นักดนตรีฟาน หวิ่ง เดี๋ยว-ปรมาจารย์ของดนตรีปฏิวัติเวียดนาม

( VOVworld )-นักดนตรีฟาน หวิ่ง เดี๋ยวได้รับการยกย่องว่า “ เป็นหัวหน้าฝูงนก ”ในวงการดนตรีการปฏิวัติเวียดนาม  ท่านแต่งเพลงหลายประเภทเช่น เพลงรักของหนุ่มสาว เพลงเกี่ยวกับความรักของเพื่อนร่วมรบและความรักประเทศ  ลีลาและคำร้องที่เต็มไปด้วยทำนองพื้นบ้านและแฝงไว้ซึ่งความรักที่ลึกซึ้งจนเข้าถึงใจผู้ฟัง


( VOVworld )-นักดนตรีฟาน หวิ่ง เดี๋ยวได้รับการยกย่องว่า “ เป็นหัวหน้าฝูงนก ”ในวงการดนตรีการปฏิวัติเวียดนาม  ท่านแต่งเพลงหลายประเภทเช่น เพลงรักของหนุ่มสาว เพลงเกี่ยวกับความรักของเพื่อนร่วมรบและความรักประเทศ  ลีลาและคำร้องที่เต็มไปด้วยทำนองพื้นบ้านและแฝงไว้ซึ่งความรักที่ลึกซึ้งจนเข้าถึงใจผู้ฟัง

นักดนตรีฟาน หวิ่ง เดี๋ยว-ปรมาจารย์ของดนตรีปฏิวัติเวียดนาม - ảnh 1

นักดนตรีฟาน หวิ่ง เดี๋ยวเป็นนักดนตรีเดินหน้าในวงการดนตรีร่วมสมัยของเวียดนามท่านหนึ่ง   ความรักประเทศอย่างแรงกล้าได้สร้างอารมณ์สุนทรีย์ให้แก่ท่านในการแต่งผลงานที่เข้าถึงใจคน  ท่านมักจะเตือนใจตัวเองว่า หากเกิดอารมณ์สุนทรียเมื่อไหร่ก็ต้องแต่งเพลงเลย เพราะหากปล่อยไว้นานจะไม่มีสมาธิแต่ง  ดังนั้นเพลงทุกบทไม่ว่าจะเป็นผลงานแรกของท่านล้วนได้แต่งเมื่อเกิดอารมณ์สุนทรีย์เช่น ผลงานชิ้นแรก “ หมากพลู ”  ต่อมาคือเพลง “ หน่วยทหารป้องกันประเทศ ” ที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ท่าน “ ความรักในโพสการ์ด ” และ “ เหมันต์กับทหาร ”  นักดนตรีฝ่าม หงอก คัว อุปนายกสมาคมนักดนตรีเวียดนามกล่าวว่า  “ บทเพลงของนักดนตรีฟาม หวิ่ง เดี๋ยวที่แต่งในช่วงปีคริสตศักราช ๑๙๔๐ ของศตวรรษที่ ๒๐ ต่างกล่าวถึงการพัฒนาของประวัติศาสตร์ประเทศ เป็นเพลงที่มีทำนองพื้นบ้าน  ทั้งนี้ทำให้ผลงานของท่านคงอยู่กับกาลเวลาและกลายเป็นเพลงอมตะ  ผลงานที่ท่านที่ทิ้งไว้นั้นเป็นมรดกให้แก่คนรุ่นใหม่และกลายเป็นเพลงแห่งตำนาน ”

นักดนตรีฟาน หวิ่ง เดี๋ยวยังได้รับฉายาว่า “ เจ้าชายแห่งการแต่งดนตรีให้แก่กลอน ”  บทกลอนหลายบทที่ได้รับการแต่งดนตรีได้รับการตอบรับและนิยมจากผู้ฟังมาจนถึงปัจจุบัน เช่น เพลง “ ผู้คนที่ตายแล้ว ” เพลงบทนี้คำร้องเป็นของกวีเต๊ แฮง ดนตรีของฟาน หวิ่ง เดี๋ยว  เพลง “ ลีลาเศร้า ” คำร้องของกวีฮุย เกิ่นปีค.ศ.๑๙๔๙  แต่เพลงที่ได้รับการแต่งดนตรีให้แก่บทกลอนต่างๆที่เข้าถึงจิตใจของบรรดาผู้ที่รักดนตรีและกลายเป็นเพลงอมตะก็ต้องกล่าวถึงคือเพลงของท่านในช่วงปีคริศตศักราช ๑๙๗๐เช่น ร่มเงาต้นเกอเนีย คำร้องของกวีหงอกแอง เพลง โอ้ชีวิตช่างสวยงามเหลือเกิน คำร้องของเซือง เฮือง ลี  เพลงแมทคืนและวัน คำร้องของบุ่ย โกง มินห์  เพลง พี่อยู่ที่ต้นน้ำฉันอยู่ที่ปลายน้ำ คำร้องของหว่าย หวู   มาช่วงปีคริศตศักราช๑๙๘๐ กลอนของกวีซวนกวิ่งเมื่อได้ดนตรีของนักดนตรีฟาน หวิ่ง เดี๋ยว ทำให้มีความไพเราะมากขึ้นเช่นเพลง “ บทกวีรักปลายฤดูไม้ผลัดใบ”  “ เรือกับทะเล ”และ “ คลื่นทะเล ”  นักดนตรีฟาน หวิ่ง เดี๋ยวเคยเปรียบเทียบว่า “ กลอนกับดนตรีเป็นเหมือนฝาแฝด ” กวีแต่งกลอนโดยการเลือคำที่สละสวยและไพเพราะ ส่วนนักดนตรีเลือกโน้ตเพลงแต่ละโน้ตเพื่อแต่งเป็นผลงานที่ไพเราะ  ดังนั้นผลงานเพลงที่ท่านทิ้งไว้นั้นกว่างครึ่งหนึ่งเป็นเพลงที่มีคำร้องเป็นกลอน  เพลงของนักดนตรี ฟาน หวิ่ง เดี๋ยวมักจะแต่งในแนวพื้นเมืองและแนวรักที่มองเห็นลู่ทางที่สดใส  ดังนั้นจึงซึมซับเข้าจิตใจคนและทำให้คนจำจนขึ้นใจไปเอง  ผลงานของท่านมักจะใช้คำที่เรียบง่ายแต่มีการเกลาที่ดีที่สุดดังเช่นคำร้องในเพลง “ คืนนี้พี่อยู่ไหน ” ว่า “แสงดาวระยิบระยับตลอดคืนเหมือนดวงตาของคู่รักกำลังหากัน ” นักนตรีวัน ซุง กล่าวถึงผลงานของอดีตนักดนตรีฟาน หวิ่ง เดี๋ยวผู้ล่วงลับว่า  “ ท่านแต่งผลงานในหัวข้อต่างๆหลายผลงาน พวกเรารู้จักนักดนตรีฟาน หวิ่ง เดี๋ยวเพราะเพลงที่ไพเราะของท่าน   อาจกล่าวได้ว่า  ผลงานที่นักดนตรีฟาน หวิ่ง เดี๋ยว แต่งในระยะหนึ่งของประวัติศาสตร์ประเทศเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นมรดกที่ท่านทิ้งไว้ให้แก่ประชาชนและคนรุ่นหลังๆ ”    จากส่วนอุทิศให้แก่ดนตรีเวียดนาม นักดนตรี ฟาน หวิ่ง เดี๋ยวได้รับรางวัลโฮจิมินห์สาขาวรรณกรรมและศิลปะจากรัฐ  แม้ท่านได้จากพวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับแต่ผลงานของท่านก็เป็นผลงานอมตะ . 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด