เนินเขาเมิมโซยช่วงฤดูฝน

อย่างไรก็ตาม คงมีน้อยคนที่จะรู้ว่ากว่าที่จะมีเนินเขาเมิมโซยแหล่งทัศนียภาพที่สวยงามนี้ ของครอบครัวของคุณหลู่ถิหลีในหมู่บ้านตาชิลือ ตำบลลาป๊านเติ๋น ต้องทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์เพื่อพยายามบุกเบิก  สร้างสรรค์และเติมแต่งให้เกิดเนินเขาเมิมโซยแห่งนี้และพัฒนาเป็นแหล่งทัศนียภาพที่สวยงามน่าประทับใจอย่างยิ่ง

เมื่อก่อนนี้ เนินเขาเมิมโซยและที่นาบันไดหลายแปลงในตำบลลาป๊านเติ๋นไม่สามารถทำการผลิตได้เนื่องจากขาดน้ำ เลยเป็นที่ปล่อยสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านจนเสียหายคันนาและสภาพแวดล้อมโดยรอบ ซึ่งคุณหลู่ถิหลีเผยว่ากว่าที่จะสามารถพัฒนาเป็นเนินเขาที่สวยงามดั่งปัจจุบัน ครอบครัวเขาต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจต้องเจอแดดทนฝนเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อปรับพื้นที่นี้ให้สามารถปลูกข้าวได้ โดยเฉพาะทำการขุดลอกคลองน้ำยาว5กิโลเมตรเข้าถึงนา ภายหลัง2เดือนที่ทำงานอย่างขยันด้วยอุปกรณ์ง่าย ๆ และกำลังคน ที่นาบันไดบนยอดเนินเขาแห่งนี้ก็ปรากฎขึ้นอย่างสวยงาม     "เนินเขาที่นี่มีลักษณะเขาหินจึงเป็นอุปสรรคให้แก่การบุกเบิกพื้นที่ทำนา ต้องใช้เครื่องมือง่าย ๆ อย่างจอบและเสียม รวมทั้งมือเปล่าเท่านั้น ซึ่งบางวันทำได้แค่1-2ตารางเมตรเท่านั้น แต่เพื่อที่จะมีที่นาทำกินเราต้องมุ่งมั่นพยายามเป็นอย่างมาก"

คุณหลู่ถิหลีเผยว่ากว่าที่จะสามารถพัฒนาเป็นเนินเขาที่สวยงามดั่งปัจจุบัน ครอบครัวเขาต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจต้องเจอแดดทนฝนเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อปรับพื้นที่นี้ให้สามารถปลูกข้าวได้

ปัจจุบันนี้ แปลงนาบนยอดเนินเขาเมิมโซยให้ผลผลิตข้าวตั้งแต่17-20กระสอบต่อการเก็บเกี่ยวหนึ่งรอบ แถมยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนมาเที่ยวชมจำนวนมากช่วยสร้างรายได้เสริมให้แก่ครอบครัวคุณหลู่ถิหลี คุณ เฮอ อา จัว ลูกชายของคุณหลู่ถิหลีเผยว่า เพื่อให้นาข้าวพัฒนาให้ผลผลิตดี การปลูกข้าวนั้นจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เกษตรอย่างเคร่งครัดตั้งแต่การใส่ปุ๋ยและการป้องกันแมลง โดยเฉพาะการเตรียมน้ำให้เพียงพอเพื่อผันน้ำเข้านา "ที่นาของเราอยู่ห่างจากแหล่งน้ำมากและหลายครอบครัวในชุมชนของเราก็ต้องการน้ำเพื่อปลูกข้าวเช่นกัน ดังนั้น จะต้องมีคนร่วมมือขุดคลองส่งน้ำเข้านา ซึ่งต้องผลัดเปลี่ยนกันไปเฝ้าน้ำทั้งวันทั้งคืน"

คุณหลู่ถิหลีเผยว่า รู้สึกมีความสุขเมื่อผืนนาของครอบครัวกลายเป็นจุดท่องเที่ยวของท้องถิ่นและจะตั้งใจรักษาพื้นที่นี้ไว้ให้สวยงามสมบูรณ์ต่อไปและก็อยากให้ทางการท้องถิ่นให้ความสนใจมากขึ้นเพื่อร่วมกันรักษาเนินเขาเมิมโซยให้เป็นแหล่งทัศนียภาพเด่นของท้องถิ่นอย่างถาวร 

เพื่ออำนวยความสะดวกและเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังจากที่มีการปรึกษาหารือกับครอบครัวต่างๆที่มีที่นาในบริเวณนี้ รวมทั้ง ครอบครัวคุณหลู่ถิหลี ทางการตำบล ลาป๊านเติ๋น ได้เก็บค่าเข้าชมเพื่อนำเงินที่ได้ไปตั้งเป็นกองทุนสำหรับการซ่อมแซมขยายถนนเข้าออกและจัดสรรค์ให้แก่ครอบครัวต่างๆ นาย เฮอ อา แถ่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมของตำบลเผยว่า " ครอบครัวต่างๆได้ประสานงานกับทางการท้องถิ่นเป็นอย่างดีในการปกป้อง ซ่อมแซมและอนุรักษ์พื้นที่นาบันไดเนินเขาเมิมโซยแห่งนี้" 

ขณะนี้เมื่อถึงฤดูฝนหรือฤดูเก็บเกี่ยว บริเวณเนินเขาเมิมโซยนี้ถือเป็นไฮไลท์ด้านการท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนมาถ่ายรูปเที่ยวชมหลายพันคนต่อวัน

เมื่อปี 2007 แหล่งทัศนียภาพนาบันได หมู่กังจ๋าย จังหวัดเอียนบ๊าย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งทัศนียภาพแห่งชาติที่ประกาศโดยกระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว ถึงวันที่ 31 ธันวาคมปี 2019 นายกรัฐมนตรีก็ได้ออกมติรับรองเป็นแหล่งมรดกพิเศษแห่งชาติสำหรับพื้นที่นาบันได หมู่กังจ๋าย นายเหงวียนเตี๊ยนบิ่งห์ หัวหน้าสำนักงานวัฒนธรรมอำเภอ หมู่กังจ๋าย เผยว่า นอกจากเนินเขาเมิมโซยที่ลาป๊านเติ๋น ในอำเภอหมู่กังจ๋าย ยังมีที่นาบันไดอีกกว่า 7 พันเฮกตาร์ ที่สวยงามน่าค้นคว้า ซึ่งปัจจุบัน ทางการท้องถิ่นกำลังเน้นปฏิบัติมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องสภาพแวดล้อมของแหล่งทัศนียภาพแห่งชาติพิเศษนี้ พร้อมทั้งประสานกับการส่งเสริมกิจกรรมทางวัฒนธรรมพื้นเมือง การจัดงานเทศกาลต่างๆของพี่น้องชมกลุ่มน้อย เช่น งานบุญข้าวใหม่ งานเทศกาลเกิ่วต่าว งานตีปาว เป็นต้น เพื่อสร้างแรงดึงดูดใจให้แก่นักท่องเที่ยว "พวกเราผลักดันการประชาสัมพันธ์ ยกระดับจิตสำนึกและความรับผิดชอบในการร่วมแรงร่วมใจอนุรักษ์มรดกของท้องถิ่นในหมู่ประชาชน ปกป้องรักษาและพัฒนาภูมิปัญญาพื้นบ้านโดยเฉพาะการปลูกข้าวนาดำบนนาบันได ควบคู่กับวัฒนธรรมพื้นเมืองเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน"

ด้วยความพยายาม ความทุ่มเทและความคิดสร้างสรรค์ ชาวเผ่าม้งในอำเภอหมู่กังจ๋าย อย่างครอบครัวของคุณหลู่ถิหลี ได้ร่วมสร้างภาพที่สวยงามของทุ่งนาบนไหล่เขาอย่างน่าอัศจรรย์ เพื่อให้ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยเดินทางมาถึงผืนดินเขตเขาแห่งนี้และได้ชื่นชมความงามของทุ่งวิเศษเหล่านั้นก็จะไม่มีวันลืมและอยากกลับมาอีกหลายๆ ครั้ง./.