(VOVworld) – ในหลายปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเวียดนามได้มีการพัฒนาดีขึ้นมาก โดย บรรลุผลงานที่สำคัญและน่ายินดี แต่เมื่อเทียบกับศักยภาพที่มีอยู่กลับเห็นว่า การท่องเที่ยวเวียดนามยังไม่ใช้ความได้เปรียบของตนอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาเป็นแขนงอุตสาหกรรมสำคัญที่มีส่วนร่วมในระดับสูงต่อการพัฒนาประเทศ เมื่อเร็วๆนี้ กรมการเมืองคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ประกาศใช้มติ 08 เมื่อวันที่ 16 มกราคมเกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยวให้กลายแขนงอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้แก่การพัฒนาการท่องเที่ยวของเวียดนามอย่างยั่งยืน

ในตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2001-2016 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเวียดนามได้พัฒนาอย่างเข้มแข้ง มีส่วนร่วมผลักดันการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ ปฎิบัติกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศและคนเวียดนาม ดังนั้น มติของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจึงได้ตั้งเป้าพัฒนาการท่องเที่ยวเวียดนามให้เป็นมืออาชีพ มีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์และทันสมัย มีผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูง มีความหลากหลาย มีเครื่องหมายการค้าที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาติและสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆในภูมิภาคได้
ปี 2020 การท่องเที่ยวเวียดนามตั้งเป้าบรรลุรายได้ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภายในปี 2020 เวียดนามได้ตั้งเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 17-20 ล้านคน และนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 82 ล้านคน มีส่วนร่วมต่อจีดีพีประมาณร้อยละ 10 มีรายได้จากการท่องเที่ยว 3 หมื่น 5 พันดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าการส่งออกผ่านการท่องเที่ยวบรรลุ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างงานทำ 4 ล้านตำแหน่ง และพยายามผลักดันให้ภายในปี 2030 การท่องเที่ยวกลายเป็นแขนงอุตสาหกรรมเศรษฐกิจหลัก ผลักดันการพัฒนาของหน่วยงานและด้านอื่นๆอย่างเข้มแข็ง นำเวียดนามเข้าสู่กลุ่มประเทศที่มีแขนงอุตสาหกรรมเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นาย เหงียนวันต๊วน อธิบดีทบวงการท่องเที่ยวเวียดนามได้เผยว่า“มติ 08 คือเอกสารที่มีความหมายสำคัญต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว นี่คือนิมิตหมายพิเศษในประวัติศาสตร์การพัฒนาของแขนงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเวียดนาม เพราะเป็นครั้งแรกที่กรมการเมืองมีมติเกี่ยวกับแขนงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ด้วยทัศนะที่เข้มแข็ง เนื้อหาและเป้าหมายใหญ่มากพร้อมกับระบบมาตรการที่สมบูรณ์ มติได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเวียดนามในการสร้างก้าวพัฒนาใหม่ให้แก่แขนงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวบนเส้นทางพัฒนาเป็นแขนงอุตสาหกรรมหลัก”

แปรนโยบายให้เข้าสู่ชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม
ทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวของเวียดนามได้รับการประเมินว่าเต็มไปด้วยศักยภาพ เพราะอยู่อันดับที่ 24 จากจำนวนทั้งหมด 141 ประเทศ แต่ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวกลับอยู่อันดับที่ 75 ในจำนวนประเทศดังกล่าว ดังนั้น แนวทางของกรมการเมืองพรรคเกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยวจึงถือเป็นก้าวกระโดดให้แก่ด้านนี้ พร้อมทั้งวางหน้าที่และมาตรการต่างๆ เช่นเปลี่ยนแปลงใหม่จิตสำนึกและแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยว ปรับปรุงโครงสร้างการท่องเที่ยวให้มีความเป็นมืออาชีพ ทันสมัยและพัฒนาอย่างยั่งยืนตามกลไกของเศรษฐกิจเชิงตลาดและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก โดยจะเน้นปรับปรุงระเบียบการและนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงสร้างเทคนิค ผลักดันการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว สร้างบรรยากาศที่สะดวกให้แก่สถานประกอบการและชุมชนได้พัฒนาและเน้นพัฒนาแหล่งบุคลากรด้านการท่องเที่ยว นาย เหงียนวันต๊วน อธิบดีทบวงการท่องเที่ยวเวียดนามได้เผยว่า“หนึ่งในทัศนะที่เข้มแข็งซึ่งเป็นก้าวกระโดดของแนวทางนี้คือการท่องเที่ยวก็เป็นแขนงอุตสาหกรรมเศรษฐกิจทั่วไป มีหลายภาคส่วนเข้าร่วมและมีเนื้อหาวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ดังนั้นการพัฒนาการท่องเที่ยวคือหน้าที่ของระบบการเมือง หน่วยงานทุกระดับและสังคม ซึ่งในนั้นบทบาทของสถานประกอบการและเขตชุมชนในท้องถิ่นมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ปัญหาที่สำคัญที่สุดคือต้องมีแนวทาง นโยบายที่เข้าสู่ชีวิต ซึ่งการทำให้ได้เช่นนั้น สำนักงานที่เกี่ยวข้องต้องมีความรับผิดชอบในระดับสูงสุด”
คาดว่า ในเดือนเมษายนนี้ กระทรวงวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวจะเสร็จสิ้นร่างโครงการปฏิบัติงานของรัฐบาลเกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อยื่นเสนอให้รัฐบาลพิจารณาและประกาศใช้ โครงการปฏิบัติงานระบุหน้าที่และแนวทางที่ชัดเจนโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละท้องถิ่น สำนักงานและหน่วยงาน โดยเฉพาะจะเน้น “การเปลี่ยนแปลงใหม่จิตสำนึก แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยว” ผลักดันการประชาสัมพันธ์ ยกระดับจิตสำนึกของสังคมและประชาชนเกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยว.