ผู้เชี่ยวชาญระดับภูมิภาคประเมินให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการเจริญเติบโตจากความสามัคคี ความมั่นคง การเจรจา และสันติภาพ

(VOVWORLD) - ในปี 2023 ประเทศอินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนได้เลือกหัวข้อ “อาเซียนที่มีความสำคัญในฐานะศูนย์กลางการเจริญเติบโต” เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของอาเซียนในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ ระดับภูมิภาคและโลก อีกทั้งเสริมสร้างสถานะเป็นศูนย์กลางการเจริญเติบโตของโลก โดยอาเซียนได้มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งในตลอด 56 ปีที่ผ่านมา พร้อมสร้างสรรค์ประชาคมที่มีความเชื่อมโยงและมั่นคงเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
 
 
ผู้เชี่ยวชาญระดับภูมิภาคประเมินให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการเจริญเติบโตจากความสามัคคี ความมั่นคง การเจรจา และสันติภาพ - ảnh 1

ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม นาย Uch Leang รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเอเชีย-แอฟริกาและตะวันออกกลางศึกษา สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกัมพูชา สังกัดราชบัณฑิตยสถานกัมพูชา ได้เผยว่า ตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 1967 จนถึงปัจจุบัน อาเซียนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและมีความรับผิดชอบต่อการกระชับและเสริมสร้างความสามัคคีทั้งในและนอกภูมิภาค รวมถึงการรับมือความท้าทายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้เชี่ยวชาญระดับภูมิภาคประเมินให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการเจริญเติบโตจากความสามัคคี ความมั่นคง การเจรจา และสันติภาพ - ảnh 2นาย Uch Leang รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเอเชีย-แอฟริกาและตะวันออกกลางศึกษา สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกัมพูชา

“ในตลอด 56 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ได้มีการก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 1967 อาเซียนยังคงรักษาเอกภาพและความสามัคคี พร้อมส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาค โดยกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนได้มีการผสมผสานในด้านที่มีความสำคัญต่อความร่วมมือและผลประโยชน์ของประเทศอื่น ๆ เช่น ความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์  การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การเติบโตสีเขียว ความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน รวมถึงการพัฒนาอนุภูมิภาคและการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ”

นอกจากนี้ ข้อตกลงสำคัญหลายฉบับได้มีส่วนช่วยให้อาเซียนเสริมสร้างความร่วมมือและความเชื่อมโยง พร้อมลดช่องว่างการพัฒนาในภูมิภาค เช่น กฎบัตรอาเซียน วิสัยทัศน์อาเซียนปี 2020 วิสัยทัศน์อาเซียนปี 2025 และแผนแม่บทการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน สนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ TAC วิสัยทัศน์อาเซียนเกี่ยวกับอินโด - แปซิฟิกหรือ AOIP 

ผู้เชี่ยวชาญระดับภูมิภาคประเมินให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการเจริญเติบโตจากความสามัคคี ความมั่นคง การเจรจา และสันติภาพ - ảnh 3นาย Yose Diran Damuri ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายศึกษาอินโดนีเซีย CSIS (Foto: CSIS)

ส่วนนาย Yose Diran Damuri ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายศึกษาอินโดนีเซีย CSIS ได้เผยว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โรคระบาด และวิกฤตทางเศรษฐกิจ ได้เพิ่มความเสี่ยงต่างๆ แต่บรรดาประเทศสมาชิกอาเซียน ยังคงมีการเติบโตในเชิงบวกเนื่องด้วยการรักษาเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาค

“ความหวังของอาเซียนคือการเป็นศูนย์กลางการเจริญเติบโต โดยอาเซียนมีบทบาทและตำแหน่งที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ รวมถึงการขยายตัวของกลุ่มประเทศอาเซียนในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาของภูมิภาคในวงกว้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับการที่อาเซียนสามารถแก้ไขปัญหาต่างในภูมิภาคได้ดีหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดี อาเซียนได้ประสบความสำเร็จในการรักษาเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาคผ่านกลไกการเจรจาตต่างๆ ของตน”

นาย Yose Diran Damuri  ยังคงย้ำว่า ด้วยจำนวนประชากรอยู่ที่ 646 ล้านคน และอัตราการขยายตัวของ GDP อยู่ที่ร้อยละ 5 ในปี 2022 ปัจจุบัน อาเซียนถือเป็นหนึ่งในหัวเรือที่สำคัญของเศรษฐกิจภูมิภาคและโลก ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวมที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทาย

ผู้เชี่ยวชาญระดับภูมิภาคประเมินให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการเจริญเติบโตจากความสามัคคี ความมั่นคง การเจรจา และสันติภาพ - ảnh 4เอกอัครราชทูต หวูโห่ หัวหน้าคณะ SOM อาเซียนเวียดนาม (Foto : VOV)

สำหรับเอกอัครราชทูต หวูโห่ หัวหน้าคณะ SOM อาเซียนเวียดนาม ในการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ได้แสดงความเห็นว่า อาเซียนมีความประสงค์ที่จะส่งสาร  “อาเซียนที่มีความสำคัญในฐานะศูนย์กลางการเจริญเติบโต” ไปยังประชาคมโลก ผ่าน  3 ปัจจัย

“บทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนได้สะท้อนให้เห็นในทุกกระบวนการระดับภูมิภาค รวมถึงการเจริญเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานของอาเซียน ตลอดจนแนวทางการเข้าถึงประเด็นต่างๆ ระดับภูมิภาค และระหว่างประเทศ โดยยังคงใช้ความร่วมมือและการเจรจาเป็นเครื่องมือในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ภายในอาเซียน ซึ่งเมื่อมีการหารือกับอาเซียน ทุกหุ้นส่วนต่างยืนยันที่จะให้ความเคารพต่ออาเซียนและบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน”

ทั้งนี้ เอกอัครราชทูต หวูโห่ ได้ย้ำว่า ผ่านการเจรจาอย่างตรงไปตรงมา พร้อมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมืออย่างจริงใจ อาเซียนได้โน้มน้าวให้พันธมิตรทุกฝ่ายยอมรับบทบาทการเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของตนในกระบวนการระดับภูมิภาค จากนั้น ได้มีการเสนอคำมั่นและข้อคิดริเริ่มต่างๆ  เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับอาเซียนและมีส่วนร่วมต่อความพยายามในการสร้างสรรคประชาคมของอาเซียน ด้วยวิธีการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยทำให้อาเซียนมีความมั่นใจมากขึ้นในการก้าวเข้าสู่วาระแห่งการพัฒนาใหม่ภายหลังปี 2025. 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด