( VOVworld )-กำแพงเก่าก๋วงตริ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแถก หาน จังหวัดก๋วงตริภาคกลางประเทศเวียดนามซึ่งในสงครามกอบกู้ชาติของเวียดนามที่นี่เคยเป็นสมรภูมิที่ดุเดือดที่มีคนเสียชีวิตนับไม่ถ้วนซึ่งถือเป็นสุสานของทหารที่สละชีพเพื่อสันติภาพและเอกราชของประชาชาติเวียดนาม  ปัจจุบัน กำแพงเก่าก๋วงตริได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ

กำแพงเก่าก๋วงตริถูกก่อสร้างขึ้นในศตวรรษที่ ๑๙ โดยราชวงศ์เหงวียนในสมัยกษัตริย์ยาลองครองราชสมบัติราวปีค.ศ.๑๘๐๙ โดยใช้ดินเป็นวัสดุก่อสร้าง  ต่อมาปีค.ศ.๑๘๓๗ กษัตริย์มินห์ หม่างทรงสั่งให้ก่อสร้างกำแพงอย่างถาวร  กำแพงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสในพื้นที่ ๒๐ เฮกต้าร์ มีกำแพงสูงและหลุมเพลาะล้อมรอบ  ในสมัยศักดินา กำแพงเก่าก๋วงตริเป็นทั้งกำแพงป้องกันและเป็นศูนย์กลางการปกครอง การเมืองและเศรษฐกิจ

หลังจากที่มีการลงนามข้อตกลงเจนีวาเมื่อปีค.ศ.๑๙๕๔ ประเทศเวียดนามได้ถูกแบ่งเป็นสองภาคคือภาคเหนือและภาคใต้และมีระบอบการเมืองแตกต่างกัน และเส้นขนาน ๑๗คือแม่น้ำเบ๊นห่ายได้กลายเป็นเส้นแบ่งเขตทหารชั่วคราว ตัวเมืองก๋วงตริที่มีกำแพงเก่าก๋วงตริรวมอยู่ด้วยได้กลายเป็นศูนย์กลางการเมือง เศรษฐกิจและการกลาโหมของจังหวัดด่านหน้าทางทิศใต้ประเทศเวียดนาม

อนุสรณ์สถานทหารพลีชีพเพื่อชาติ

เนื่องจากกำแพงเก่าก๋วงตริตั้งอยู่ในอำเภอเมืองและทางการสาธารณรัฐเวียดนามได้เปลี่ยนเป้าหมายการใช้ประโยชน์กำแพงเก่า ดังนั้นกำแพงเก่าก๋วงตริจึงมีฐานะสำคัญยิ่ง  ในช่วงปีค.ศ.๑๙๕๔-๑๙๗๑ เมื่อการสู้รบในสมรภูมิมีการเปลี่ยนแปลง การต่อสู้ทางการเมืองและทางทหารระหว่างสองฝ่ายนับวันดุเดือดมากขึ้น กำแพงเก่าก๋วงตริได้เป็นจุดที่เกิดเหตุการณ์สำคัญๆ นี่คือเหตุผลที่ทำให้กำแพงเก่าก๋วงตริกลายเป็นเป้าหมายในการต่อสู้และดวลปืนระหว่างสองฝ่ายเป็นเวลา ๘๑ วัน ๘๑ คืนของปีค.ศ.๑๙๗๒

ในการต่อสู้ ๘๑ วัน ๘๑ คืนเพื่อยึดกำแพงเก่าก๋วงตริ สหรัฐและรัฐบาลสาธารณรัฐเวียดนามได้ส่งกำลังทหารมหาศาลและทิ้งระเบิดแบบปูพรมใส่กำแพงเพื่อหวังยึดจุดยุทธศาสตร์นี้ ทั้งนี้ได้ส่งผลให้กำแพงถูกทำหลายอย่างหนักจนเหลือร่องรอยกำแพงบางช่วงเท่านั้น   ตั้งแต่ปีค.ศ.๑๙๙๓-๑๙๙๕ ทางการจังหวัดก๋วงตริได้ทำการซ่อมแซมระบบหลุมเพลาะ สะพาน ท่อระบายน้ำ กำแพงบางช่วงและประตูด้านหน้า  อนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ได้รับการก่อสร้างตรงกลางกำแพงเก่าซึ่งเป็นรูปประตูสี่ทิศของกำแพง ด้านบนสุดเป็นที่จุดธูปรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตอย่างกล้าหาญ มีป้ายทองแดง ๘๑ แผ่นที่ติดไว้ด้านหน้าเพื่อรำลึกถึงการต่อสู้อย่างดุเดือดใน ๘๑ วัน ๘๑ คืนตั้งแต่วันที่ ๒๘ มิถุนายนถึงวันที่ ๑๖ กันยายนปีค.ศ.๑๙๗๒   คุณก๊าปถิ่เทียนจางหัวหน้าฝ่ายดูแลโบราณสถานกำแพงเก่าก๋วงตริเปิดเผยว่า “ โดยได้รับความช่วยเหลือจากพรรคและรัฐ โบราณสถานกำแพงเก่าก๋วงตริกำลังได้รับการซ่อมแซมและปฏิสังขรณ์เพื่อกลายเป็นเขตอนุสรณ์สถานของผู้ที่ได้สละชีพเพื่อชาติ เขตโบราณสถานกำแพงเก่าก๋วงตริเปรียบเสมือนสุสานที่มีหลุมฝังศพหมู่ ซึ่งต่างจากสุสานอื่นๆเช่น สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติเจื่องเซิน สุสานทางหลวงหมายเลข ๙ที่มีหลุมฝังศพทหารพลีชีพเพื่อชาติแต่ละคน แม้จะระบุชื่อหรือเป็นที่ฝังศพทหารนิรนามก็ตาม  ส่วนอนุสาวรีย์ถือเป็นหลุมฝังศพของทหารหลายพันชีวิตที่เสียชีวิต ณ ที่นี่ในสงครามต่อสู้ ๘๑ วัน ๘๑ คืนเพื่อปกป้องกำแพงเก่าและอำเภอเมืองก๋วงตริ ”

ทุกปีมีคนหลั่งไหลมาเที่ยวกำแพงเก่าก๋วงตริเพื่อรำลึกถึงผู้ที่ได้เสียชีวิตเพื่อมาตุภูมิ พลตรีหวูก๊วกหุ่งอดีตรองหัวหน้าสถาบันยุทศาสตร์การป้องกันประเทศแห่งกระทรวงกลาโหมที่กลับมาสมรภูมิเก่าเพื่อจุดธูปรำลึกถึงเพื่อนร่วมรบเล่าว่า  “ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมามาที่นี่ ผมมาที่นี่หลายครั้งแล้ว ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผมกับทหารคนอื่นๆได้ทำการสู้รบ ทุกครั้งเมื่อกลับมาที่นี่ผมคิดถึงเพื่อนอย่างบอกไม่ถูกเพราะพวกผมโชคดีที่แม้ต้องผ่านสงครามอย่างโชกโชนก็ตามแต่เราก็ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อนร่วมรบของผมหลายคนได้เสียชีวิต ณ ที่นี่ ”

ขอให้เดินเบาๆพูดเบาๆ  ให้เพื่อนร่วมรบที่อยู่ในผืนดิน  ท้องฟ้ากำแพงเก่าใสและมีลมแรงๆ

เสมือนเพลงกล่อมนิรันดร  ขอให้เดินเบาๆพูดเบาๆ 
กำแพงเก่ากว้างแต่เพื่อนต้องนอนในที่แคบๆ  ทุกตารางนิ้วเป็นเรื่องราวชีวิตจริง

ให้ชีวิตแสนคุณค่าในวันนี้

กำแพงเก่าก๋วงตริทุกวันนี้มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ มีคนมาเที่ยวก๋วงตริหลากเพศหลายวัยไม่ว่าจะเป็นทหารผ่านศึก ญาติพี่น้องของทหารพลีชีพเพื่อชาติและประชาชน  คุณเลถิต๊ามผู้บรรยายในกำแพงเก่าก๋วงตริเปิดเผยว่า  “ นักท่องเที่ยวมาที่นี่มากที่สุดตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนกันยายนโดยเฉพาะในวันที่รวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว ๓๐ เมษายนและวันทหารทุพพลภาพและพลีชีพเพื่อชาติ ๒๗ กรกฎาคม เพื่อสำนึกในคุณูปการของทหารพลีชีพเพื่อชาติ  แต่ละคณะมาที่นี่ดิฉันจะมีการบรรยายด้วยน้ำเสียงที่ไม่เหมือนกันเช่น สำหรับคุณป้าและคุณลุงที่เป็นทหารผ่านศึกสงครามดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งเพราะมีพวกเขาเราถึงจะมีวันนี้ ส่วนสำหรับคนรุ่นใหม่ดิฉันจะมีความรู้สึกแตกต่างไป ดิฉันเหมือนสะพานเชื่อมอดีตกับปัจจุบันทำให้เด็กเข้าใจประวัติศาสตร์ที่วีระอาจหาญของบรรพบุรุษ ”

ปี ๒๐๑๔ โบราณสถานกำแพงเก่าก๋วงตริได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานพิเศษระดับชาติ  ทุกวันนี้ กำแพงเก่าก๋วงตริยังเป็นสถานที่ศึกษาเกียรติประวัติรักชาติของคนรุ่นใหม่ เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างชาติเพราะพวกเขาจะได้เข้าใจเกี่ยวกับสงครามในเวียดนามเพื่อถนอมสันติภาพและชีวิตที่สงบสุขในปัจจุบันมากขึ้น  ./.