การชุมนุมเพื่อทวงคืนอำนาจการปกครองกลับสู่ประชาชนซึ่งจัดโดยเวียดมิง ณ บริเวณด้านหน้าโรงละครใหญ่ฮานอย

73 ปีได้ผ่านพ้นไป แต่นาย หว่างหงอก ในหมู่บ้านเตินเหลิบ ตำบลเตินจ่าว จังหวัดเตวียนกวาง ยังไม่เคยลืมความทรงจำของวันที่ 21 พฤษภาคมปี 1945 ที่ประธานโฮจิมินห์เดินทางจากกาวบั่งกลับเตวียนกวางเพื่อชี้นำขบวนการปฏิวัติของประเทศ โดยท่านได้เลือกตำบลเตินจ่าว อำเภอเซินเยือง เป็นเมืองหลวงของเขตปลดปล่อยและฐานที่มั่นแห่งการปฏิวัติ โดยในความทรงจำของเด็กชายอายุ 10 ขวบ ในช่วงนั้น มีเจ้าหน้าที่หลายคนที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ได้มาพักที่บ้านของเขาและครอบครัวอื่นๆ  ในขณะที่กำลังจัดการประชุม คณะผู้แทนของประชาชนเตินจ่าวได้มาแสดงความยินดีต่อการประชุมสมัชชาใหญ่และนาย หว่างหงอกได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะยุวชน นาย หงอก เล่าให้ฟังว่า “พวกเราเป็นชนเผ่าไต ในยุคที่ถูกกดขี่ขูดรีด ชีวิตของประชาชนลำบากมาก หลังจากเกิดการปฏิวัติ พรรคและลุงโฮได้ให้การศึกษาเกี่ยวกับจิตใจแห่งการปฏิวัติ ประชาชนชนเผ่าทุกหมู่เหล่ารู้สึกปลื้มปิติยินดีมาก โดยทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจสนับสนุนการปฏิวัติ  ลุงโฮพูดอะไร เจ้าหน้าที่นักปฏิวัติพูดอะไรพวกเราก็ปฏิบัติตาม”

ด้วยความเชื่อมั่นและปฏิบัติตามพรรค ประชาชนในเขตเขาเตินจ่าวได้ช่วยให้ที่ซ่อนตัว ปกป้อง รักษาความปลอดภัยให้แก่นักปฏิวัติ ลุงโฮและการปฏิวัติในช่วงก่อนเริ่มทำการลุกขึ้นสู้ ที่นี่คือศูนย์บัญชาการคำสั่งลุกขึ้นสู้ช่วงชิงอำนาจรัฐในทั่วประเทศ มีบทบาทสำคัญต่อผลสำเร็จของการปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่ของประชาชาติ ศาตราจารย์ ดร. หมากกวางทั้ง จากสถาบันการเมืองรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ได้ยืนยันว่า เพื่อมุ่งไปสู่การปฏิวัติเดือนสิงหาคม พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เตรียมพร้อมอย่างรอบครอบเป็นเวลา 15 ปี “พวกเราได้เตรียมพร้อมทั้งด้านแนวทาง การก่อตั้งพรรคเมื่อปี 1930 การฝึกซ้อมครั้งใหญ่ในช่วงปี 1930-1931 ขบวนการปฏิวัติโซเวียด-เหงะติ๋ง การฟื้นฟูการปฏิวัติในช่วงปี 1931-1935 ขบวนการปฏิวัติในช่วงปี 1936-1939 โดยเฉพาะในช่วงปี 1939-1945 การใช้โอกาส เกาะติดสถานการณ์ของการปฏิวัติ การเตรียมเปลี่ยนแนวทางการชี้นำเชิงยุทธศาสตร์ การเตรียมพร้อมในทุกด้าน เปิดการรณรงค์ขบวนการต่างๆผสานกับพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติ พลังที่เข้มแข็งของนานาชาติ นั่นคือการเตรียมพร้อมที่รอบคอบที่สุด”

จากเตินจ่าว คำสั่งลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ได้รับการเผยแพร่ไปในทั่วประเทศและได้รับการตอบรับจากประชาชนทุกคน โดยเช้าวันที่ 19 สิงหาคม ประชาชนนับหมื่นคนได้มุ่งหน้าไปยังจัตุรัสโรงละครใหญ่ฮานอย ทำการชุมนุมแล้วเข้ายึดทำเนียบ ฝูเคิมซาย บั๊กกี่ ของทางการหุ่นในภาคเหนือ เรือนจำและสำนักงานอื่นๆของรัฐบาลหุ่น ซึ่งเป็นการสร้างนิมิตหมายทองให้แก่การลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ของการปฏิวัติเดือนสิงหาคม

ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมได้สร้างบทเรียนที่ล้ำค่าต่างๆโดยเฉพาะบทเรียนในการถือประชาชนเป็นรากฐาน สร้างสรรค์และส่งเสริมกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ซึ่งเป็นกองกำลังร่วมของกรรมกร แรงงาน ปัญญาชนเป็นหลัก บนพื้นฐานของผลประโยชน์ ความต้องการและความปรารถนาของประชาชนเพื่อรวบรวม ระดมประชาชนให้ทำการลุกขึ้นสู้“ใช้พลังที่เข้มแข็งของเราเพื่อปลดปล่อยเรา” ดร. หยิ เล รองบรรณาธิการใหญ่นิตยสารคอมมิวนิสต์ได้ยืนยันว่า การปฏิวัติเดือนสิงหาคมได้สร้างเป็นกระบวนการปฏิวัติที่กว้างขวางอย่างไม่เคยมีมาก่อนโดยมีหลายฝ่ายเข้าร่วมและไม่มีการจำแนกชนเผ่า ศาสนาและชนชั้นนี่คือการปฏิวัติของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนและนั่นคือรากฐานของการปฏิวัติเดือนสิงหาคม

73 ปีได้ผ่านพ้นไป ชัยชนะของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมได้แสดงให้เห็นถึงบทเรียนแห่งความสามัคคีและถือประชาชนเป็นรากฐานนั้นมีความหมายลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง.