เที่ยวป่าดงกุ๊กเฟืองแบบผจญภัย
Le Phuong – VOV5 -  
( VOVworld )- ป่าดงกุ๊กเฟือหรือชื่อที่คนทั่วไปคุ้นหูคืออุธยานแห่งชาติกุ๊กเฟืองเป็นอุธยานแห่งแรกของเวียดนามที่ได้รับการอนุรักษ์ธรรมชาติ อุธยานกุ๊กเฟืองครอบคลุมพื้นที่ ๓ จังหวัดได้แก่ นินห์บิ่นห์ หว่าบินห์และแทงฮว้า มีระบบพืชและสัตว์ของเขตป่าร้อนชื้นอย่างหลากหลาย มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม ระบบนิเวศอันหลากหลาย วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีมาช้านานและมีคุณค่า ทั้งนี้ป่าดงกุ๊กเฟืองจึงเป็นที่รู้จักแพร่หลายของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวแบบผจญภัยและค้นหาธรรมชาติ
( VOVworld )-
ป่าดงกุ๊กเฟือหรือชื่อที่คนทั่วไปคุ้นหูคืออุธยานแห่งชาติกุ๊กเฟืองเป็นอุธยานแห่งแรกของเวียดนามที่ได้รับการอนุรักษ์ธรรมชาติ อุธยานกุ๊กเฟืองครอบคลุมพื้นที่ ๓ จังหวัดได้แก่ นินห์บิ่นห์ หว่าบินห์และแทงฮว้า มีระบบพืชและสัตว์ของเขตป่าร้อนชื้นอย่างหลากหลาย มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม ระบบนิเวศอันหลากหลาย วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีมาช้านานและมีคุณค่า ทั้งนี้ป่าดงกุ๊กเฟืองจึงเป็นที่รู้จักแพร่หลายของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวแบบผจญภัยและค้นหาธรรมชาติ
อุทธยานแห่งชาติกุ๊กเฟือง
อุธยานแห่งชาติกุ๊กเฟืองมีพื้นที่ ๒๒,๒๐๐ เฮกต้าร์และถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาตามเดียป การเดินทางไปเที่ยวป่ากุ๊กเฟืองต้องผ่านทางลาดชันกว่า ๑๕ กิโลเมตรในพื้นที่จังหวัดนินห์บิ่นห์ เมื่อใกล้ถึงกุ๊กเฟืองประมาณ๑กิโลเมตรก็จะรู้สึกถึงอากาศเย็นสบายและบริสุทธิ์ของที่นี่พร้อมเสียงร้องของนกและชะนี ที่นี่มีระบบพืชและสัตว์มากมายโดยมีพืชประมาณ ๒,๐๐๐ชนิดและสัตว์กว่า ๒,๖๐๐ ชนิดซึ่งมีสัตว์หลายชนิดที่ถูกระบุในสมุดปกแดงของเวียดนามและโลก ที่นี่ยังเป็นสถานที่อนุรักษ์พันธพืชและพันธุ์สัตว์ที่หลากหลาย ๗ แห่งของเวียดนาม
ทางศูนย์การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการศึกษาสิ่งแวดล้อมของอุธยานแห่งชาติกุ๊กเฟืองได้จัดรายการท่องเที่ยวเชิงนิเวศไว้ให้เลือกหลากหลายรายการเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและค้นหาธรรมชาติ นายเลืองวันเหวียดไกด์นำเที่ยวของที่นี่เปิดเผยว่า ฤดูที่สวยและเหมาะกับการเที่ยวป่ากุ๊กเฟืองคือตั้งแต่ปลายฤดูไม้ผลัดใบจนถึงฤดูหนาวประมาณเดือนกันยายน-ธันวาคม อย่างไรก็ดี แต่ละฤดูจะมีความสวยงามไม่เหมือนกัน นายเหวียดกล่าวว่า “ ฤดูร้อนเป็นฤดูเจริญพันธุ์ของแมลง ดังนั้นพวกเราจัดรายการท่องเที่ยวชมผีเสื้อเพราะผีเสื้อจะโตเต็มที่ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม เมื่อผีเสื้อ ๔๐๐ พันธุ์ออกจะรังสรรค์ให้ป่ากลายเป็นสวนดอกไม้ใหญ่ และยังมีสัตว์เลื้อยคลานกับแมลงนานาชนิดด้วย พวกเรายังจัดรายการทัวร์ตอนกลางคืนหรือไน้ท์-สปอร์ติ้งเพื่อเที่ยวชมและส่อง เราสามารถได้ยินเสียงร้องของแมลงหลายชนิดได้ ”
เที่ยวป่ากันอย่างสนุก
โปรแกรมเที่ยวป่ากุ๊กเฟืองหลายรายการไว้บริการนักท่องเที่ยวเช่น เช้าไปเย็นกลับ สองวันหนึ่งคืนและสามวันสองคืน การท่องป่านั้นสามารถเดินเท้าหรือถีบจักรยานไปยังสถานที่เที่ยวชมเช่น ศุนย์กู้ภัยและช่วยชีวิตไพรเมตรและเต่าซึ่งเป็นสถานที่ดูแลและช่วยชีวิตไพรเมตรที่หายาก สวนพืชนานาพรรณซึ่งเป็นสถานที่อนุรักษ์ยีนพืชที่หายากของเวียดนามและโลก ระบบถ้ำและต้นไม้โบราณที่มีอายุหลายพันปีกับภูเขาเมยบากสูง ๖๔๘เมตร นายโด่ห่งห่าย รองผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยวนิเวศและการศึกษาสิ่งแวดล้อมของอุธยานแห่งชาติกุ๊กเฟืองเปิแผยว่า “ จุดเที่ยวชมที่น่าสนใจได้แก่ การเดินป่าตามทางเท้าไปยังต้นไม้โบราณ ถ้ำมนุษย์โบราณที่มีร่องรอยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาตร์ก่อนหน้านี้ประมาณ ๗,๕๐๐ ปี ซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์เลื้อยคลานปลาโกด้อนท์ที่มีฟันที่มีอายุ ๒๐๐-๒๓๐ล้านปี ซึ่งเป็นซากสิ่งที่มีชีวิตที่มีอายุมากที่สุดที่ถูกขุดพบเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยังเห็นซากบนแผ่นหินในป่า ระหว่างทางท่านสามารถชมความสวยงามของธรรมชาติเช่น ระบบนิเวศที่ภูเขาหินปูน หุบเขาและบนผืนผิว ”
ทัวร์ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมได้แก่ การตั้งแคมป์กลางป่าและส่องสัตว์ป่า การเดินป่า ส่องนกและรับฟังการแนะนำเกี่ยวกับนกที่หายากในจำนวนกว่า ๓๐๐ ชนิดของอุธยานกุ๊กเฟือง พายเรือคะยัคบนทะเลสาบหมากและเอียนกวาง การท่องเที่ยวแบบผจญภัยรูปแบบนี้ต้องมีไกด์นำเที่ยวเพื่อป้องกันการหลงทางและเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วย นายเลืองวันเหวียดนำนำต่อไปว่า “ การเที่ยวชมถ้ำและตั้งแคมป์ค้างคืนในป่าเป็นการเที่ยวค้นหาธรรมชาติแบบผจญภัย ดังนั้นนักท่องเที่ยวต้องมีสุขภาพแข็งแรง ฝ่ายจัดการท่องเที่ยวจะเตรียมเต๊นท์และอาหาร คณะนักท่องเที่ยวจะเดินเข้าไปในป่าดงดิบตามเส้นทางที่บางตา แต่พวกเราจะเลือดจุดตั้งแค้มป์ที่เหมาะสม เราจะค้างคืนบนยอดเขาหรือที่หุบเขาก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ กลางคืนจะไปชมสัตว์บางชนิดเช่น ชะมด กระรอกและแมลงต่างๆที่ออกมาหากินตอนกลางคืน ”
แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวกว่า ๑๐,๐๐๐ คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมาเที่ยวอุธยานแห่งชาติกุ๊กเฟือง โดยนักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับสัตว์ชนิดต่างๆที่หายากและได้รับฟังคำบรรยายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่า ทั้งนี้ทำให้นักท่องเที่ยวตระหนักถึงคุณค่าและมีวินัยในการอนุรักษ์พืชและสัตว์เหล่านี้
ความอบอุ่นแม่ลูก
ภายหลังท่องป่าเป็นเวลา ๕ ชั่วโมง นักท่องเที่ยวก็กลับถึงประตูอุธยานและซื้อของที่ระลึกของป่ากุ๊กเฟืองกลับมาเป็นของฝากให้ทางบ้านและเพื่อนๆ คุณฮียามกับสามีมาจากคลอสเตอร์ ประเทศอังกฤษกำลังดูภาพที่ถ่ายในการท่องป่าพลางแสดงความชื่นชอบต่อสัตว์ป่าที่เพิ่งได้พบเห็นเป็นครั้งแรกด้วยตาตนเองซึ่งเคยได้เห็นสัตว์เหล่านี้ในหนังสือ หนังสือพิมพ์และทางโทรทัศน์ แม้กระทั่งรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเจองูเห่าขณะกำลังเดินในป่า คุณแจ๊กกี้ ฮียามกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “ ดิฉันยังไม่เคยทราบว่าในป่ามีของกินได้มากมายเช่น ใบไม้ ผลไม้ รากไม้และวิธีหาน้ำดื่มในป่า ซึ่งน่าสนใจมาก รู้สึกแปลกใจมากว่าทำไมมนุษย์โบราณสามารถดำรงชีวิตในป่าแห่งนี้ได้ ในป่าไม่มีแสงสว่าง แสงไฟพวกเราต้องใช้ไฟฉาย เมื่อปิดไฟฉายป่าก็มืดสนิทเลย ที่นี่น่าท่องเที่ยวมาก ”
นายรูแบน เฮมาน นักท่องเที่ยวชาวเนเธอร์แลนด์เห็นว่า อุธยานแห่งชาติกุ๊กเฟืองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบพักผ่อนที่หาที่อื่นเหมือนมิได้ นายเฮมานส์กล่าวว่า “ พวกเราได้ชมผีเสื้อมากมาย เจอสัตว์จำนวนหนึ่งและเที่ยวชมถ้ำ นี่เป็นป่าสวยที่ธรรมชาติบันดาลให้พร้อมสัตว์หลากหลายชนิด ต้นไม้ที่มีสีเขียวปกคลุมทั้งพื้นที่ทำให้บรรยากาศเงียบสงบ ซึ่งเหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงรีแลกซ์และปล่อยภวังค์ไปกับธรรมชาติ ”
ความยิ่งใหญ่และสวยงามของอุธยานแห่งชาติกุ๊กเฟืองทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริงจึงเกิดความรักและมีวินัยในการอนุรักษ์ธรรมชาติ อุธยานกุ๊กเฟืองเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวที่มีใจรักธรรมชาติและคุณค่าทางวัฒนธรรม ./.
Le Phuong – VOV5