สถานะของเวียดนามภายหลัง๓๙ปีที่เข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ
Anh Huyen- VOV5 -
(VOVWorld)-เมื่อ๓๙ปีก่อน ซึ่งตรงกับวันที่๒๐กันยายนปี ๑๙๗๗ เวียดนามได้เข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เปิดหน้าใหม่ให้แก่นโยบายการต่างประเทศของเวียดนามที่มีความสัมพันธ์ที่หลากหลายแบบพหุภาคี ภายหลังเกือบ๔ทศวรรษ จากการมีส่วนร่วมอย่างแข่งขันของเวียดนามและการสนับสนุนที่สำคัญจากสหประชาชาติ สถานะของเวียดนามนับวันได้รับการยกระดับให้สูงขึ้นบนเวทีโลก
(VOVWorld)-เมื่อ๓๙ปีก่อน ซึ่งตรงกับวันที่๒๐กันยายนปี ๑๙๗๗ เวียดนามได้เข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เปิดหน้าใหม่ให้แก่นโยบายการต่างประเทศของเวียดนามที่มีความสัมพันธ์ที่หลากหลายแบบพหุภาคี ภายหลังเกือบ๔ทศวรรษ จากการมีส่วนร่วมอย่างแข่งขันของเวียดนามและการสนับสนุนที่สำคัญจากสหประชาชาติ สถานะของเวียดนามนับวันได้รับการยกระดับให้สูงขึ้นบนเวทีโลก
นางดั๋งหงอกถิง รองประธานประเทศเวียดนามกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมระดับสูงของสภาเศรษฐกิจ-สังคมของสหประชาชาติ (Photo: vietnamplus.vn) |
ในตลอด๓๙ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้ยืนหยัดนโยบายการต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง สันติภาพ เปิดกว้างและมีความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบและพหุภาคี ซึ่งเวียดนามก็ได้กลายเป็นมิตร เป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจและมีความรับผิดชอบของประชาคมระหว่างประเทศ
เป็นสมาชิกที่แข็งขันและหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือ
ในตลอด๓๙ปีที่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ เวียดนามได้พยายามปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปด้วยดีและเป็นฝ่ายรุกในการเสนอข้อคิดริเริ่มที่เป็นรูปธรรมต่างๆ เวียดนามให้การสนับสนุนเป้าหมายที่สำคัญอันดับต้นๆของสหประชาชาติ เช่น การรักษาสันติภาพและความมั่นคง ต่อต้านการแข่งขันอาวุธ มุ่งสู่การลดอาวุธ การป้องกันและการแก้ไขปัญหาการพิพาทอย่างสันติและผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างประชาชาติต่างๆ เวียดนามก็เป็นประเทศที่ลงนามอนุสัญญาระหว่างประเทศของสหประชาชาติหลายฉบับ
จากการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและการเป็นฝ่ายรุก ชื่อเสียงของเวียดนามในสหประชาชาติ ซึ่งเป็นองค์การพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดในโลกนับวันยิ่งได้รับการยืนยันและสะท้อนให้เห็นผ่านการที่เวียดนามได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญในองค์การนี้ เช่น การดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของการประชุมว่าด้วยการปลดกำลังอาวุธ เป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในช่วงปี๒๐๑๔-๒๐๑๖ด้วยคะแนนสูงและการเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพ นาย เหงวียนจุงแถ่ง เอกอัครราชทูตและหัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติได้ยืนยันว่า“จากการเข้าร่วมอย่างแข็งขันและผลักดันการสนทนาเกี่ยวกับปัญหาที่อ่อนไหว เวียดนามได้ปฏิบัติบทบาทการเป็นสมาชิกสหประชาชาติเป็นอย่างดี ซึ่งช่วยให้เวียดนามมีประสบการณ์ที่ดีในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ ส่งเสริมการปกป้องสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ มีบทบาทการเป็นฝ่ายรุกตามเจตนารมณ์ที่ว่า เวียดนามเป็นมิตร เป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของประชาคมโลก”
นาง ดั๋งหงอกถิงให้การต้อนรับาย ขาวแล้งสูผู้ช่วยเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ
(Photo: vietnamplus.vn)
|
สิทธิและผลประโยชน์ในกระบวนการพัฒนา
ในช่วงแรกที่เข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติ เวียดนามได้รับความช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่ในการแก้ไขผลเสียหายจากสงคราม ส่วนในระยะหลังการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ เวียดนามก็สามารถระดมแหล่งพลังต่างๆเพื่อสนับสนุนกระบวนการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ปัจจุบัน เวียดนามและสหประชาชาติกำลังมุ่งสู่การยกระดับคุณภาพของการพัฒนา โดยให้ความสนใจเป็นพิเศษใน๓ด้านหลักคือ การขยายตัวอย่างยั่งยืน การส่งเสริมการเข้าถึงการบริการที่จำเป็นที่มีคุณภาพสูงและการคุ้มครองทางสังคมและการผลักดันการบริหารภาครัฐเพื่อช่วยเวียดนามปฏิบัติยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้ วงเงินช่วยเหลือของสหประชาชาติที่สงวนให้แก่เวียดนามในตลอด๓๙ปีที่ผ่านมาอยู่ที่กว่า๒พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่มากนัก แต่ได้มีความหมายในหลายด้านเพราะสหประชาชาติได้เน้นให้ความช่วยเหลือในด้านที่จำเป็นเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การจัดทำกลไก ระเบียบการและกฎหมายและการแก้ไขปัญหาสังคมที่เร่งด่วน เอกอัครราชทูตเหงวียนจุงแถ่งได้เผยว่า “การที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติมิได้หวังที่จะได้รับโครงการร่วมมือหรือวงเงินโอดีเอแต่เวียดนามได้สร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างและคล่องตัวให้แก่การปฏิบัติความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการวางโครงการร่วมมือที่เหมาะสม ร่วมกันปฏิบัติโครงการร่วมต่างๆที่ได้รับการอนุมัติ โดยเฉพาะ โครงการเป้าหมายเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผมคิดว่า การเข้าร่วมอย่างแข็งขันนั้นหมายความว่า เวียดนามสามารถเรียกการสนับสนุนของประชาคมโลกเกี่ยวกับการผลักดันความไว้วางใจและเสนอข้อคิดริเริ่มใหม่เพื่อยืนหยัดเป้าหมายร่วมที่ทุกฝ่ายได้ลงนาม”
การปฏิบัติแนวคิดทางการทูตของประธานโฮจิมินห์และแนวทางการต่างประเทศของพรรคที่ขยายความร่วมมือและใช้ประโยชน์จากการสนับสนุนของประชาคมโลก ความสัมพันธ์กับสหประชาชาติไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมยกระดับสถานะของเวียดนามเท่านั้นหากยังช่วยปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของเวียดนาม โดยเฉพาะ ปัญหาด้านความมั่นคง อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน รวมทั้ง หลักการให้ความเคารพเอกราช อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน การแก้ไขปัญหาการพิพาทอย่างสันติ ค้ำประกันผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของทุกประเทศสมาชิก โดยเฉพาะ ประเทศด้อยพัฒนา
ภายหลัง๓๙ปี ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหประชาชาติได้มีก้าวพัฒนาใหม่ในทุกด้าน ซึ่งมีส่วนร่วมสำคัญต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาในภูมิภาคและโลกและได้สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ประชาชาติเวียดนามในองค์การที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้.
Anh Huyen- VOV5