อาเซียนมุ่งสู่ประชาคมที่สามัคคีและเจริญรุ่งเรือง

(VOVworld)- วันที่ 8 สิงหาคม ธงอาเซียนได้โบกสะบัดร่วมกับธงชาติของประเทศสมาชิก ณ เมืองหลวงของ10ประเทศอาเซียนและสถานเอกอัครราชทูตของทุกประเทศอาเซียนในทั่วโลกเพื่อขานรับการรำลึกครบรอบ45ปีวันก่อตั้งอาเซียน ซึ่งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจอย่างเข้มแข็งเพื่อความมุ่งมั่นและความภาคภูมิใจในประชาคมอาเซียนแห่งความร่วมมือ เข้มแข็งและมีสถานะที่นับวันสูงเด่นยิ่งขึ้นบนเวทีโลก
(VOVworld)- วันที่ 8 สิงหาคม ธงอาเซียนได้โบกสะบัดร่วมกับธงชาติของประเทศสมาชิก ณ เมืองหลวงของ10ประเทศอาเซียนและสถานเอกอัครราชทูตของทุกประเทศอาเซียนในทั่วโลกเพื่อขานรับการรำลึกครบรอบ45ปีวันก่อตั้งอาเซียน ซึ่งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจอย่างเข้มแข็งเพื่อความมุ่งมั่นและความภาคภูมิใจในประชาคมอาเซียนแห่งความร่วมมือ เข้มแข็งและมีสถานะที่นับวันสูงเด่นยิ่งขึ้นบนเวทีโลก
อาเซียนมุ่งสู่ประชาคมที่สามัคคีและเจริญรุ่งเรือง - ảnh 1
ธงอาเซียนได้โบกสะบัดร่วมกับธงชาติของประเทศสมาชิก ณ กรุงฮานอย

จากเริ่มแรกที่มีสมาชิกเพียง5ประเทศมาจนถึงปัจจุบัน อาเซียนได้พัฒนาเป็นองค์กรที่มีความเป็นเอกภาพแต่มีความหลากหลายด้วยการเข้าร่วมของ10ประเทศในภูมิภาค โดยการเชื่อมโยงประเทศต่างๆที่มีระดับการพัฒนาและการเมืองที่แตกต่างกันให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อสร้างเป็นพลังรวมเพื่อเป้าหมายคือความเจริญรุ่งเรื่องนั้นถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่โดดเด่นของอาเซียนในช่วง45ปีที่ผ่านมา ด้วยการจับมือกับของ10ประเทศสมาชิก ความแตกต่างด้านทัศนะในอดีตถูกแทนที่ด้วยความสัมพันธ์ใหม่แห่งมิตรภาพ ความไว้วางใจและความสามัคคีเพื่อมุ่งสู่อนาคต โดยยึดหลักตามเจตนารมณ์ไม่แทรงแซงกิจการภายในของกันและออกมติด้วยความเป็นเอกฉันท์ เน้นในการส่งเสริมการขยายผลประโยชน์พื้นฐานร่วมกันของอาเซียนได้ช่วยให้ชื่อเสียงของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้โด่งดังขึ้นในฐานะที่เป็นภูมิภาคแห่งสันติภาพ มิตรภาพ เปิดเผยและคล่องตัวที่สุดในโลก นอกจากนี้ จากการยืนหยัดเป้าหมายการแก้ไขความขัดแย้งผ่านการไกล่เกลี่ยและเจรจาอย่างสันติ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก็ไม่ได้เผชิญกับการปะทะและการใช้ความรุนแรงครั้งใหญ่ อันเป็นการมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อความมีเสถียรภาพของเอเซียแปซิฟิกและโลก

ไม่เพียงแต่ได้เชิดชูความเชื่อมโยงภายในกลุ่มผ่านการสนทนาระหว่างผู้นำของประเทศสมาชิกและเอกสารสนธิสัญญาฉบับต่างๆเท่านั้น อาเซียนยังเป็นฝ่ายเดินหน้าผลักดันความร่วมมือนอกกลุ่มอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ผ่านการจัดตั้งระเบียบการพิเศษต่างๆเช่น อาเซียน+1 อาเซียน+3 ฟอรั่มความมั่นคงเอเซียตะวันออก หรือเออาเอฟ การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนขยายวง หรือ เอดีเอ็มเอ็ม+ และการประชุมระดับสูงเอเซียตะวันออกหรือ อีเอเอส เป็นต้น เพื่อสร้างความเชื่อถือและรับมือกับความท้าทายทั้งเก่าและใหม่อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเป้าหมายสูงสุดคือปกป้องสันติภาพและความมั่นคงของแต่ละประเทศและทั้งภูมิภาค นาย ฝามกวางวิง รัฐมนตรีช่วงกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ยืนยันว่า สันติภาพ ความมีเสถียรภาพ ความมั่นคงและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคือเป้าหมายอันดับแรกของอาเซียน โดยอาเซียนได้เป็นฝ่ายเดินหน้าในการร่างและแลกเปลี่ยนมาตรฐานะว่าด้วยการปฏิบัติต่อกันในภูมิภาคเพื่อให้ไม่เพียงแต่ประเทศอาเซียนเท่านั้นหากรวมไปถึงประเทศคู่ร่วมมือของอาเซียนปฏิบัติตาม โดยเฉพาะสนธิสัญญาแห่งมิตรภาพความร่วมมือ ระเบียบการว่าด้วยการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออก ภูมิภาคไม่เผยแพร่อาวุธนิวเคลียร์ เป็นต้น นอกจากนั้นอาเซียนยังส่เสริมบทบาทในเชิงรุกและสร้างสรรค์ในฟอรั่มพหุภาคีด้านการเมือง ความมั่นคง เช่นเดียวกับการสร้างความเชื่อถือและแนวทางการแก้ไขปัญหาการพิพาทและความแตกต่างระหว่างทุกฝ่ายด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล

พร้อมกับระเบียบการแนะนำการปฏิบัติแถลงการณ์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าด้วยการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือดีโดซี การที่เมื่อเร็วๆนี้อาเซียนได้เห็นชอบหลักการณ์6ข้อเกี่ยวกับทะเลตะวันออกถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีเพื่อลดความร้อนแรงจากความตตึงเครียดระหว่างฝ่ายต่างๆเกี่ยวกับปัญหาเส้นทางการเดินเรือทะเลระหว่างประเทศที่สำคัญของทั้งภูมิภาคและโลก ซึ่งถึงแม้จะยังมีงานที่ต้องทำหลายอย่างแต่ด้วยความพร้อมใจบวกกับนโยบายที่มีความยืดหยุ่นแต่เด็ดขาด ชาวเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มั่นใจว่า ก้าวเดินที่สำคัญที่ทั้งภูมิภาคเพิ่งบรรลุนั้นจะนำไปสู่การลงนามระเบียบการว่าด้วยการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีเพื่อนำมาซึ่งสันติภาพ อธิปไตยและความมั่นคงในการเดินเรือในทะเลตะวันออกบนพื้นฐานของกฎหมายสากล  ความผูกพันที่แน่นแฟ้นของอาเซียนนับวันยิ่งสะท้อนให้เห็นในความร่วมมือทางเศรษฐกิจผ่านความพยายามลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างประเทศต่างๆเพื่อมุ่งสร้างสรรค์ประชาคมเศรษฐกิจที่รุ่งเรืองและเข้มแข็ง อีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยนำมาซึ่งความสำเร็จของอาเซียนคือความเชื่อมโยงที่เเน่นแฟ้น ความร่วมมือและความเป็นเอกฉันท์ ซึ่งนาย เลกงฝุง นายกสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-อาเซียน ได้กล่าวว่าความเชื่อมโยงในอาเซียนนั้นไม่เพียงแต่อยู่ที่เศรษฐกิจ การเมืองเท่านั้นหากยังมาจากกความเป็นเอกฉันท์ การผสมผสานด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิตและการปฏิบัติต่อกันในครอบครัวใหญ่อาเซียน ต้องทำให้ชาวอาเซียนมีความเข้าใจกันมากขึ้นเพื่อที่จะร่วมใจกันในการสร้างสรรค์ประชาคมที่เข้มแข็งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและชีวิตสังคม ช่วยให้ประชาชนทุกชาติเข้าอกเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง และมีแต่การสร้างความเข้าใจกันเท่านั้นที่จะสามารถสร้างความเห็นพ้องเพื่อเคียงบ่าเคียงไหล่กันนำอาเซียนพัฒนาเป็นองค์กรที่เข้มแข็งและมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นบนเวทีโลก

ภายหลัง45ปีแห่งการก่อตั้ง อาเซียนได้กลายเป็นองค์กรแห่งความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จที่สุดของกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาตามรูปแบบสร้างความเสมอภาคระหว่างทุกชาติ จากการส่งเสริมจุดแข็งทั้งด้านภูมิศาสตร์-การเมืองและความคล่องตัวในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศภายในกลุ่มเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆในทั่วโลก อาเซียนกำลังกลายเป็นองค์กรที่สำคัญ เป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคง การเมืองและเศรษฐกิจและเป็นตัวเชื่อมสำคัญในเอเซียแปซีฟิก รวมทั้งนับวันยิ่งแสดงให้เห็นถึงสถานะที่สำคัญของตนในแผนที่การเมืองโลก./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด