นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เป็นประธานการประชุมปฏิบัติโครงการปฏิบัติของรัฐบาลเกี่ยวกับการทูตเศรษฐกิจในปี 2023  (VGP)

การทูตเศรษฐกิจ การทูตทางการเมืองและการทูตวัฒนธรรมคือสามเสาหลักของการทูตที่รอบด้านและทันสมัย มีความเชื่อมโยงและสนับสนุนกันเพื่อร่วมปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศของพรรคและรัฐเวียดนาม โดยการทูตเศรษฐกิจของเวียดนามกำลังได้รับการปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของมติที่ 15 โดยกำหนดว่า “การทูตเศรษฐกิจคือหน้าที่ขั้นพื้นฐานของการทูตเวียดนาม เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนและรวดเร็ว”

ผลสำเร็จที่น่ายินดี

จากการชี้นำที่ทันการณ์ของผู้นำพรรคและรัฐ ในปี 2022 และในครึ่งแรกของปี 2023 หน่วยงานการทูตได้แสดงความเป็นฝ่ายรุกและคล่องตัวในการเปลี่ยนจากการทูตวัคซีนมาเป็นการทูตเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ งานด้านการทูตเศรษฐกิจได้รับการผลักดัน กลายเป็นหน้าที่หลักของหน่วยงานและองค์การตัวแทนของเวียดนามในต่างประเทศรวม 94 แห่ง กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อปฏิบัติแนวทางของการประชุมใหญ่ทั่วประเทศครั้งที่ 13 ของพรรคเกี่ยวกับการทูตเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนการพัฒนา โดยถือประชาชน ท้องถิ่นและสถานประกอบการเป็นศูนย์กลาง กระทรวงการต่างประเทศได้ยื่นเสนอให้คณะเลขาธิการส่วนกลางประกาศมติที่ 15 เกี่ยวกับการทูตเศรษฐกิจสนับสนุนการพัฒนาของประเทศถึงปี 2030 สร้างพลังขับเคลื่อนเพื่อให้หน่วยงานทุกระดับ ตั้งแต่ท้องถิ่นจนถึงส่วนกลางเพื่อปฏิบัติการทูตเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการในการพัฒนาประเทศในยุคใหม่ นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ระบุว่า

“เรากำหนดว่า ต้องสร้างสรรค์การทูตเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนการพัฒนา โดยถือประชาชนและสถานประกอบการเป็นศูนย์กลาง งานด้านการทูตเศรษฐกิจจะสำเร็จก็ต่อเมื่อได้รับการสนับสนุน การประสานงานอย่างใกล้ชิด การเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและการเป็นฝ่ายรุกของท้องถิ่น สถานประกอบการ โดยเฉพาะองค์การที่เป็นตัวแทนของเวียดนามในต่างประเทศอย่างเข้มแข็ง กระทรวงการต่างประเทศหวังว่า จะรับทราบความต้องการในการพัฒนา การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของท้องถิ่นและสถานประกอบการเพื่อวางมาตรการและแผนการพัฒนางานด้านการทูตเศรษฐกิจ”

ในการปฏิบัติแนวทางของพรรคและรัฐ หน่วยงานการทูตได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน โดยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกลายเป็นเนื้อหาหลักในกิจกรรมการต่างประเทศทุกระดับ ในกิจกรรมการต่างประเทศกว่า 70 กิจกรรมในปี 2022 และครึ่งแรกของปี 2023 ผู้นำพรรค รัฐ รัฐบาลและสภาแห่งชาติต่างชี้นำอย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ โดยในการเยือนต่างประเทศของบรรดาผู้นำ และการเยือนเวียดนามของผู้นำต่างประเทศล้วนแต่ประสบผลที่น่ายินดี มีข้อตกลงต่างๆที่เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพเกี่ยวกับเศรษฐกิจ งานด้านการต่างประเทศได้เกาะติดแนวทางใช้โอกาสและพลังทุกแหล่งเพื่อพัฒนาประเทศ

หน่วยงานการทูตได้มีส่วนร่วมมากมายในการผลักดันการผสมผสานและการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างทันการณ์ คล่องตัวและใช้แหล่งพลังจากภายนอกเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนา โดยเฉพาะการเงินแห่งสีเขียวและการลงทุนให้แก่การปรับเปลี่ยนด้านพลังงานและอุตสาหกรรมชั้นสูง โดยเฉพาะการที่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกหรือ G7 ยุโรปและเวียดนามได้ประกาศเกี่ยวกับความสัมพันธ์ “หุ้นส่วนเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยุติธรรม” หรือ JETP ระดมการลงทุนเบื้องต้นมูลค่า 1 หมื่น 5 พัน 5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ เครือบริษัท Lego ได้ก่อสร้างโรงงาน Carbon neutrality แห่งแรกของโลกในเวียดนาม ที่ใช้เงินลงทุน 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ จังหวัดบิ่งเยือง ส่วนบริษัท Samsung ก็เปิดศูนย์วิจัยพัฒนามูลค่า 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ กรุงฮานอย กระทรวงการต่างประเทศสนับสนุนและผลักดันการปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรี 15 ฉบับที่ได้รับการลงนามอย่างมีประสิทธิภาพ ให้คำปรึกษาและข้อเสนอต่างๆ เพื่อช่วยให้เวียดนามเข้าร่วมความคิดริเริ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างทันการณ์เพื่อใช้พลังทุกแหล่งให้แก่การพัฒนา ปฏิบัติแนวทางถือประชาชน ท้องถิ่นและสถานประกอบการเป็นศูนย์กลาง ในปี 2022 และครึ่งแรกของปี 2023 กระทรวงการต่างประเทศได้จัดคณะปฏิบัติงานกว่า 50 คณะลงพื้นที่ปฏิบัติงานใน 25 ท้องถิ่น และจัดกิจกรรมเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นกับหุ้นส่วนประมาณ 70 กิจกรรม สนับสนุนการลงนามเอกสารความร่วมมือระหว่างประเทศกว่า 40 ฉบับ ซึ่งความพยายามเหล่านี้ได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมากจากทางการท้องถิ่นและสถานประกอบการ

กำหนดแนวทางการทูตเศรษฐกิจในระยะใหม่

มติที่ 15 ของคณะเลขาธิการกลางพรรคคือการกำหนดแนวทางที่สำคัญสำหรับงานด้านการทูตเศรษฐกิจในช่วงการพัฒนายุทธศาสตร์ใหม่ของประเทศถึงปี 2030 แต่เพื่อปฏิบัติมตินี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เป็นประธานการประชุมผลักดันการทูตเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศเมื่อเดือนกันยายนปี 2022 และการประชุมสรุปผลงานด้านการทูตวัคซีนและประสบการณ์เพื่อผลักดันงานด้านการทูตเศรษฐกิจในสภาวการณ์ใหม่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2022 และเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยังเป็นประธานการประชุมปฏิบัติโครงการปฏิบัติของรัฐบาลเกี่ยวกับการทูตเศรษฐกิจปี 2023 โดยกำชับว่า

“ผมมีความปรารถนาและเชื่อมั่นว่า ความร่วมแรงร่วมใจและความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ของหน่วยงานการทูตเวียดนาม รวมทั้งสำนักงานตัวแทนในต่างประเทศของเวียดนาม กระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและสถานประกอบการ เราสามารถปฏิบัติแนวทางการทูตที่ “รักใคร่ ซื่อสัตย์ น่าไว้วางใจ ยุติธรรม ให้ความเคารพ อย่างมีประสิทธิภาพและร่วมกันพัฒนา”  เราจะประสบผลใหม่ที่น่ายินดีต่างๆ เพื่อมีส่วนร่วมต่อภารกิจการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยมากขึ้น สร้างสรรค์ระบบเศรษฐกิจที่พึ่งตนเอง เป็นฝ่ายรุกและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอยางกว้างลึกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและความผาสุกของประชาชน”