พัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ไทยเข้าสู่ส่วนกว้างและส่วนลึก

(VOVworld) – การเยือนไทยอย่างเป็นทาง การของท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามและภริยาคือกิจกรรมสำคัญในความสัมพันธ์ทวิภาคี เวียดนาม-ไทยเพื่อเสริมสร้างและขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เวียดนาม-ไทยในด้านต่างๆ โดยเฉพาะ การเมือง ความมั่นคง กลาโหม เศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและแรงงาน ตลอดจนการขยายความร่วมมือระหว่างสองประเทศในระเบียบความร่วมมือในภูมิภาคและ อนุภูมิภาค

(VOVworld) – การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามและภริยาคือกิจกรรมสำคัญในความสัมพันธ์ทวิภาคีเวียดนาม-ไทยเพื่อเสริมสร้างและขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ไทยในด้านต่างๆ โดยเฉพาะ การเมือง ความมั่นคง กลาโหม เศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและแรงงาน ตลอดจนการขยายความร่วมมือระหว่างสองประเทศในระเบียบความร่วมมือในภูมิภาคและอนุภูมิภาค

พัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ไทยเข้าสู่ส่วนกว้างและส่วนลึก - ảnh 1
นายกรัฐมนตรีเวียดนามและไทย (nguyentandung.org)

ในกรอบการเยือนไทยในวันที่ 23 กรกฎาคม นอกจากการเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนามแล้ว นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุง ยังพบปะกับประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติไทย เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เข้าร่วมการสนทนาของผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศและพบปะกับชมรมชาวเวียดนามในไทย
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจคือจุดเด่น
บนพื้นฐานความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีงาม กิจกรรมความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับไทยกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจถือเป็นจุดเด่นและเป็นพลังขับเคลื่อนพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศโดยมูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมาโดยเมื่อปี2013 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุ 9 พัน 4 ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบกับปี 2012 ส่วนในปี 2014 บรรลุ 1 หมื่น 6 ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบกับปี 2013 และจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2015 ไทยเป็นนักลงทุนอยู่อันดับที่ 10 ในจำนวน 101 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนเกือบ 6 พัน 8 ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ สถานประกอบการไทยเน้นลงทุนในด้านอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล การแปรรูปสินค้าเกษตร ป่าไม้ สัตว์น้ำ การก่อสร้าง การขายปลีก ขายส่งและการบริการซ่อมบำรุงพาหนะ ส่วนเวียดนามกำลังมี 7 โครงการลงทุนในไทย รวมยอดเงินลงทุน 11.35 ล้านเหรียญสหรัฐโดยเน้นลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ เครื่องใช้ในครัวเรือน การท่องเที่ยว ซอฟต์แวร์และคอมพิวเตอร์ ทั้งสองฝ่ายได้ตั้งเป้าไว้ว่า จนถึงปี 2020 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนจะเพิ่มขึ้น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ท่าน ปัญญารักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนามได้ยืนยันว่า“ที่ผ่านมาไทยได้เปรียบดุลการค้าของเวียดนามอยู่นะครับ แล้วก็มีบริษัทต่างๆของไทยมาลงทุนที่เวียดนามเป็นจำนวนมาก และเวียดนามเองก็มีศักยภาพด้านที่ดี มีประชากรจำนวนมาก ถึง90ล้านคน แล้วก็ค่าแรงงานยังไม่สูงนัก ดังนั้นธุรกิจไทยที่สนใจจะมาตั้งโรงงานในประเทศเวียดนาม ก็สามารถใช้ประโยชน์จากแรงงานที่มีจำนวนมาก มีการศึกษาสูง และค่าแรงต่ำนะครับ ในการเป็นสถานที่ประกอบชิ้นส่วนหรือว่าตั้งโรงงานที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก”
พัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ไทยเข้าสู่ส่วนกว้างและส่วนลึก - ảnh 2
ในฐานะสมาชิกอาเซียน ในเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทยได้พัฒนาอย่างดีงาม

เวียดนามได้ส่งคณะผู้แทนหลายคณะไปยังไทยเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ในการจัดทำและพัฒนาการเกษตรเชิงพาณิชย์ ศึกษาการพัฒนาชนบท สหกรณ์เกษตร การแปรรูปสินค้าเกษตร  การแก้ปัญหาไข้หวัดนก การแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ประสบการณ์เกี่ยวกับการบริหารอาชีพประมงในแต่ละประเทศ
สำหรับความร่วมมือด้านการศึกษา วัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยว กระทรวงศึกษาธิการของแต่ละประเทศได้ลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านการศึกษา ไทยได้ให้การช่วยเหลือพัฒนาทักษะความสามารถในด้านการศึกษาและสอนภาษาไทยในมหาวิทยาลัยบางแห่งของเวียดนาม ส่วนในด้านกลาโหม-ความมั่นคง เวียดนามและไทยได้แลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านกลาโหม การป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ายาเสพติด อาชญากรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและการค้ามนุษย์
ผลักดันการผสมผสานเข้ากับอาเซียน

ในฐานะสมาชิกอาเซียน ในเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทยได้พัฒนาอย่างดีงาม การที่เวียดนามเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับไทยแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับเวียดนามของไทย เวียดนามและไทยมีความร่วมมือเป็นอย่างดีในฟอรั่มต่างๆทั้งในระดับภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะในกรอบอาเซียน ความร่วมมืออนุภูมิภาคและสหประชาชาติ ทั้งสองฝ่ายได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่เข้มแข็งในอาเซียน พร้อมกับสมาชิกอื่นๆตั้งใจปฏิบัติกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนในปี2015อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น เวียดนามและไทยได้พัฒนาและใช้แนวเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกอย่างเข้มแข็ง พัฒนาเส้นทางบินระหว่างสองประเทศ ทำการเจรจาเพื่อเปิดให้บริการรถโดยสารระหว่างประเทศผ่านประเทศลาวและเส้นทางขนส่งทางทะเลผ่านกัมพูชา ทั้งสองประเทศถือว่า นี่คือการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันการผสมผสานเข้ากับอาเซียน ท่าน ปัญญารักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า“เชื่อมโยงระหว่างประเทศทั้งสองที่เรียกว่าConnectivityก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนบรรลุเป้าหมายครับ สิ่งสำคัญก็คือการพัฒนาเส้นทางการคมนาคมทางบกรวมทั้งทางเรือด้วย เพราะว่าเวียดนามและไทยนั้นมีเขตแดนทางทะเลติดต่อกันนะครับ การเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างจังหวัดชายแดนทางภาคตะวันออกของไทยซึ่งติดทะเล กับจังหวัดชายแดนของเวียดนามที่ติดกับทะเลทางภาคใต้ ก็มีศักยภาพและโอกาสที่จะขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจได้มาก”
ในภาพรวม ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ไทยและการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมคือระเบียบความร่วมมือทวิภาคีที่สำคัญที่สุดภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ ในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนาอย่างดีงาม การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงและการที่นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมครั้งที่ 3 จะช่วยวางแนวทางใหญ่ให้แก่สัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างสองประเทศในเวลาที่จะถึงและมีส่วนร่วมพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ไทยให้มีความลึกซึ้งมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด