การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม – ปลุกเร้าสติปัญญาเวียดนาม

(VOVWORLD) - ในรายการของเราวันนี้ ขอเชิญท่านฟังคำอวยพรตรุษเต๊ตของท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงียนฟู้จ่อง และรายการพิเศษในหัวข้อ “ตรุษเต๊ตสะท้อนคุณค่าวัฒนธรรมเวียดนาม”และสุดท้ายคือภาคข่าว
สำหรับเวียดนาม การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมคือ “กุญแจทอง” เพื่อใช้ฟันฝ่าความท้าทายต่างๆ”

ชุมชนสตาร์ทอัพนวัตกรรมเวียดนาม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่จะส่งเสริมจิตใจ ความมุ่งมั่นและสติปัญญาของคนเวียดนาม กล้าคิดกล้าทำ รับมือความท้าทายและฟันฝ่าอุปสรรค ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก มีความรัก ความเชื่อมั่นและความหลงใหล กล้าเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมเพื่อทำธุรกิจสตาร์ทอัพและพัฒนาเป็นยูนิคอร์นของภูมิภาคและโลก

การเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรม ผลสำเร็จในเบื้องต้น

การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม หรือการสตาร์ทอัพนวัตกรรมเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประเทศสามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืน ที่เวียดนาม ในการปฏิบัติตามแนวทางของพรรคฯ และรัฐ กระทรวงและสำนักงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมและทำธุรกิจสตาร์ทอัพ ผลักดันให้เยาวชนเวียดนามปฏิบัติโครงการสตาร์ทอัพเพื่อสร้างระบบนิเวศสตาร์ทอัพทั้งภายในและต่างประเทศ นี่คือผลสำเร็จในเบื้องต้นที่ช่วยให้เวียดนามพัฒนาเป็น “ประเทศแห่งนวัตกรรม” ดั่งคำชื่นชมในรายงานเกี่ยวกับระบบนิเวศการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมที่เปิดกว้างในเวียดนามที่จัดทำโดยแพลตฟอร์มการเชื่อมโยงนวัตกรรม BambuUP เมื่อปี 2022

ในอำเภอเซินเยือง จังหวัดเตวียนกวาง ซึ่งเป็นอำเภอเขตเขายากจนพิเศษ นาย บุ่ยวันหว่าง ที่จบปริญญาเอกสาขาเทคโนโลยีได้เลือกกลับบ้านเกิดทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้วยการปลูกมะแว้งเครือ โดยตั้งสหกรณ์ให้บริการ ผลิตและแปรรูปสินค้าการเกษตรและป่าไม้เหิบหว่าที่ผลิตชามะแว้งเครือและได้รับเงินอุดหนุนจากสมาคมนักธุรกิจรุ่นใหม่จังหวัดเตวียนกวาง ถึงแม้เริ่มสตาร์ทอัพในปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคโควิด -19 แต่เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเงินอุดหนุนที่ได้รับอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นศึกษาเรียนรู้เพื่อยกระดับทักษะความสามารถในการบริหารและใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์และระบบอี – คอมเมิร์ซเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและปัจจุบันนี้ ชามะแว้งเครือของสหกรณ์ฯ ก็ได้รับมาตรฐาน OCOP ระดับ 4 ดาว            “ผมได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการผลิตและขายสินค้า โดยเฉพาะใช้ระบบอี – คอมเมิรซ์ เช่น shoppee, tiki, ticktock และ facebook แต่อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงลูกค้าของเรายังมีข้อจำกัด ต้องหาทางเองและปฏิบัติตามรูปแบบดั่งเดิม”

การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม – ปลุกเร้าสติปัญญาเวียดนาม - ảnh 1นาย เหงียนห่งยวี แนะนำผลิตพันธ์ช็อคโกแลตต่อเยาวชนรุ่มใหม่ในงานสตาร์ทอัพ (หนังสือพิมพ์เญินเซิน)

ก็เหมือนกับนาย หว่าง ที่สตาร์ทอัพในบ้านเกิด นาย เหงียนห่งยวีได้เลือกโกโก้ ซึ่งเป็นสินค้าเฉพาะถิ่นของจังหวัดเตี่ยนยางเพื่อผลิตช็อคโกแลตระดับพรีเมี่ยม และเขากำลังเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทช็อกโกแลต Hallelu จำกัด “เศรษฐกิจได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่บริษัทเรายังคงอยู่รอดได้ สินค้าของเราได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดยุโรป เราจะขยายการผลิตเพื่อจำหน่ายในตลาดยุโรปและญี่ปุ่นมากขึ้น ปัจจุบันนี้ ทางบริษัทได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารทุกระดับ โดยเฉพาะสหพันธ์เยาวชนนครโฮจิมินห์ที่ได้รับเงินสนับสนุน แต่ว่าก็ยังไม่มากพอ ซึ่งเราหวังว่า จะมีนโยบายสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อที่เราจะสามารถขยายโรงงานและกำลังการผลิตได้”

ในหลายปีที่ผ่านมา ระบบกฎหมายและนโยบายต่างๆ เกี่ยวกับการผลักดันระบบนิเวศนวัตกรรมและสตาร์ทอัพในเวียดนามได้รับการปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น โดยสหภาพเยาวชนเวียดนามเป็นหนึ่งในแหล่งเงินทุนที่เยาวชนมักจะเข้าถึงเพื่อทำธุรกิจสตาร์ทอัพ นอกจากนี้ ยังมีโครงการต่างๆ ที่เดินพร้อมกับเยาวชนในการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ นาย หวูฮวีเยือง รองคณะกรรมการสามัคคีเยาวชนของกองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ส่วนกลาง เผยว่า “เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2022 กองเยาวชนฯ ได้ให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลเพื่ออนุมัติโครงการสนับสนุนเยาวชนสตาร์ทอัพระยะปี 2022-2030 ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับชุมชนสตาร์ทอัพ โดยมีกลุ่มมาตราการแก้ไขและสนับสนุนรวม 4 กลุ่มที่กองเยาวชนสาขาและคณะกรรมการประชาชนระดับจังหวัดจะต้องปฏิบัติ เรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างมากต่อความคิดสร้างสรรค์และความพยายามของเยาวชนเวียดนามในการสร้างสรรค์ระบบนิเวศธุรกิจสตาร์ทอัพที่นับวันพัฒนามากขึ้น”

ในปี 2022 ระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรมเวียดนามีมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สามารถธำรงสถานะที่เป็น “ดาวรุ่ง” แห่งสตาร์ทอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม – ปลุกเร้าสติปัญญาเวียดนาม - ảnh 2นาย เหงียนฟุ๊กบิ่งห์ อดีตนายกสมาคมนักศึกษาเวียดนามประจำออสเตรเลีย (nld.com.vn)

ระบบนิเวศสตาร์ทอัพไม่เพียงแต่มีความยั่งยืนในเวียดนามเท่านั้น หากยังพัฒนาอย่างเข้มแข็งในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกอีกด้วย โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลียที่มีนักศึกษาและเยาวชนเวียดนามอาศัยอยู่จำนวนมาก ในการพูดคุยกับผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม นาย เหงียนฟุ๊กบิ่งห์ อดีตนายกสมาคมนักศึกษาเวียดนามประจำออสเตรเลียได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรมของเยาวชนและนักศึกษาเวียดนามในออสเตรเลียว่า “ที่ออสเตรเลียมีเมืองที่เป็นศูนย์กลางสองแห่งคือซิดนีย์และเมลเบิร์ล ซึ่งมีเยาวชนและนักศึกษาเวียดนามร้อยละ 80 มาศึกษาต่อ ขบวนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพที่นี่คึกคักมาก ยกตัวอย่างเช่น ในการประกวด Techfest Vietnam 2021 ผู้ที่ได้รับรางวัลที่ 1 คืออดีตนักศึกษาในออสเตรเลียและในเวลาที่ผ่านมา มีนักศึกษาเวียดนามที่ศึกษาในออสเตรเลียหลายคนได้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ”

ในเวลาที่ผ่านมา ทางสมาคมนักศึกษาเวียดนามประจำออสเตรเลียได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนนักศึกษาเวียดนามทำการธุกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรม “สมาคมนักศึกษาเวียดนามในซิดนีย์และเมลเบิร์ลได้มีการจัดการประกวดต่างๆ เช่น Hacker Kid และ Startup Talent รวมทั้งจัดการพบปะกับผู้เชี่ยวชาญและการสนทนาเชิงวิชาการเกี่ยวกับการทำธุรกิจสตาร์ทัพอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้คนรุ่นใหม่เวียดนามได้เห็นภาพรวมเกี่ยวกับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ ความยากลำบากและความท้าทายต่างๆ เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่เยาวชน”

ควบคู่กันนั้น ทางสมาคมฯ ยังมีเครือข่ายเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมเวียดนาม – ออสเตรียที่เป็นเวทีให้นักศึกษาเวียดนามเข้าร่วมการประกวด จัดการสนทนาและฟอรั่มต่างๆ ช่วยให้นักศึกษาสามารถติดต่อกับนักลงทุนภายในประเทศ รวมทั้งมีองค์กรต่างๆ ที่ส่งเสริมนวัตกรรม เช่น ศูนย์เปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมแห่งชาติ โครงการ 844 ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหรือศูนย์สนับสนุนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพอื่นๆ ในนครโฮจิมินห์และกรุงฮานอย ซึ่งได้สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ขบวนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพและเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมของเยาวชนและนักศึกษาเวียดนามในออสเตรเลีย

ไม่ว่าจะอยู่ที่เวียดนามหรือในต่างประเทศแต่เยาวชนและนักศึกษาเวียดนามต่างก็พยายามทำธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งช่วยให้เวียดนามมีศักยภาพสูงในการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรม.

ตามรายงานระบบนิเวศการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมที่เปิดกว้างของเวียดนามในปี 2022ที่ BambuUp ประกาศเมื่อเร็วๆนี้  ในระบบนิเวศสตาร์ทอัพของเวียดนาม มีสถานประกอบการสตาร์ทอัพประมาณ 3,800 แห่ง  นอกจากสถานประกอบการสตาร์ทอัพ 4 แห่งที่มีมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐคือ VNG, VNLife, MoMo và Sky Mavis ยังมีสถานประกอบการสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเวียดนามที่มีมูลค่าเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐได้แก่ Tiki, Giao hàng Tiết kiệm, Trusting Social, Kyber Network, KiotViet, Amanotes và Giao hàng nhanh มีกว่า 200 กองทุนร่วมลงทุนที่กำลังดำเนินงานและลงทุนให้แก่สตาร์ทอัพในเวียดนาม รวมทั้ง มีเกือบ 40 กองทุนภายในประเทศ

“ถ้าหากไม่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากการปฏิวัติอุตสหกรรม 4.0 ได้อย่างเต็มที่และพยายามผลักดันการเปลี่ยนแปลงใหม่และปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล ก็ยากที่จะบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจสังคมภายในปี 2030 และวิสัยทัศน์ถึงปี 2045 – นำเวียดนามกลายเป็นประเทศพัฒนาที่มีรายได้สูงได้” นี่คือคำยืนยันของผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและต่างประเทศเมื่อกล่าวถึงความพยายามผลักดันการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรม ทั้งในระดับมหภาคไปจนถึงระดับสถานประกอบการ นักธุรกิจและประชาชนเวียดนาม

การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม – ปลุกเร้าสติปัญญาเวียดนาม - ảnh 3นาย เหงวียนชี้หยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม (หนังสือพิมพ์ Thanh Tra)

เมื่อเร็วๆนี้ ในปลายเดือนตุลาคมปี 2022 ในกิจกรรมระหว่างประเทศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรม นาย เหงวียนชี้หยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนามได้ย้ำว่า ในขอบเขตมหภาค เป้าหมายของเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูงมากคือ ในปี 2030 เวียดนามจะกลายเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาที่มีอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและมีรายได้ปานกลางในระดับสูง ส่วนในปี 2045 เวียดนามจะกลายเป็นประเทศพัฒนาที่มีอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและมีรายได้สูง  ซึ่งบทบาทของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อทุกประเทศ โดยเฉพาะเวียดนาม " เวียดนามได้บรรลุผลสำเร็จในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ในตลอดกว่า 35 ปีแต่ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากทั้งภายนอกและภายใน ต้องทำอย่างไรเพื่อฟันฝ่าได้ เวียดนามได้กำหนดเส้นทางเดียวและโอกาสเดียวคือต้องใช้ประโยชน์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 นี่เป็นโอกาสสำหรับเวียดนาม เวียดนามได้ระบุสิ่งนี้ในทุกเอกสารและมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13  สภาแห่งชาติและรัฐบาลได้เน้นจัดทำกลไก ยุทธศาสตร์ แผนการและโครงการปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรมเพื่อปฏิบัติเป้าหมายนี้”

การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติเป็นหนึ่งในก้าวเดินที่ยืนยันความพยายามนี้ ซึ่งศูนย์ดังกล่าวถูกก่อสร้างในพื้นที่ 35 เฮกตาร์ในเขตนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคหว่าหลาก กรุงฮานอย รวมยอดเงินลงทุนกว่า 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐและคาดว่า จะเปิดใช้งานตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ ซึ่งจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามที่เน้นถึงสถานประกอบการนวัตกรรมทั้งภายในและต่างประเทศ ห้องปฏิบัติการ สำนักงานของเครือบริษัทใหญ่ เป็นสถานที่ทำงานของบรรดาผู้เชี่ยวชาญและ นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำที่ช่วยเหลือระบบนิเวศสตาร์ทอัพและนวัตกรรมของเวียดนาม 

ปัญหาที่สำคัญคือ การหาทางให้ศูนย์นี้ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพในระดับสูงสุด ซึ่งสิ่งที่จำเป็นก็คือการช่วยเหลือและการมีส่วนร่วมของเศรษฐกิจทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสถานประกอบการด้านเทคโนโลยี ในสถานการณ์ที่เป็นจริง สถานประกอบการหลายแห่งกำลังเน้นพัฒนาหน่วยงานอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เทคโนโลยีหลักภายใต้แนวคิด “โดยชาวเวียดนาม-ให้แก่โลก”  โดยเครือบริษัทอุตสาหกรรมและโทรคมนาคมกองทัพเวียดเทลได้กำหนดความรับผิดชอบคือร่วมมือกับบรรดาสถานประกอบการทั้งภายในและต่างประเทศเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ นาย ต่าวดึ๊กทั้ง ประธานคณะกรรมการผู้บริหารและผู้อำนวยการใหญ่เครือบริษัทเวียดเทลได้ชี้ชัดถึงการที่แต่ละบุคคลต้องพยายามเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน ซึ่งจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ผลักดันความคิดสร้างสรรค์ในแนวโน้มการพัฒนาร่วมและขยายผลไปยังแขนงอาชีพและด้านอื่นๆ “ ความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่  ซึ่งต้องมีความคิดริเริ่มเพื่อทำงานให้ดีขึ้น จากการเป็นเครือบริษัทที่เดินหน้าในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี สร้างสรรค์สังคมดิจิทัลเวียดนาม พวกเรามีความมั่นใจในการพัฒนาระบบนิเวศให้แก่สถานประกอบการที่ พวกเราได้พัฒนาระบบ 4G 5G ระบบ cloud เดินหน้าในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น IOT เพื่อให้สถานประกอบการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับการบริหารจัดการเกี่ยวกับรถยนต์ สิ่งแวดล้อม การคมนาคมและน้ำ เป็นต้น และเดินหน้าในการแก้ปัญหาทางสังคม”

การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม – ปลุกเร้าสติปัญญาเวียดนาม - ảnh 4ดอกเตอร์ Rafael Frankel ผู้อำนวยการที่ดูแลนโยบายสาธารณะในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเครือบริษัท Meta (หนังสือพิมพ์ เญินซิง)

นาย ต่าวดึ๊กทั้ง ยังเผยว่า จิตใจแห่งการพึ่งตนเองมีความสำคัญและการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมเป็นกระบวนการที่ต้องปฏิบัติเป็นประจำ ช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์  แต่เพื่อปฏิบัติความคิดริเริ่มเกี่ยวกับนวัตกรรมในขอบเขตใหญ่ ต้องมีพลังขับเคลื่อนและแหล่งพลังต่างๆ นี่คือระบบนโยบายกฎหมายที่เหมาะสม มีความคล่องตัว เอื้อให้แก่การเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรม เงินทุนและแหล่งบุคลากร  ซึ่งสิ่งนี้ต้องการการช่วยเหลือทั้งด้านเงินทุนและความรู้จากบรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและต่างประเทศ ดอกเตอร์ Rafael Frankel ผู้อำนวยการที่ดูแลนโยบายสาธารณะในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเครือบริษัท Meta ได้เผยว่า  “ในตอลดกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปทำงานในเวียดนามและเห็นว่า ชาวเวียดนามมีความขยันหมั่นเพียรและมีความคิดสร้างสรรค์ บรรดาสถานประกอบการเวียดนามได้รับการสนับสนุนจากนโยบายที่ถูกต้องของรัฐบาล ซึ่งได้จัดตั้งระบบนิเวศดิจิทัลที่พัฒนาอย่างเข้มแข็ง พวกเราชื่นชมรัฐบาลเวียดนามเกี่ยวกับวิสัยทัศน์การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 พวกเราจะมีปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมเพื่อช่วยเหลือเวียดนามได้แก่ การฝึกอบรมทักษะความสามารถด้านดิจิทัลให้แก่นักเรียน 5 แสน 8 หมื่นคน และสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมเกือบ 6 หมื่น 4 พันแห่งของเวียดนาม”

ในความพยายามเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรม เวียดนามได้รับการสนับสนุนและคำมั่นจากเครือบริษัทใหญ่ทั้งภายในและต่างประเทศ ควบคู่กันนั้น เวียดนามมีคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้และความทุ่มเท อีกทั้งแนวทาง นโยบายที่ช่วยพัฒนาแหล่งพลังและทักษะความสามารถในการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมกำลังได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดเพื่อแปรเป้าหมายการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพในระดับภูมิภาคและโลกของเวียดนามให้กลายเป็นความจริง

ตามรารางการจัดอันดับโลกของ StartupBlink ที่ประกาศเมื่อปลายปี 2022 ระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรมของเวียดนามในปี 2022 ติดอันดับที่ 54 จากจำนวน 100 ประเทศ เลื่อนขึ้น 5 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2021 ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก เวียดนามได้เลื่อนจากอันดับที่ 13 ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 12 ส่วนที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนามเลื่อนจากอันดับที่ 6 มาอยู่อันดับที่ 5 และได้รับการพยากรณ์ว่า ในปี 2023 นี้ อาจแซงประเทศไทยที่กำลังอยู่อันดับที่ 4 ในภูมิภาค

ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2022 ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียหรือ ADB ได้ประเมินว่า ปัจจุบัน เวียดนามมี “ยูนิคอร์น” ด้านเทคโนโลยี 4 แห่งคือ VNG, VNPAY, Momo และ Sky Mavis ซึ่งได้ยืนยันถึงสถานะใน “สามเหลี่ยมทองคำ” แห่งการทำธุรกิจสตาร์ทอัพของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีสิงคโปร์และอินโดนีเซียรวมอยู่ด้วย โมเดล Techfest กำลังได้รับการขยายผลไปทั่วประเทศ โดยมี Techfests ระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่นกว่า 10 รูปแบบ เมื่อปี 2022 ได้มีการเปิดตัวเครือข่ายสนับสนุนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาคจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่เข้มแข็งของระบบนิเวศ นี่เป็นผลมาจากความพยายามในตลอด 8 ปีนับตั้งแต่เวียดนามจัดวันงานสตาร์ทอัพนวัตกรรมเป็นครั้งแรก  ดร. หวูก๊วกฮวี ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติหรือ NIC สังกัดกระทรวงวางแผนและการลงทุนยืนยันว่า “เวียดนามได้รับการจัดอันดับจากองค์กรระหว่างประเทศว่า เป็นประเทศที่ติดกลุ่ม 3 ระบบนิเวศสตาร์ทอัพอันดับแรกที่มีนวัตกรรมแบบไดนามิกมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ รายงานดัชนีนวัตกรรมทั่วโลกหรือ GII 2022 ขององค์การลิขสิทธิ์ทางปัญญาโลกหรือ WIPO ได้ระบุเวียดนามในกลุ่มประเทศที่บรรลุความคืบหน้ามากที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเลื่อนขึ้น 20 อันดับ โดยเวียดนามได้รับการประเมินค่อนข้างดีในด้านสถาบัน ระดับการพัฒนาของตลาด ความสมบูรณ์ของการปรับปรุงการทำธุรกิจและผลงานด้านนวัตกรรม”

การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม – ปลุกเร้าสติปัญญาเวียดนาม - ảnh 5ดร. หวูก๊วกฮวี ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติหรือ NIC สังกัดกระทรวงวางแผนและการลงทุน (baodautu.vn)

ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทและสถานประกอบการขนาดใหญ่ทั่วโลกส่วนใหญ่ได้ลงทุนในเวียดนาม ในสภาวการณ์ดังกล่าว ความต้องการที่นับวันเพิ่มมากขึ้นในกิจกรรมการลงทุนด้านการวิจัยและการพัฒนาได้เปิดโอกาสมากมายสำหรับความร่วมมือลงทุนและประกอบธุรกิจในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับสถานประกอบการเวียดนามและส่งเสริมการพัฒนาของระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรม นาย Hong Sun อดีตเลขาธิการและรองประธานสมาคมสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีในเวียดนามหรือ Korcham ประเมินว่า ศักยภาพและโอกาสของการทำธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรมในเวียดนามนั้นยังมีอีกมาก “ผมชื่นชมความพยายามของรัฐบาลเวียดนาม โดยเฉพาะกระทรวงวางแผนและการลงทุน ตามที่ผมทราบ  รัฐมนตรี เหงียนชี้หยุง ได้จัดตั้งศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติ โดยศูนย์แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสำนักงานใหญ่เท่านั้น หากยังแสดงให้เห็นถึงความสนใจและความพยายามของรัฐบาลเวียดนามอีกด้วย สำหรับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรม รัฐบาลเวียดนามยังอำนวยความสะดวกและเปิดกว้างในการดึงดูดแหล่งเงินลงทุนที่มีความเสี่ยงหรือ Venture Capital เวียดนามได้เปิดกว้างในด้านกรอบนิตินัยสำหรับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรม โดยเฉพาะ ได้เปิดกว้างและพัฒนามากกว่าเศรษฐกิจทุนนิยมหลายเศรษฐกิจ นี่คือเหตุผลที่นักลงทุนสาธารณรัฐเกาหลีและผู้ประกอบการด้านสตาร์ทอัพของสาธารณรัฐเกาหลีหลายรายเข้ามาลงทุนในเวียดนาม”

พรรค รัฐและรัฐบาลเวียดนามให้ความสนใจ ลงทุนและส่งเสริมกิจกรรมด้านนวัตกรรมอย่างเข้มแข็ง ปัจจุบัน นวัตกรรมมีบทบาทสำคัญเป็นพิเศษในการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืน เพื่อปลุกเร้าสติปัญญาของชาวเวียดนามและส่งเสริมแหล่งพลังของประชาชนเวียดนาม 100 ล้านคนในด้านนวัตกรรม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เรียกร้องว่า “ผมขอเรียกร้องให้นักวิทยาศาสตร์ สถานประกอบการ องค์กร บุคคลและนักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อภารกิจการทำธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรมของเวียดนาม ชุมชนสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมของเวียดนาม โดยเฉพาะ คนรุ่นใหม่ต้องส่งเสริมความมุ่งมั่นและสติปัญญาของชาวเวียดนาม กล้าที่จะเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทาย ไม่กลัวความล้มเหลว และมีแรงจูงใจที่เข้มแข็งด้วยความกระตือรือร้น  ความเชื่อมั่น กล้าคิด กล้าทำ กล้าที่จะทำธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อสร้างผลงานระดับภูมิภาคและระดับโลก มีส่วนร่วมต่อการสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามที่แข็งแกร่ง ประชาชนเวียดนามมีความอิ่มหนำผาสุกมากขึ้น”

ที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ระบุว่า นวัตกรรมคือหน้าที่ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาของเวียดนามในเวลาที่จะถึง ความสำเร็จในเบื้องต้นด้านนวัตกรรมในปี 2022 ได้มีส่วนร่วมยืนยันถึงการกำหนดแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องและมาตรการที่เหมาะสมของพรรคและรัฐเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมของเวียดนามในระยะปัจจุบัน ความสำเร็จนี้ยังเพิ่มแรงจูงใจเพื่อให้ชุมชนสถานประกอบการนวัตกรรมให้ก้าวรุดหน้าไปอย่างมั่นคง มีส่วนร่วมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด