ในปี 2023 กระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพ และสังคม จะยังคงมีการประสานงานกับกระทรวงต่างๆ และหน่วยงานระดับท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและดำเนินโครงการเป้าหมายระดับชาติเกี่ยวกับการลดอัตราความยากจนอย่างยั่งยืนในช่วงปี 2021-2025 โดยเป้าหมายในปีนี้คือ อัตราความยากจนหลายมิติในระดับประเทศลดลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 1 ถึง 1.5 ต่อปี อัตราครอบครัวชนกลุ่มน้อยที่มีฐานะยากจนจะลดลงกว่าร้อยละ 3 ต่อปี ในขณะที่อัตราความยากจนหลายมิติของอำเภอที่ยากจนต่างๆ ลดลงประมาณร้อยละ 4 ควบคู่กับการปรับปรุงนโยบายและกลไกเพื่อลดอัตราความยากจน เร่งการดำเนินงานตามโครงการเป้าหมายแห่งชาติในการลดอัตราความยากจนอย่างยั่งยืน อีกทั้งประสานงานในการปฏิบัติตามนโยบายลดอัตราความยากจนในปี 2023 พร้อมระดมเงินมากขึ้นให้แก่ภารกิจการลดความยากจน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคม ด่าวหงอกยุง กล่าวว่า

“ทั้งระบบการเมืองต้องเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการนี่ แต่การที่ประชาชนตระหนักที่การมีความพยายามด้วยตนเองมากขึ้นนั้นมีความสำคัญมาก ซึ่งผมคิดว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด รัฐไม่เพียงแต่ให้การสนับสนุนทางการเงินหรือสิ่งของเท่านั้น แต่จะหันไปใช้แนวทางหลักในการออกนโยบายสนับสนุนแบบไม่มีเงื่อนไขและเงินกู้แบบมีเงื่อนไขเพื่อให้ประชาชนพัฒนาเอง ให้ความสนใจต่อการดำรงชีวิต การสร้างงานทำ การสร้างเงื่อนไขเพื่อไม่ให้เหลือที่พักแบบชั่วคราว พยายามถึงปี2025คนจนมีบ้านที่มั่นคง มีน้ำสะอาดใช้ และแก้ปัญหาด้านภาวะทางโภชนาการในเด็กและปัญหาอื่นๆ”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคม ด่าวหงอกยุง  (ภาพจาก Võ Hải/VNExpress)

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2022 นายกรัฐมนตรีได้ลงนามอนุมัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเพื่อการลดอัตราความยากจนอย่างยั่งยืนในช่วงปี 2021-2025 โดยมีเป้าหมายในการลดความยากจนแบบหลายมิติอย่างครอบคลุมและยั่งยืน พร้อมแก้ไขปัญหาการตกสู่ความยากจนอีกครั้งและการเกิดปัญหาความยากจนใหม่ๆ ให้การสนับสนุนครัวเรือนที่มีฐานะยากจนให้มีรายได้เหนือกว่ามาตรฐานค่าครองชีพขั้นต่ำและสามารถเข้าถึงบริการทางสังคมขั้นพื้นฐาน ยกระดับลชีวิตความเป็นอยู่ อีกทั้งสนับสนุนอำเภอและชุมชนยากจนต่างๆ ในพื้นที่ชายฝั่งริมทะเลและเกาะแก่ง ให้หลุดพ้นจากปัญหาความยากจน.