การเลือกตั้งสภาล่างรัสเซีย: สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน

(VOVworld) – ในการเลือกตั้งสภาดูมาหรือสภาล่างรัสเซียที่เพิ่งเสร็จสิ้นลง พรรคยูไนเต็ดรัสเซียได้รับชัยชนะ ถึงแม้การเลือกตั้งได้มีขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่างๆและรัสเซียต้องเผชิญ กับอุปสรรคมากมาย แต่พรรครัฐบาลยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และชัยชนะของพรรคยูไนเต็ดรัสเซียยังช่วยเปิดทางให้นาย วลาดีเมียร์ ปูติน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียเป็นสมัยที่ 4 ในการเลือกตั้งในปี 2018
(VOVworld) – ในการเลือกตั้งสภาดูมาหรือสภาล่างรัสเซียที่เพิ่งเสร็จสิ้นลง พรรคยูไนเต็ดรัสเซียได้รับชัยชนะ ถึงแม้การเลือกตั้งได้มีขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่างๆและรัสเซียต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่พรรครัฐบาลยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และชัยชนะของพรรคยูไนเต็ดรัสเซียยังช่วยเปิดทางให้นาย วลาดีเมียร์ ปูติน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียเป็นสมัยที่ 4 ในการเลือกตั้งในปี 2018

การเลือกตั้งสภาล่างรัสเซีย: สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน - ảnh 1
ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน กล่าวปราศรัยภายหลังการเลือกตั้ง (AFP)
ในการเลือกตั้งดูมาแห่งชาติรัสเซียหรือสภาล่างรัสเซียสมัยที่ 7 พรรคยูไนเต็ดรัสเซียของประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน ได้รับเสียงสนับสนุนกว่าร้อยละ 54 ซึ่งทิ้งห่างพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซียหรือเคพีอาร์เอฟที่มาเป็นอันดับสอง ด้วยคะแนนร้อยละ 13 เท่านั้น ทำให้พรรคยูไนเต็ดรัสเซียได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งและได้ 343 ที่นั่งในรัฐสภาจากจำนวนทั้งหมด 450 ที่นั่ง
ฟันฝ่าการทดสอบความไว้วางใจของประชาชน
การเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจของรัสเซียกำลังอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างหนัก เพราะคำสั่งคว่ำบาตรจากฝ่ายตะวันตกที่เกี่ยวข้องถึงวิกฤตยูเครนและยุทธนาการทางทหารในซีเรีย แต่ดูเหมือนว่า อุปสรรคด้านเศรษฐกิจที่รัสเซียกำลังต้องเผชิญจะไม่ส่งผลกระทบต่อท่าทีของประชาชน เพราะอัตราผู้ที่สนับสนุนนาย วลาดีเมียร์ ปูติน ยังอยู่ในระดับสูง มาตรการคว่ำบาตรได้ส่งผลกระทบต่อทั้งกลุ่มคนที่มีฐานะและประชาชนทั่วไป แต่ทุกคนต่างแสดงความเห็นว่า มาตรการคว่ำบาตรนี้มุ่งเป้าไปยังพวกเขามากกว่ารัฐบาล ประธานาธิบดี ปูติน ถือเป็น “สัญลักษณ์แห่งความสามัคคี” ชาวรัสเซียมีความภาคภูมิใจต่อนาย ปูติน เหมือนความภาคภูมิใจในประเทศ หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ความไว้วางใจต่อนาย ปูติน ไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของชีวิตประจำวัน
นาย ปูติน ปัจจุบันอายุ 63 ปี ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีรัสเซียรวมเวลา 17 ปี ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งส่วนใหญ่แสดงความเห็นว่า ไม่มีใครที่มีความสามารถมากพอที่จะแทนนาย ปูติน และพวกเขามีความวิตกกังวลว่า รัสเซียจะตกเข้าสู่ช่วงเวลาที่วุ่นวายและไร้เสถียรภาพเหมือนในช่วงปี 1990 หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย ถ้าหากนาย ปูติน ไม่เป็นผู้นำประเทศ นาย ปูตินมีแนวทางผลักดันความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ แก้ปัญหาความยากจน พัฒนากลุ่มชนชั้นกลาง และเพิ่มดัชนีการใช้จ่าย นอกจากนั้น ในความคิดของชาวรัสเซีย ไครเมียร์ถือเป็นความรุ่งโรจน์และความภาคภูมิใจของประชาชาติ เป็นดินแดนที่กองทัพของพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซียได้ต่อสู้กับกองกำลังของอังกฤษ ฝรั่งเศสและตุรกีเมื่อศตวรรษที่ 19 ดังนั้น ชาวรัสเซียจึงไม่เรียกร้องให้ผู้นำเปลี่ยนแปลงทัศนะต่อสถานการณ์ในยูเครน และยังคงมีความไว้วางใจต่อผู้นำของประเทศต่อไป
การเลือกตั้งสภาล่างรัสเซีย: สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน - ảnh 2
นาย ดมีตรี เมดเวเดฟ หัวหน้าพรรคยูไรเต็ดรัสเซีย (AFP)

ความท้าทายยังมีอยู่มากมาย
อย่างไรก็ตามจะไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า อุปสรรคด้านเศรษฐกิจก็ได้ทำให้ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สูงเท่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2007 ที่พรรคยูไนเต็ดได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น นอกจากนั้น อัตราผู้ที่สนับสนุนพรรครัฐบาลในรัสเซียในเวลาที่ผ่านมาก็ได้ลดลง โดยถึงแม้พรรคยูไนเต็ดรัสเซียจะมีคะแนนนำ แต่ก็ได้ร้อยละ 41.1 เท่านั้น ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่า ประเทศรัสเซียที่กำลังเข้าสู่ปีที่ 3 ของการถดถอยทางเศรษฐกิจได้ทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งค่อนข้างมีความระมัดระวัง จากสถานการณ์ที่เป็นจริงปรากฎว่า เมื่อปี 2015 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีของรัสเซียได้ลดลงร้อยละ 3.7 และคาดว่าจะลดลงอีกร้อยละ 1.9 ในปีนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติลดลงอย่างหนัก ในขณะที่คำสั่งคว่ำบาตรของตะวันตกยังคงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจรัสเซีย ตามรายงานสถิติ ในช่วงปี 2014-2017 รัสเซียสูญเสียรายได้ 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจากการถูกคว่ำบาตร  ธนาคารโลกเผยว่า รัสเซียกำลังเข้าสู่ระยะชะลอตัว ค่าเงินรูเบิลตกต่ำ มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกกำลังสร้างอุปสรรคต่อธนาคารรัสเซียในการเข้าถึงตลาดการเงินต่างประเทศ
นอกจากนั้น ความท้าทายอีกอย่างที่ต้องกล่าวถึงก็คือ ความขัดแย้งด้านความสัมพันธ์กับยูเครนและสหรัฐภายหลังการเลือกตั้งในรัสเซีย ที่น่าสนใจคือ การเลือกตั้งมีการเข้าร่วมของชาวไครเมียร์หลังจากแหลมไครเมียร์ถูกผนวกรวมเข้ากับรัสเซียเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งสหรัฐและยูเครนต่างได้คัดค้าน และยืนยันว่า จะไม่รับรองความชอบธรรมของการเลือกตั้งในไครเมียร์ แน่นอนว่า การที่รัสเซียรับรองผลการเลือกตั้งที่ชอบธรรมบนแหลมไครเมียร์จะเป็นปัจจัยกระตุ้นความขัดแย้งที่กำลังมีอยู่กับสหรัฐและยูเครน ซึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ การทวีความตึงเครียดกับ 2 ประเทศนี้จะทำให้กระบวนการแก้ไขปัญหายูเครน ตลอดจนปัญหาที่ร้อนระอุที่มีการเข้าร่วมของรัสเซียและสหรัฐมีความลำบากมากขึ้น
อุปสรรคทั้งภายในและต่างประเทศล้วนเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ต่อประเทศรัสเซีย นี่จะเป็นอุปสรรคที่พรรคยูไนเต็ดรัสเซีย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลและประธานาธิบดี ปูติน ต้องฟันฝ่าในเวลาที่จะถึงเพื่อหลุดพ้นจากอุปสรรคด้านเศรษฐกิจและนำเสถียรภาพมาสู่ประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยในการเพิ่มอำนาจและความมั่นคงให้แก่พรรคยูไนเต็ดรัสเซียในช่วงนี้ ดังนั้น การที่พรรครัฐบาลรัสเซียได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะไม่ใช่เป็นผลสุดท้าย หากแต่เป็นการเริ่มต้นการเดินบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ของทางการประธานาธิบดี ปูติน.

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด