ขยายความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับฟิลิปปินส์

(VOVWORLD) -ตามคำเชิญของประธานประเทศ หวอวันเถือง นาย Ferdinand Romualdez Marcos Jr ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์พร้อมภริยาได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม ซึ่งกิจกรรมการต่างประเทศที่สำคัญนี้ได้มีส่วนช่วยยืนยันอีกครั้งถึงความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองในระดับสูงสุดและเป็นพลังขับเคลื่อนในการขยายความสัมพันธ์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศในเวลาที่จะถึง

นี่คือการเยือนเวียดนามครั้งแรกของประธานาธิบดี Ferdinand Romualdez Marcos Jr นับตั้งแต่ที่ขึ้นดำรงนำแหน่งเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2022 โดยมีขึ้นในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศกำลังมุ่งสู่การฉลองครบรอบ 10 ปี การสถาปนาควมสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในปี 2025 และ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2026

ธำรงการพัฒนาความสัมพันธ์ให้เข้มแข็งต่อไป

นับตั้งแต่ที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมปี 1976 ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง. โดยเฉพาะการพบปะทางการเมืองในระดับสูงยังคงได้รับการธำรงอยู่เสมอ

ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจมีการพัฒนาอย่างเข้มแข็ง มูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2010 และถึงปี 2020 ตัวเลขนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า อยู่ที่ 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้กระทั่งในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ที่ผ่านมา มูลค่าในปี 2021 ได้บรรลุ 6.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2022 บรรลุ 7.8 และปี 2023 บรรลุเท่ากับตัวเลขในปี 2022 นาย หลายท้ายบิ่งห์ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำฟิลิปปินส์ได้แสดงความคิดเห็นว่า

            “นี่เป็นก้าวพัฒนาที่น่ายินดี ซึ่งสะท้อนความพยายามของทั้งสองฝ่ายในการธำรงการแลกเปลี่ยนการค้าในสภาวการณ์ที่มีความยากลำบากมากมาย อาจกล่าวได้ว่า ถึงขณะนี้ เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเป็นเศรษฐกิจที่สนับสนุนกันอย่างเข้มแข็ง นอกจากนี้ ความร่วมมือในด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและการพบปะในระดับประชาชนก็ได้รับการขยาย ธำรงและพัฒนาอย่างน่ายินดี”

ปัจจุบันนี้ ฟิลิปปินส์เป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 6 ของเวียดนามในกลุ่มอาเซียนและอันดับ 16 ของโลก พร้อมทั้งเป็นตลาดนำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ซึ่งนอกจากได้รับประโยชน์ในด้านการค้า การที่เวียดนามส่งออกข้าวไปยังฟิลิปปินส์ยังคงมีส่วนร่วมปกป้องความมั่นคงด้านอาหารของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ในสภาวการณ์ที่เวียดนามเป็นประเทศส่งออกสินค้าเกษตรชั้นนำของภูมิภาคและฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 2 ของอาเซียน ความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างสองประเทศยังคงมีโอกาสร่วมมืออีกมาก

ทั้งสองฝ่ายกำลังปฏิบัติโครงการปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระยะปี 2019-2024 เห็นพ้องเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุ 1 หมื่นพันล้านดอลลาร์สหรัฐในเวลาที่จะถึง และควบคู่กับความร่วมมือในด้านการค้าและการลงทุน ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การศึกษาและการท่องเที่ยวยังเป็นอีกด้านที่ทั้งสองประเทศได้ส่งเสริมความร่วมมือ ส่วนในปัญหาระดับภูมิภาคและโลก ทั้งสองฝ่ายต่างประสานและสนับสนุนกันในฟอรั่มและองค์กรระหว่างประเทศสำคัญๆ เช่น สหประชาชาติและอาเซียน เป็นต้น

ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อความร่วมมือในสภาวการณ์ภูมิภาคและโลกปัจจุบัน

เวียดนามและฟิลิปปินส์แลกเปลี่ยนทัศนะเดียวกันที่เกี่ยวข้องถึงภูมิศาสตร์ ขอบเขตประชากร ทักษะความสามารถในการพัฒนาและอาจกล่าวได้ว่า ทั้งสองฝ่ายมีความคล้ายคลึงกันในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและมนุษย์ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่เอื้ออำนวยให้สองประเทสผลักดันความร่วมมือในด้านที่ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ เอกอัครราชทูต หลายท้ายบิ่งห์ ยืนยันว่า

“ควบคู่กับการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ยังมีความหมายสำคัญที่ยืนยันถึงการประสานงานระหว่างสองประเทศสมาชิกอาเซียนและผลักดันบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน หลังการเยือนครั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะได้รับการผลักดันในทุกด้าน มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ สันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาของภูมิภาคและโลก ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกและภูมิภาคมีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก”

จากพื้นฐานคือความสัมพันธ์ที่ดีงามในตลอดเกือบ 50 ปีที่ผ่านมา การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์มีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ ระหว่างผู้นำระดับสูงและความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกด้านให้นับวันแน่นแฟ้นมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด