เรือนจำฟู๊ก๊วก-สัญลักษณ์แห่งความทรหดกล้าหาญของนักรบปฏิวัติ

(VOVWORLD) -เขตโบราณสถานเชิงประวัติศาสตร์พิเศษแห่งชาติ เรือนจำฟู้ก๊วก คือจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจำนวนมากเมื่อไปเที่ยวอ.เกาะฟู้ก๊วก จ.เกียนยาง นี่ถือเป็นหลักฐานยืนยันความโหดร้ายของระบอบนักล่าเมืองขึ้นและจักรวรรดินิยม แต่ได้เป็นสัญลักษณ์แห่งจิตใจการต่อสู้ที่ทรหด กล้าหาญของบรรดานักปฏิวัติที่ถูกจับกุมคุมขังในช่วงสงครามกู้ชาติ
เรือนจำฟู๊ก๊วก-สัญลักษณ์แห่งความทรหดกล้าหาญของนักรบปฏิวัติ - ảnh 1ล้อมรอบเขตเรือนจำคือรั้วหนาม10-15ชั้น 

เรือนจำฟู้ก๊วกตั้งอยู่ในหมู่บ้าน เกยเหยื่อ ต.อานเท้ย อ.เกาะฟู้ก๊วก จ.เกียนยาง ซึ่งเดิมนั้นเป็นเรือนจำที่นักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสสร้างขึ้นเพื่อคุมขังชาวเวียดนามที่รักชาติ  ถึงปี1967ทางการไซ่ง่อนได้ทำการก่อสร้างเรือนจำเกยเหยื่อใหม่ โดยเรียกว่า เรือนจำเชลยสงครามฟู้ก๊วกหรือเรือนจำเชลยคอมมิวนิสต์ฟู้ก๊วก ด้วยพื้นที่400เฮกต้าร์นี่เป็นเรือนจำที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้โดยคุมขังนักโทษที่เป็นนักโทษการเมืองช่วงต่างๆกว่า4หมื่นคน

เรือนจำฟู้ก๊วกแบ่งเป็น12เขตโดยการควบคุมของกองพลน้อย3หน่วย ถึงปี1972 มีการก่อสร้างเพิ่มอีก2เขตรวมเป็น14เขต แต่ละเขตสามารถคุมขังนักโทษได้ประมาณ3พันคน ล้อมรอบเขตเรือนจำคือรั้วหนาม10-15ชั้นพร้อมระบบไฟส่องสว่างตลอดเวลาและยังมีทหารที่มีอาวุธครบมือเดินลาดตระเวนตลอด24ชั่วโมง  คุณหวอถิทูห่า เจ้าหน้าที่ของเขตโบราณสถานเชิงประวัติศาสตร์พิเศษแห่งชาติ เรือนจำฟู้ก๊วกได้เผยว่า ภายในเวลา6ปีตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี1967ถึงเดือนมกราคมปี1973มีนักโทษเสียชีวิตในเรือนจำนี้กว่า4พันคนและอีกหลายพันคนกลายเป็นคนพิการ“นักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคนที่มาเยือนเรือนจำแห่งนี้ต่างแสดงความรู้สึกโกรธและเสียใจต่อวิธีการทรมานนักโทษที่คนร่วมชาติของพวกเขาก่อขึ้นกับชาวเวียดนาม หลายคนถึงกับร้องให้เมื่อไปจุดธูปรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้”

เรือนจำฟู๊ก๊วก-สัญลักษณ์แห่งความทรหดกล้าหาญของนักรบปฏิวัติ - ảnh 2 การคุมขังนักโทษในกรงเสือ

บรรดานักโทษสงครามที่ถูกจับกุมคุมขังในเรือนจำฟู้ก๊วกต้องทนกับความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจเพราะการทารุณกรรมอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนเช่นถูกตากแดดบนกระดานเหล็กจนเนื้อหนังหลายส่วนถูกเผาไหม้ ถ้าเกิดทนไม่ไหวแล้วขยับตัวก็จะถูกทุบตีหรือถูกยิง ถูกบังคับให้ปีนเสาหนาม ถูกทุบตีนิ้วมือนิ้วเท้าจนแตก เป็นต้น นายวาสเซอุล นักท่องเที่ยวจากฝรั่งเศสกล่าวว่า“ก็เหมือนกับเรือนจำในไซ่ง่อนหรือเกาะกงดอ ที่นี่มีการทรมานนักโทษอย่างโหดเหี้ยมน่าสยดสยองมาก ที่คุมขังคับแคบ มีทั้งแบบขังในตู้คอนเทนเนอร์ที่วางตากแดดด้วย แต่เมื่อได้ชมภาพและข้อมูลต่างๆที่นี่ผมเห็นว่ายิ่งถูกทรมานนักปฏิวัติเวียดนามยิ่งมีความกล้าหาญ ยืนหยัดจิตใจแห่งการลุกขึ้นต่อสู้ศัตรูอย่างเด็ดเดี่ยว”

ที่ถือว่าโหดร้ายที่สุดคือการคุมขังนักโทษในกรงเสือ ซึ่งเป็นกรงเหล็กสูง1เมตรยาว2เมตรมีลวดหนามรอบกรง ผู้ที่ถูกขังในนี้ไม่สามารถยืน นอนหรือนั่งได้ ถ้าเมื่อยจนทนไม่ไหวแล้วขยับตัวนิดเดียวก็จะโดนลวดหนามทิ่มตัวทันที ตอนอากาศร้อนผู้ควบคุมเรือนจำจะเอาเตาถ่านร้อนวางไว้ข้างๆกรง ส่วนถ้าอากาศหนาวจะโดนสาดน้ำ   ถึงกลางคืนจะถูกลากออกจากคุกไปทำโทษด้วยวิธีการต่างๆที่โหดร้ายมาก ซึ่งจากการขุดค้นอัฐิหลายชุดในเขตเรือนจำแห่งนี้ยังพบร่องรอยของการทารุณกรรมนักโทษด้วยการตอกตะปูที่หัวเข่า ข้อเท้าหรือแม้กระทั่งบนศรีษะด้วยและพยานหลักฐานเหล่านี้ก็ยังคงถูกเก็บรักษาไว้ที่เขตแสดงของเรือนจำฟู้ก๊วก คุณหงอกแค้ง นักท่องเที่ยวจากฮานอยกล่าวว่า“คนรุ่นใหม่อย่างเราไม่อยากเชื่อเลยว่าในโลกนี้จะมีการทรมานทารุณกรรมนักโทษที่เหี้ยมโหดอย่างนี้ ทุกคนทุกคณะที่มาต่างร้องไห้เมื่อได้ฟังเรื่องราวต่างๆและได้เห็นสิ่งของที่เป็นพยานวัตถุที่สะท้อนให้เห็นถึงจิตใจแห่งความทรหดอดทนและกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของบรรพบุรุษ เราทราบซึ้งและสำนึกในความเสียสละเลือดเนื้อของคนรุ่นก่อนเพื่อเอกราชและเสรีภาพของประเทศในทุกวันนี้”

เรือนจำฟู๊ก๊วก-สัญลักษณ์แห่งความทรหดกล้าหาญของนักรบปฏิวัติ - ảnh 3

แต่ละปี เรือนจำฟู้ก๊วกได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศหลายหมื่นคนที่เดินทางมาเยือนและศึกษาเกี่ยวกับเกียรติประวัติแห่งการปฏิวัติของประชาชาติเวียดนาม รวมทั้งผู้ที่เป็นอดีตนักโทษที่เคยถูกคุมขัง ณ ที่แห่งนี้เพื่อหวนรำลึกถึงเพื่อนร่วมรบและช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ที่กล้าหาญในอดีต ในช่วงสงครามกู้ชาตินั้น เรือนจำฟู้ก๊วกคือโรงเรียนแห่งการปฏิวัติของผู้รักชาติเพื่อหล่อหลอมจิตใจอันเด็ดเดี่ยวในการต่อสู้และจนถึงปัจจุบัน สถานที่แห่งประวัติศาสตร์นี้คือพิพิธภัณฑ์แห่งชีวิตเพื่อให้คนรุ่นหลังศึกษาและเข้าใจในความเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ของชนรุ่นก่อนเพื่อเอกราชแห่งชาติ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด