มุ่งมั่นเสร็จสิ้นเป้าหมายการขยายตัวจีดีพีให้อยู่ที่ร้อยละ 6.7

(VOVWORLD) - เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีพร้อมผู้บริหารของกระทรวง หน่วยงาน กลุ่มบริษัทและเครือบริษัทใหญ่ๆของเวียดนามได้ประชุมเพื่อประเมินการปฏิบัติแผนการในปี 2017 วางมาตรการเพื่อเสร็จสิ้นเป้าหมายด้านเศรษฐกิจสังคม โดยเน้นการขยายตัวจีดีพีให้อยู่ที่ร้อยละ 6.7 ถึงแม้ยังคงประสบอุปสรรคเฉพาะหน้า แต่ด้วยความมุ่งมั่นของระบบการเมือง กระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและสถานประกอบการจึงได้ให้คำมั่นว่า จะบรรลุเป้าหมายการขยายตัวเพื่อนำเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาอย่างยั่งยืน
มุ่งมั่นเสร็จสิ้นเป้าหมายการขยายตัวจีดีพีให้อยู่ที่ร้อยละ 6.7 - ảnh 1นายกรัฐมนตรีพร้อมผู้บริหารของกระทรวง หน่วยงาน กลุ่มบริษัทและเครือบริษัทใหญ่ๆของเวียดนามได้ประชุมเพื่อประเมินการปฏิบัติแผนการในปี 2017 (vietnamplus) 

เพื่อประสบความสำเร็จในการเสร็จสิ้นเป้าหมายการขยายตัวในตลอดทั้งปีให้อยู่ที่ร้อยละ 6.7 การขยายตัวด้านเศรษฐกิจของเวียดนามใน 6 เดือนที่เหลือของปี 2017 ต้องบรรลุร้อยละ 7.42 ซึ่งถือเป็นการขยายตัวในระดับสูง จึงต้องมีความมุ่งมั่นทางการเมืองและความพยายามในระดับสูง มีมาตรการที่เป็นก้าวกระโดดและการเข้าร่วมอย่างเคร่งครัดของกระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่น กลุ่มบริษัท เครือบริษัทและประชาชน

แสวงหามาตรการปฏิบัติเป้าหมายการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ

การประชุมครั้งนี้มีขึ้นภายหลังการประชุมประจำเดือนกรกฎาคมของรัฐบาล ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้บริหารอย่างเคร่งครัด ชี้นำกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆปฏิบัติเป้าหมายการขยายตัวให้ประสบความสำเร็จ ในการประชุม ผู้บริหารของกระทรวง หน่วยงานและกลุ่มบริษัทได้เผยว่า สามารถประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้ เช่นการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมแปรรูปและเครื่องจักรกลสามารถบรรลุกว่าร้อยละ 12 การขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวสามารถบรรลุกว่าร้อยละ 30 และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มาเที่ยวเวียดนามอยู่ที่ 13-15 ล้านคน โดยเฉพาะภาคการส่งออก ใน 7 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกบรรลุกว่า 1 แสน 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 19 และถ้าหากมูลค่าการส่งออกบรรลุ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐก็จะถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของภาคการส่งออกของเวียดนาม ซึ่งมีส่วนร่วมสำคัญต่อการปฏิบัติเป้าหมายการขยายตัวจีดีพีของรัฐบาล นาย เจิ่นต๊วนแอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า ในเวลาที่จะถึง เมื่อข้อตกลงการค้าเสรีมีผลบังคับใช้ หน่วยงานพาณิชย์และอุตสาหกรรมต้องจัดทำนโยบายให้สอดคล้องกับตลาดเพื่อให้สถานประกอบการผลักดันการส่งออก “ในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ต้องใช้โอกาสจากสถานการณ์ใหม่อย่างเต็มที่ รับมือและใช้ข้อตกลงการค้าเสรีอย่างมีประสิทธิภาพ ในเวลาที่จะถึง พวกเราจะเน้นเปลี่ยนแปลงใหม่งานด้านการบริหารตลาดตามแนวทางเกาะติดสถานการณ์ที่เป็นจริง มีการแนะแนวเชิงยุทธศาสตร์ในระยะยาวและสร้างความยั่งยืนให้แก่สินค้าส่งออก ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ผ่านการเกาะติดความต้องการของตลาดบนพื้นฐานการประเมินทักษะความสามารถ ตลาด โอกาสจากข้อตกลงการค้าเพื่อใช้ความได้เปรียบผลักดันการส่งออก”

ด้วยเป้าหมายมูลค่าการส่งออกของปี 2017 ที่ต้องบรรลุกว่า 2 แสน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้ย้ำว่า ตั้งแต่บัดนี้จนถึงปลายปี มูลค่าการส่งออกต้องบรรลุ 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ “นี่คือเป้าหมายสำคัญที่ต้องบรรลุเพื่อให้การเสียเปรียบดุลการค้าในปีนี้ลดลงอีกนอกเหนือจากการแก้ไขปัญหาด้านระเบียบ one stop service แห่งชาติ ปัญหาตลาด การเพิ่มความสามารถในการผลิต การยกระดับคุณภาพสินค้า การผลักดันการผลิตสินค้า การส่งออกและการบริการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว และจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเอเปกนับหมื่นคน ดังนั้นผมขอเสนอให้เน้นให้ความสนใจสินค้าและตลาดหลัก ปฏิรูประเบียบราชการมากขึ้นเพื่อลดการตรวจสอบสินค้าก่อนการส่งออก”

การรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคคือเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ

นอกจากการให้คำมั่นที่จะเสร็จสิ้นเป้าหมายการขยายตัว กระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและกลุ่มบริษัทต่างๆได้ยืนยันว่า จะปฏิบัติ 13 เป้าหมายที่รัฐสภามอบหมายให้ประสบความสำเร็จ ควบคู่กับการเน้นสร้างบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจที่สะดวก แก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการ กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆจะปฏิบัติโครงการสำคัญๆ รวมทั้งโครงการเป้าหมายแห่งชาติ มาตรการให้การช่วยเหลือการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ แสวงหาตลาด ส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกระทรวงและหน่วยงานต่างๆจะประสานงานอย่างใกล้ชิดในการบริหารนโยบายด้านงบประมาณแผ่นดิน การเงิน การค้า การลงทุน ค้ำประกันการควบคุมภาวะเงินเฟ้อและผลักดันการขยายตัวและรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค รวมทั้งต้องให้ความสนใจปัญหาดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและภาวะเงินเฟ้อ ดร. เหงียนดึ๊กแถ่ง หัวหน้าสถาบันวิจัยเศรษฐกิจและนโยบายได้แสดงความเห็นว่า “พลังขับเคลื่อนใหญ่คือต้องรักษาการปฏิรูปเพื่อปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจภายในประเทศ ลดค่าใช้จ่ายให้แก่สถานประกอบการภายในประเทศ ถ้าพวกเราปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพก็จะสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่ดีขึ้นและสถานประกอบการเวียดนามจะเห็นว่า การประกอบธุรกิจมีความสะดวกมากขึ้นและค่าใช้จ่ายลดลง ซึ่งจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น นี่จะเป็นพลังขับเคลื่อนในปี 2017 และในระยะยาวของเวียดนาม ตลอดจนในกระบวนการผสมผสาน”

ด้วยความมุ่งมั่นและการเข้าร่วมของรัฐบาล เป้าหมายการขยายตัวที่ร้อยละ 6.7 ของเวียดนามสามารถบรรลุได้ เนื้อหาที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆของเวียดนามคือการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ยกระดับคุณภาพการขยายตัวและขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด