ภาพของการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน (Photo: vietnamplus.vn)

 ในการกล่าวปราศรัยสรุปผลการประชุม นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ยืนยันถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการธำรงอัตรการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้อยู่ที่ร้อยละ6.7 “หน่วยงาน ท้องถิ่นและสถานประกอบการต่างๆต้องพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว   โดยแต่ละกระทรวงและท้องถิ่นต้องวางมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันการปฏิบัติแผนการ  โดยเน้นแก้ไขอุปสรรค ผลักดันการผลิตและประกอบธุรกิจ  การเบิกจ่ายเงิน  ขยายการครองส่วนแบ่งตลาดทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ  ให้ความสนใจต่อตลาดใหม่  พัฒนาอุตสาหกรรมการแปรรูป  สนับสนุนการผลิตและการส่งออก โดยเฉพาะ การจำหน่ายสินค้าในปัจจุบัน”.

ส่วนในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการประชุมรัฐบาลประจำเดือนเมษายนในบ่ายวันเดียวกัน นาย มายเตี๊ยนหยุง รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐบาลเวียดนามได้เผยว่า แม้สถานการณ์เศรษฐกิจ-สังคมใน4เดือนแรกของปี2017มีสัญญาที่น่ายินดีแต่หน้าที่ในเดือนต่อๆไปยังหนักหน่วงมาก  โดยเฉพาะ สำหรับการธำรงอัตราการขยายตัวให้อยู่ที่ร้อยละ6.7และควบคุมภาวะเงินเฟ้อให้อยู่ที่ร้อยละ4  อัตรการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่1อยู่ที่ร้อยะละ5.1  ดังนั้น เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจใน3ไตรมาสที่เหลือต้องอยู่ที่ร้อยละ7.1  แม้จะเป็นหน้าที่ที่ยากลำบากแต่รัฐบาลยังคงยืนหยัดปฏิบัติเป้าหมายที่ได้วางไว้เพราะการปฏิบัติเป้าหมายนี้จะช่วยค้ำประกันความสมดุลย์ของเศรษฐกิจ       สำหรับสถานการณ์การเสียเปรียบดุลย์การค้า  นาย โด๋ทั้งหาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้เผยว่า ในเวลาที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกและนำเข้าได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว “ใน4เดือนแรกของปี2017  สินค้าที่เวียดนามนำเข้าส่วนใหญ่คือ วัตถุดิบ  เชื้อเพลิง  เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ต่างๆเพื่อบริการการผลิตและการแปรรูปเพื่อการส่งออก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ราคาสินค้าการนำเข้าเพิ่มขึ้น  การนำเข้าสินค้าที่ใช้ในการผลิตและการแปรรูปเพื่อการส่งออกได้แสดงให้เห็นว่า การผลิตและการประกอบธุรกิจมีสัญญาที่จะฟื้นฟู”.