อนาคตของอังกฤษและปัญหา Brexit ภายหลังการเลือกตั้ง

(VOVWORLD) -พรรคอนุรักษ์นิยมของนาง เทเรซา เมย์  นายกรัฐมนตรีอังกฤษยังคงได้ที่นั่งมากที่สุดในการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดเมื่อวันที่8มิถุนายนที่ผ่านมา คือ318ที่นั่งแต่ก็ยังไม่ถึง326ที่นั่งที่ต้องมีในรัฐสภา  โดยจำนวนที่นั่งของพรรคอนุรักษ์นิยมถูกลดลง12ที่นั่งในรัฐสภาเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งก่อน  ส่วนพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านได้262ที่นั่ง  เพิ่มขึ้น30ที่นั่ง   ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้อังกฤษต้องเผชิญกับความเสี่ยงเกี่ยวกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและภาพรวมที่มืดมนเกี่ยวกับการเจรจาว่าด้วยการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปหรือBrexit และภัยคุกคามจากการก่อการร้าย
อนาคตของอังกฤษและปัญหา Brexit ภายหลังการเลือกตั้ง - ảnh 1นาง เทเรซา เมย์  นายกรัฐมนตรีอังกฤษ (Photo: AFP/ TTXVN)

ภายหลังการเลือกตั้ง  นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ได้แสดงความตั้งใจที่จะจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อนำประเทศฟันฝ่าอุปสรรคในการกระบวนการเจรจาเกี่ยวกับปัญหา Brexit  โดยนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์กำลังพยายามจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคสหภาพประชาธิปไตยหรือ DUPในไอร์แลนด์เหนือ  ซึ่งเป็นพรรคที่ได้10ที่นั่งในสภาล่างในการเลือกตั้งที่ผ่านมาและปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อให้สมาชิกรัฐบาลช่วยนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญ รวมทั้ง กระบวนการเจรจาเกี่ยวกับปัญหา Brexitตามกำหนด

ประเทศอังกฤษเผชิญกับการแบ่งแยก

  หลังจากที่ผลการเลือกตั้งได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการ บรรดาส.ส.ของพรรคแรงงานและผู้ที่ให้การสนับสนุนพรรคนี้ได้เรียกร้องให้นาง เทเรซา เมย์ ลาออกจากตำแหน่งอีกทั้ง ยืนยันว่า พรรคแรงงานพร้อมที่จะขึ้นบริหารประเทศเนื่องจากเห็นว่า พรรคแรงงานสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ด้วย262ที่นั่ง  ในเวลาที่จะถึง  จะมีการจัดการลงคะแนนไว้วางใจในพรรคอนุรักษ์นิยม   ถ้าได้รับเสียงสนับสนุนข้างมาก  นาง เทเรซา เมย์ จะยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ

ปัจจุบัน  ส.ส.บางนายที่ดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคอนุรักษ์นิยมได้แสดงความสนับสนุนต่อนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์  โดยย้ำว่า อังกฤษไม่สามารถฟันฝ่าความผันผวนครั้งใหม่ในการแต่งตั้งผู้นำคนใหม่ได้ในขณะที่การเจรจาเกี่ยวกับปัญหาBrexitกำลังใกล้จะถึง   ในขณะที่ส.ส.อื่นๆยังไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ  ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง

หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ได้เผยว่า พรรคอนุรักษ์นิยมกำลังมีการพิจารณาว่า ควรให้นาง เทเรซา เมย์ ลาออกจากตำแหน่งหรือไม่และถ้าจำเป็น  เรื่องนี้จะมีขึ้นช่วงไหน  จะเป็นไปทันทีหรือภายหลังเริ่มการเจรจาเกี่ยวกับปัญหาBrexit  ถ้าหากนาง เทเรซา เมย์  ต้องลาออกจากตำแหน่ง  นี่จะเป็นครั้งที่2ในรอบ1ปีที่ผ่านมาที่อังกฤษมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารประเทศหลังจากที่นายกรัฐมนตรีของพรรคอนุรักษ์นิยมต้องลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด

อนาคตของอังกฤษและปัญหา Brexit ภายหลังการเลือกตั้ง - ảnh 2(Photo: Internet)

อุปสรรคต่อกระบวนการ Brexit

  การเลือกตั้งที่มีขึ้นเมื่อวันที่8มิถุนายนที่ได้รับการมองว่า จะมีการกำหนดแนวทางการเจรจาเกี่ยวกับปัญหา Brexit แต่การที่นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ประสบความล้มเหลวได้ทำให้กระบวนการ Brexit ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่างๆ  ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ทางการเมืองในอังกฤษมีความผันผวนในปัจจุบัน มีความเป็นไปได้ที่การเจรจาเกี่ยวกับปัญหา Brexit ระหว่างอังกฤษกับอียูจะถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากพรรคอนุรักษ์นิยมต้องจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่  ความล้มเหลวดังกล่าวของนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ก็หมายความว่า นาง เทเรซา เมย์ หรือนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องฟันฝ่าความท้าทายอย่างใหญ่หลวงเพื่อให้สภาล่างและวุฒิสภาอนุมัติข้อกำหนดเกี่ยวกับจุดยืนที่แข็งกร้าวในการเจรจาเกี่ยวกับ Brexit  รวมทั้ง การที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากตลาดร่วม สหภาพศุลกากร  ยุติการตรวจสอบของศาลอียู  การเดินทางอย่างเสรีในอียูและการชำระงบประมาณ  หลังจากนั้น อังกฤษและอียูจะทำการเจรจารอบใหม่เหมือนประเทศอื่นๆในโลกตามข้อกำหนดขององค์การการค้าโลก  ถ้าหากรัฐสภาอังกฤษลงคะแนนคัดค้านจุดยืนแข็งกร้าวของพรรคอนุรักษ์นิยม การปฏิบัติมาตราที่50ของสนธิสัญญาลิสบอนจะถูกเลื่อนออกไปและปัญหา Brexitจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ27ประเทศสมาชิกอียู

การเลือกตั้งก่อนกำหนดในอังกฤษและกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นนอกแผนอาจทำให้สถานการณ์ทางการเมืองในอังกฤษต้องตกเข้าสู่ภาวะสับสน รวมทั้ง การเจรจาเกี่ยวกับปัญหา Brexitอาจถูกเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด ทว่าตามแผนการที่วางไว้ การเจรจาเกี่ยวกับปัญหา Brexitจะต้องเสร็จสิ้นลงในปลายเดือนมีนาคมปี2019  แต่เนื่องด้วยภัยคุกคามจากการก่อการร้าย  ซึ่งเป็นปัจจัยที่ถูกมองว่า ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอังกฤษในการเลือกตั้งที่ผ่านมายังคงเป็นภาพหลอนต่อชาวอังกฤษอยู่นั้น การแบ่งแยกทางสังคมและบนเวทีการเมืองก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้อังกฤษตกเข้าสู่ภาวะที่ไร้เสถียรภาพ  ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการ Brexitในช่วงเวลาข้างหน้า.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด