อาเซมพยายามและร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

(VOVWORLD) -เช้าวันที่ 19 มิถุนายน ณ นครเกิ่นเทอ ได้มีการจัดการประชุมฟอรั่มความร่วมมือเอเชีย-ยุโรปหรืออาเซมเกี่ยวกับการร่วมกันรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและกำหนดแนวทางในอนาคต
อาเซมพยายามและร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ - ảnh 1 พิธีเปิดงานนิทรรศการ “การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ – ความท้าทายและโอกาสความร่วมมือระหว่างเอเชียกับยุโรป” (Photo VNplus)


นี่คือความคิดริเริ่มของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ฝ่ามบิ่งมิงห์ที่ได้รับการอนุมัติในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซมครั้งที่ 13 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2017 ในการกล่าวปราศรัยในการประชุม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ามบิ่งมิงห์ได้แสดงความเห็นว่า ทุกประเทศสมาชิกอาเซมต้องพยายามร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ในอนาคตและกลายเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในทุกยุคทุกสมัย พร้อมทั้งเสนอให้ที่ประชุมทำการหารือและกำหนดแนวทางความร่วมมือใหม่ๆในปัญหาต่างๆ เช่น ความเป็นเอกภาพขององค์ความรู้และพยายามมากขึ้นเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศควบคู่กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน             “ประเด็น ความคิดริเริ่มและโครงการที่เราหารือในการประชุมครั้งนี้จะเป็นการเตรียมพร้อมที่สำคัญเพื่อเสนอขอการอนุมัติในการประชุมสุดยอดอาเซมครั้งที่ 12 ณ ประเทศเบลเยี่ยมในเร็วๆนี้ บนเจตนารมณ์นี้ ผมขอเรียกร้องให้มีการหารืออย่างจริงจัง เสนอมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือในอนาคตระหว่างสมาชิกอาเซมให้ใกล้ชิดมากขึ้น”

เวียดนามเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปัญหาน้ำทะเลหนุน ส่วนเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงเป็น 1 ใน 3 เขตที่ราบลุ่มของโลกที่เผชิญความเสี่ยงมากที่สุดจากปัญหาน้ำทะเลหนุน เมื่อปี 2016 ในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงได้เกิดปัญหาน้ำทะเลหนุนในระดับสูงสุดในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลต่อการดำรงชีวิตของประชาชนนับล้านคน

หลังพิธีเปิด รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามบิ่งมิงห์ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการ “การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ – ความท้าทายและโอกาสความร่วมมือระหว่างเอเชียกับยุโรป”.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด