเทศเวียดนามหวอวันเถืองและนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คิชิดะ ฟูมิโอะ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อแจ้งผลการเจรจา โดยผู้นำทั้งสองประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วมประกาศการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในเอเชียและโลก 

ประธานประเทศเวียดนามหวอวันเถืองกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้บบรรลุผลงานที่ดีงามในการเจรจาระหว่างกันโดยทบทวนความสำเร็จและการพัฒนาที่แข็งแกร่งและครอบคลุมของมิตรภาพความร่วมมือเวียดนาม - ญี่ปุ่นในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในเอเชียและทั่วโลก นับเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปิดหน้าใหม่ในความสัมพันธ์เวียดนาม-ญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุม มีประสิทธิภาพ มีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดและตอบสนองผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย มีส่วนร่วมต่อการส่งเสริมสันติภาพ ความมีเสถียรภาพ ความมุ่งมั่น ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจต่อไป ส่งเสริมความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ขยายความร่วมมือในด้านใหม่ๆ เช่น นวัตกรรม การถ่ายทอดเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และการเปลี่ยนแปลงสีเขียว ประธานประเทศเวียดนามหวอวันเถืองย้ำว่านี่เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับทั้งสองประเทศในการธำรงส่งเสริมความร่วมมือด้านการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการหรือ ODA ในเวลาข้างหน้า

ส่วนนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คิชิดะ ฟูมิโอะ กล่าวว่า เพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของเอเชียและโลก เราได้เห็นพ้องยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี ในอนาคตมีความจำเป็นต้องกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ย้ำถึงคำมั่นที่จะพยายามลดขั้นตอนการขอวีซ่าสำหรับพลเมืองเวียดนาม ปรับปรุงสภาพการทำงานและเงื่อนไขการประกันสังคมสำหรับชุมชนชาวเวียดนามในญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่จำเป็นในการดำเนินโครงการริเริ่มอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง

ในงานแถลงข่าว ผู้นำทั้งสองท่านต่างย้ำถึงความจำเป็นของการธำรงรักษาความสงบเรียบร้อยและเสรีภาพระหว่างประเทศบนพื้นฐานการเคารพกฎหมาย ประสานงานอย่างใกล้ชิดในเวทีระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคในประเด็นที่สนใจร่วมกัน รวมถึงประเด็นทะเลตะวันออก เห็นชอบที่จะสนับสนุนการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยทางทะเลและการบิน แก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล1982 (UNCLOS) ตลอดจนทั้งสอง ประเทศได้สนับสนุนซึ่งกันและกันในกรอบพหุภาคี.