ผู้ทำหน้าที่ปะธงชาติที่เส้นขนาน๑๗

(VOVworld) – ธงแดงดาวเหลืองที่โบกสะบัดบนท้องฟ้าที่เส้นขนาน๑๗ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของพลังที่เข้มแข็ง ความมุ่งมั่นและความปรารถนาอย่างแรงกล้าเพื่อการรวมประเทศเป็นเอกภาพของทหารและประชาชนสองฝั่งแม่น้ำBến Hải   และผู้ที่มีส่วนร่วมทำให้ผืนธงโบกสะบัดบนท้องฟ้าภายใต้ห่ากระสุนปืนทำลายตลอดวันคืนของทหารอเมริกันและทหารหุ่นไซ่ง่อนคือนางTrần Thị Viễn 

(VOVworld) – ภายหลังข้อตกลงเจนีวาปี๑๙๕๔ สะพานHiền Lươngข้ามแม่น้ำBến Hải จังหวัดQuảng Trị ที่เส้นขนาน๑๗ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเวียดนามออกเป็น๒ภาคเหนือใต้  นับแต่นั้น ธงแดงดาวเหลืองที่โบกสะบัดบนท้องฟ้าที่เส้นขนาน๑๗ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของพลังที่เข้มแข็ง ความมุ่งมั่นและความปรารถนาอย่างแรงกล้าเพื่อการรวมประเทศเป็นเอกภาพของทหารและประชาชนสองฝั่งแม่น้ำBến Hải   แต่สำหรับศัตรูธงผืนนี้คือความหลอกหลอนและเป้าหมายเพื่อยิงทำลายตลอดวันคืน ภายใต้ห่ากระสุนปืนของทหารอเมริกันและทหารหุ่นไซ่ง่อน  ธงผืนนี้ยังคงโบกสะบัดต่อไปและผู้ที่มีส่วนร่วมทำให้ผืนธงโบกสะบัดบนท้องฟ้าคือนางTrần Thị Viễn

ผู้ทำหน้าที่ปะธงชาติที่เส้นขนาน๑๗ - ảnh 1
ธงชาติเวียดนาม ( Photo:Internet)

นางTrần Thị Viễn เกิดที่หมู่บ้านHiền Luong ตัวเมืองอำเภอHồ Xá อำเภอVĩnh LinhจังหวัดQuảng Trị  โดยขานรับคำเรียกร้องของการปฏิวัติ ทุกคืนเธอกับเพื่อนบ้านใช้จอบทำลายทางในหมู่บ้านเพื่อกีดขวางไม่ให้ศัตรูจับผู้ชายในหมู่บ้านไปเป็นทหาร ในสมัยสงครามต่อต้านอเมริกาเพื่อกู้ชาติ  Quảng Trị เป็นหนึ่งในสมรภูมิที่ดุเดือดที่สุด ในตอนนั้น กองทัพอากาศสหรัฐโจมตีตลอดคืนจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น นับตั้งแต่ปี๑๙๕๔ ทางฝั่งเหนือสะพานHiền Lương ได้ปรากฏธงแดงดาวเหลืองขนาดใหญ่ของทหารและประชาชนเวียดนามบนยอดเสาซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของพลังที่เข้มแข็ง ความมุ่งมั่นและความมั่นใจเกี่ยวกับวันรวมประเทศเป็นเอกภาพ  แต่เพื่อทำลายความมั่นใจนั้น ทหารหุ่นไซ่ง่อนและกองทัพอากาศสหรัฐได้ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดนับร้อยลำ และปืนใหญ่พิสัยไกลจากฐานทัพสหรัฐทางฝั่งใต้แม่น้ำBến Hảiและจากกองเรือที่๗ในทะเล นางViễn ยังจำได้อย่างติดตาว่า ในขณะที่กำลังปะธงชาติ กระสุนและระเบิดของศัตรูตกลงมาอยู่ใกล้ตัวทำให้เธอตกใจจนเข็มที่มมือ “ธงแดงดาวเหลืองเป็นที่พึ่งทางจิตใจดังนั้นดิฉันต้องพยายามปะเพื่อให้มีธงแขวนไว้บนเสาตลอดเวลา  ถ้าตอนเช้าธงขาดเนื่องจากถูกกระสุนระเบิด ดิฉันก็จะปะเพื่อให้มีธงแขวนบนเสาในตอนบ่าย ถ้าตอนบ่ายธงขาด ดิฉันก็ปะเพื่อให้มีธงแขวนบนเสาในตอนค่ำ ถ้าตอนค่ำธงขาด ก็จุดตะเกียงน้ำมันนั่งปะเพื่อให้มีธงแขวนบนเสาในเช้าวันรุ่งขึ้น”  

ผู้ทำหน้าที่ปะธงชาติที่เส้นขนาน๑๗ - ảnh 2
คุณViễn และคุณDiệmนั่งปะธงชาติในอุโมงค์ลับในสมัยสงคราม( Photo:Internet)

ในตลอดกว่า๕๔๐๐วันที่กองทัพสหรัฐทิ้งระเบิดทำลายเสาธงก็เป็น๕๔๐๐คืนที่นางTrần Thị Viễnปะผืนธงที่กว้างกว่า๑๐๐ตารางเมตร หนัก๑๕กิโลกรัมเพื่อให้ประชาชนทั้งสองภาคสามารถได้มองเห็นทุกวัน เมื่อปะธง เธอพยายามรักษาให้ได้รูปดาว๕แฉกซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของการชี้นำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม แม้ว่าธงจะมีรอยปะนับร้อยที่ก็ตามแต่ก็ยังรักษาภาพลักษณ์อันสมบูรณ์ไว้ได้ แม้การปะธงชาติมีความหมายยิ่งใหญ่แต่นางViễnถือว่าเป็นงานปกติในชีวิตประจำวันของเธอ “ดิฉันคิดว่า ธงชาติคือจิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ เสียธงไซร้ประเทศชาติหาคงอยู่ไม่  ดังนั้นดิฉันหาทุกวิถีทางเพื่อปะธงให้ได้ เมื่อธงได้รับแขวนไว้บนเสาดิฉันรู้สึกมีความสุขมาก” ปี๑๙๖๗ เป็นปีที่เส้นขนาน๑๗ถูกศัตรูทำลายอย่างดุเดือดที่สุด  ทางการปกครองอำเภอVĩnh Linhออกคำสั่งอพยพสตรี เด็กและผู้สูงอายุไปยังจังหวัดต่างๆทางภาคเหนือ เหลือเพียงทหารบ้าน และผู้ที่อยู่ในวัยทำงานทำการสู้รบเท่านั้น คุณแม่Viễn และคุณแม่Diệm ทั้งทำการผลิต ทั้งขุดอุโมงค์ลับเพื่อปะธง นางNguyễn Thị Sâm ชาวบ้านHiền Lương เผยว่า  “ในสมัยสงคราม ผู้คนอพยพไปลี้ภัยที่อื่นแต่คุณViễnไม่ไปอาสาอยู่รักษาบ้านเมือง ธงแดงดาวเหลืองที่แขวนไว้บนเสาธง ที่เส้นแบ่งเวียดนามเป็น๒ภาคเหนือใต้ช่วยให้ทุกคนมีความมั่นใจว่า ภาคใต้เวียดนามจะได้รับการปลดปล่อย ประเทศชาติจะมีเอกภาพอย่างแน่นอน” 

ผู้ทำหน้าที่ปะธงชาติที่เส้นขนาน๑๗ - ảnh 3
ภาพคุณแม่ปะธงชาติ ที่วางแสดง ณ อาคารจัดแสดงสิ่งของวัตถุเกี่ยวกับเส้นขนาน๑๗
 ( Photo:Internet)

ปัจจุบัน ณ อาคารจัดแสดงสิ่งของวัตถุเกี่ยวกับเส้นขนาน๑๗ ที่อำเภอVĩnh Linh จังหวัดQuảng Trị ยังมีภาพถ่ายสตรีสองคนที่กำลังนั่งปะธงชาติซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของประชาชนอำเภอVĩnh Linh และก็เป็นวัตถุอนุสรณ์อันล้ำค่าของนางTrần Thị Viễn  หลายสิบปีได้ผ่านพ้นไป แต่ความทรงจำเกี่ยวกับวันเดือนปีที่พิทักษ์รักษาธงชาติ ณ เส้นขนาน๑๗ยังคงฝังลึกอยู่ในใจของนางตลอดมา ปีนี้ แม้ว่ามีอายุ๙๐แล้วแต่นางTrần Thị Viễnยังมีสติสัมปชัญญะดี ปี๑๙๙๙ นางได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์สงครามกู้ชาติจากประธานแห่งรัฐ นางบอกว่า อยากมีอายุยืนนานและมีสุขภาพแข็งแรงเพื่อเล่าเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการต่อสู้อย่างวีรอาจหาญของประชาชาติเวียดนามที่เส้นขนาน๑๗ต่อไป./.

                                                                                                                                      



คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด