เยาวชนเวียดนามและกัมพูชาขับเคลื่อนการแลกเปลี่ยนและกระชับความสัมพันธ์

(VOVWORLD) - ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนและเยาวชนหลายโครงการยังคงเป็นด้านที่บรรดาผู้นำเวียดนามและกัมพูชาให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ โดยกิจกรรมแลกเปลี่ยนระดับเยาวชนนั้นได้จัดขึ้นในหลากหลายรูปแบบทั้งระดับส่วนกลางและระดับท้องถิ่น อย่างเช่นกิจกรรม “พบปะกระชับมิตรเยาวชนเวียดนาม-กัมพูชา” ปี 2023 ที่มีขึ้น ณ กรุงฮานอยและจังหวัดกว๋างนิงห์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีส่วนช่วยเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความเข้าใจระหว่างเยาวชนทั้งสองประเทศ 
“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินทางมาเวียดนาม และเห็นว่า ประเทศเวียดนามได้พัฒนาเป็นอย่างมาก ชาวเวียดนามเป็นกันเอง อีกอย่างคือในเขตเมืองมีพื้นที่สีเขียวมากมาย ไปไหนมาไหนก็เห็นต้นไม้และทะเลสาบ ผมคิดว่าที่นี่มีสภาพแวดล้อมที่ดีโดยเฉพาะสำหรับคนหนุ่มสาว เนื่องจากพวกเรากำลังอยู่ในยุคดิจิทัล ทำงานเครียดจึงต้องการพื้นที่สีเขียวและอากาศที่โปร่งสบายแบบนี้ เพื่อดูแลสุขภาพจิตให้ดีขึ้น”

“ผมรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้กลับมายังสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำตั้งแต่สมัยเรียน ได้ทานเฝอและกาแฟฮานอยอีกครั้งในรอบ 12 ปี  ประเทศเวียดนามปัจจุบันพัฒนากว่าเมื่อก่อนมากในขณะที่ผู้คนก็ยังคงเป็นมิตรเหมือเดิม”

เยาวชนเวียดนามและกัมพูชาขับเคลื่อนการแลกเปลี่ยนและกระชับความสัมพันธ์ - ảnh 1งานเสวนาเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล (ภาพจาก doanthanhnien.vn)

นาง Chea Kunlak และนาย Chhoing Huy เป็น 2 ใน 30 ผู้แทนเยาวชนของคณะกรรมการเยาวชนพรรคประชาชนกัมพูชาและสหภาพเยาวชนกัมพูชาที่เดินทางมาเวียดนามเพื่อเข้าร่วมโครงการ “พบปะกระชับมิตรเยาวชน” ปี 2023 ซึ่งในนั้นมีหลายคนที่เพิ่งเคยเดินทางมาเวียดนามเป็นครั้งแรก ในขณะที่หลาย ๆ คนเคยศึกษาเล่าเรียนที่นี่และสามารถพูดภาษาเวียดนามได้อย่างคล่องแคล่ว จากข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสหภาพเยาวชนส่วนกลางของทั้งสองประเทศระยะปี 2013-2017 โครงการ “พบปะกระชับมิตรเยาวชน” ได้รับการจัดขึ้นโดยองค์กรเยาวชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ ด้วยวัตถุประสงค์หลักคือเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างเยาวชนและนักศึกษาของทั้งสองประเทศผ่านกิจกรรมทัศนศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ-การเมืองและวัฒนธรรม-สังคมของแต่ละประเทศ อีกทั้งแบ่งปันประสบการณ์ในประเด็นปัญหาต่างๆ  ที่เยาวชนทั้งสองประเทศให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ โดยในปีนี้ โครงการดังกล่าวจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน ณ กรุงฮานอย และเมืองฮาลอง จังหวัดกว๋างนิงห์ นาง เลถิห่งยุง รองหัวหน้าคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของกองเยาวชนคอมมิวนิสต์ส่วนกลางและสมาชิกคณะผู้จัดงานครั้งนี้ เผยว่า

“พวกเราอยากแนะนำสถานที่และเขตโบราณสถานที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเวียดนาม รวมถึงความเรียบง่ายในชีวิตประจำวันของชาวเวียดนาม มีหลายคนเมื่อมาที่นี่มักจะถามว่า ทำไมกาแฟและเฝอเวียดนามอร่อยจัง ทิวทัศน์อ่าวฮาลองก็สวยเหมือนที่เมืองซานฟรานซิสโก นอกจากกิจกรรมเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ แล้ว พวกเราก็อยากให้ผู้แทนเยาวชนทั้งสองประเทศได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเนื้อหาเชิงวิชาการมากขึ้น ซึ่งเป็นจุดแข็งของกลุ่มเยาวชนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในด้านการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและรูปแบบการศึกษาต่างๆ ที่ทันสมัย”

ในช่วงเวลาที่อยู่เวียดนาม คณะผู้แทนเยาวชนกัมพูชาได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น เข้าเคารพศพประธานโฮจิมินห์ เยี่ยมชมเขตโบราณสถานทำเนียบประธานประเทศ พบปะกับบรรดาผู้นำกองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ส่วนกลาง ร่วมงานเสวนาเยาวชนเวียดนาม-กัมพูชาเดินหน้าในการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล เยี่ยมชมมหาวิทยาลัย VinUni วิหารวรรณกรรม ป้อมปราการพระราชวังหลวง หว่างแถ่งทังลอง อ่าวฮาลองและพิพิธภัณฑ์กว๋างนิงห์ รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมพบปะสังสรรค์และแลกเปลี่ยนศิลปะการแสดง เป็นต้น ซึ่งสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ดีงามให้แก่เยาวชนทั้งสองประเทศ

เยาวชนเวียดนามและกัมพูชาขับเคลื่อนการแลกเปลี่ยนและกระชับความสัมพันธ์ - ảnh 2คณะผู้แทนเยาวชนกัมพูชาและจังหวัดกว๋างนิงห์ (ภาพจาก baoquangninh.vn)

“กิจกรรมที่ผมประทับใจมากที่สุดคืองานเสวนาเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งผมคิดว่า เยาวชนทั้งสองประเทศสามารถร่วมมือกันในการวิจัยเกี่ยวกับโครงการหรือรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับกระแสการพัฒนาของการปฏิวัติทางดิจิทัลในยุคปัจจุบัน ถ้าหากมีโอกาสพบปะอย่างต่อเนื่อง พวกเราสามารถแลกเปลี่ยนระหว่างกัน ร่วมกันวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีหรือแบ่งปันไอเดียใหม่ๆ แล้วประสานงานเพื่อการดำเนินงานร่วมกัน ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมกระบวนการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในแต่ละประเทศให้มีความก้าวหน้าและประสิทธิภาพมากขึ้น”

“นอกจากการเที่ยวชมเพื่อศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเวียดนาม พร้อมเข้าร่วมการประชุมต่างๆ แล้ว พวกเรายังได้มีช่วงเวลาที่น่าประทับใจในการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ซึ่งในครั้งนี้ คณะศิลปะเยาวชนกัมพูชาได้นำเสนอชุดการแสดงฟ้อนรำแบบดั้งเดิมอย่าง Ramvong และ Saravan โดยประเทศกัมพูชามีการแสดงฟ้อนรำอันสวยงามที่หลากหลาย แต่นี่เป็นการแสดงสองชุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และยิ่งไปกว่านั้นคือ ทุกคนทั้งชาวกัมพูชาและเวียดนามต่างให้ความสนใจและยังร่วมแสดงอีกด้วย”

“พวกเรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากเมื่อกลุ่มเยาวชนกัมพูชารู้สึกสนุกสนานและตื่นเต้นเวลาที่ได้ไปค้นคว้าอ่าวฮาลอง ในเวลาข้างหน้า พวกเราอาจมีการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างเยาวชนเวียดนามกับกัมพูชา รวมถึงกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนจังหวัดกว๋างนิงห์พัฒนาทักษะในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก อีกทั้งมีความประสงค์ที่จะเผยแพร่ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว  วัฒนธรรม และผู้คนชาวกว๋างนิงห์ สู่สายตาเพื่อนมิตรชาวต่างประเทศและภายในภูมิภาค”

ทั้งนี้ ในการเดินทางไปเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุดของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต บรรดาผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศได้ยืนยันอีกครั้งถึงการให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมกิจกรรมแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างเยาวชน โดยนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศยังสงวนเวลาในการเข้าพบปะและพูดคุยกับเหล่าเยาวชนและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการค้าต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย ซึ่งได้มีการส่งสารถึงคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับการสานต่อหน้าที่ความรับผิดชอบจากบรรดาผู้นำรุ่นก่อน ๆ และมุ่งมั่นตั้งใจในการทำนุบำรุงและเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาดั่งคำขวัญ “เป็นเพื่อนบ้านที่ดี – สัมพันธไมตรีอันยาวนาน – ความร่วมมืออย่างรอบด้าน – ยั่งยืนและยาวนาน”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด