ในช่วงสงคราม สถานีวิทยุเวียดนามคือช่องทางการสื่อสารที่จัดสรรค์ข้อมูลข่าวสารให้แก่ประชาชนทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ โดยในนาทีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ประชาชนเวียดนามทุกคนมักจะรอฟังบทกวีอวยพรปีใหม่ประเพณีของประธานโฮจิมินห์ผ่านทางสถานีวิทยุเวียดนาม

สำหรับกวีเวืองจ่อง เขายังคงจดจำนาทีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในช่วงวัยเด็กที่ได้ฟังประธานโฮจิมินห์อ่านบทกวีอวยพรปีใหม่ประเพณี “หมู่บ้านของผมตอนนั้นอยู่ใกล้ค่ายทหารแห่งหนึ่ง จึงได้ต่อสายสัญญาณลำโพงจากค่ายทหารมาที่หมู่บ้าน รวมระยะทาง 1 กิโลเมตร เพื่อรับฟังรายการวิทยุต่างๆ เช่น การขับกวีและการแสดงบทละครเวทีวิทยุ โดยเฉพาะในนาทีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทุกคนจะมาชุมนุมกันที่บริเวณลำโพงเพื่อรับฟังประธานโฮจิมินห์อ่านบทกวีอวยพรปีใหม่ประเพณี”

ประธานโฮจิมินห์ได้ประยุกต์ใช้กลอนในบทกวีเรื่องนางเกี่ยวของมหากวีเหงวียนซูและใช้วิธีการแต่งบทกวีพื้นเมืองของเวียดนามในการแต่งบทกวีอวยพรปีใหม่ ส่วนเนื้อหาของบทกวีนั้น ออกแนวพยากรณ์และยืนยันเป้าหมายอันสูงส่งของการต่อสู้เพื่อกู้ชาติคือ เอกราชและเสรีภาพของประชาชาติ และทำให้ประชาชนมีความอิ่มหนําผาสุก ซึ่งกวีทุกบทต่างมีทำนองเรียบง่าย แต่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของทหารและประชาชนเวียดนามในกระบวนการต่อสู้ ดังเช่นบทกวีอวยพรปีระกา 1969 ที่ระบุว่า “ปีที่ผ่านมาเราได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่/ ปีนี้ การต่อสู้อาจประสบความสำเร็จมากขึ้น/ เพื่อเอกราชเพื่อเสรีภาพ/ จงต่อสู้ขับไล่ทหารอเมริกันและทหารหุ่นไซ่ง่อน/ ทหารและพี่น้องประชาชนจงเดินหน้าต่อสู้ต่อไป/ เหนือใต้รวมเป็นหนึ่งเดียว วสันต์นี้จะเป็นวสันต์แห่งความสุข” ซึ่งนักดนตรีฮวีถูกได้แต่งดนตรีประกอบบทกวีนี้ จึงทำให้กวีมีคุณค่ามากขึ้นในการให้กำลังใจทหารและประชาชนในภารกิจการต่อสู้เพื่อกู้ชาติในตอนนั้น กวีเวืองจ่อง ซึ่งเป็นทหารผ่านศึกได้เล่าให้ฟังว่า“พวกเราไม่เพียงแต่ได้รับฟังการอ่านบทกวีอวยพรปีใหม่ประเพณีของประธานโฮจิมินห์ผ่านสถานีวิทยุเวียดนามเท่านั้น หากยังได้ฟังเพลงที่มีเนื้อร้องเป็นกวีของประธานโฮจิมินห์อีกด้วย ซึ่งนับว่า มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ใช่ว่าทุกอย่างจะสามารถสื่อออกมาผ่านกวีได้หมด แต่ ประธานโฮจิมินห์สามารถทำได้นั่นคือวางแนวทางการต่อสู้ที่ถูกต้องให้แก่สถานการณ์ในตอนนั้นที่ก่อนอื่นต้องขับไล่สหรัฐออกจากเวียตนามเพื่อไม่ให้แทรกแซงในสงครามของเวียดนามอีกแล้วจากนั้นคือการต่อสู้โค่นล้มทางการหุ้นไซ่ง่อน ซึ่งในระยะต่อไปการปฏิวัติเวียดนามก็ได้รับการปฏิบัติตามแนวทางนี้”

เมื่อหวนมองดูช่วงสงครามกู้ชาติที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก อาจกล่าวได้ว่า การอ่านบทกวีอวยพรปีใหม่ประเพณีของประธานโฮจิมินห์เป็นการสร้างพลังรวมใจประชาชนผ่านทางสถานีวิทยุเวียดนามอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนับตั้งแต่ตรุษเต๊ตตามประเพณีปีกุน 1947 การอ่านบทกวีอวยพรปีใหม่ประเพณีของประธานโฮจิมินห์ผ่านทางสถานีวิทยุเวียดนามก็ได้กลายเป็นประเพณีที่ดีงามและได้รับการรอคอยเป็นอย่างมากในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  นาย เจิ่นดึ๊กนวย อดีตผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุปลดปล่อยเอได้เผยว่า ความหมายที่ลึกซึ้งในบทกวีอวยพรปีใหม่ประเพณีของประธานโฮจิมินห์คือสร้างความมั่นใจและความหวังในปีใหม่ “ในนาทีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ทุกๆปี ประธานประเทศจะกล่าวอวยพรปีใหม่ประชาชนทั่วประเทศ แต่มีเพียงบทกวีอวยพรปีใหม่ประเพณีของประธานโฮจิมินห์ที่มีการพยากรณ์สถานการณ์อย่างถูกต้องและสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับชัยชนะต่างๆในปีใหม่  ซึ่งปัจจุบัน เราก็สานต่อเกียรติประวัติที่ดีงามดังกล่าวและมุ่งสู่การพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองในปีใหม่ 2017 ภายใต้การนำของรัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์และปฏิบัติ”

ในอดีต ประชาชนเวียดนามได้คุ้นเคยกับการรับฟังบทกวีอวยพรปีใหม่ประเพณีของประธานโฮจิมินห์ผ่านทางสถานีวิทยุเวียดนามในนาทีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ถึงแม้ประธานโฮจิมินห์จะไม่อยู่กับชาวเวียดนามอีกต่อไป แต่ของขวัญทางใจที่เป็นบทกวีอวยพรปีใหม่ประเพณีของท่านยังเป็นสิ่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่เปรียบเสมือนเสียงแห่งปิตุภูมิที่เรียกร้องให้คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญต่อเอกราช เสรีภาพ ความสามัคคีและสันติภาพ.