(VOVworld)-การประชุมสมัชชาแข่งขันรักชาติทั่วประเทศครั้งที่9กำลังมีขึ้น ณ กรุงฮานอย ซึ่งเป็นการประชุมยกย่องบุคคลดีเด่นที่มีผลงานยอดเยี่ยมในทุกแขนงอาชีพรวมทั้งเป็นโอกาสเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงใหม่งานด้านการแข่งขันและมอบรางวัลเพื่อให้กระบวนการนี้สามารถสร้างพลังจูงใจและส่งเสริมความรักชาติ ใฝ่การศึกษา ต่อสู้และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในหมู่ประชาชน

67ปีที่ผ่านมา คำเรียกร้องทำการแข่งขันรักชาติและแนวคิดโฮจิมินห์เกี่ยวกับการแข่งขันและมอบรางวัลชมเชยยังคงทรงคุณค่า(internet)

วันที่11มิถุนายนปี1948 ประธานโฮจิมินห์ได้ออกประกาศเรียกร้องทำการแข่งขันรักชาติและเปิดการรณรงค์ขบวนการแข่งขันรักชาติในหมู่ประชาชน นับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันขบวนการแข่งขันรักชาติต่างๆได้สร้างพลังที่เข้มแข็งที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จของการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆเพื่อการพัฒนาประเทศและการพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ

จากคำเรียกร้องของประธานโฮจิมินห์

ในโอกาสการประชุมสมัชชาแข่งขันรักชาติทั่วประเทศครั้งที่9ที่มีขึ้นที่กรุงฮานอย นาย ลายวันเหงียม ชาวฮานอยคนหนึ่งก็นึกถึงคำเรียกร้องของประธานโฮจิมินห์เมื่อหลายสิบปีก่อนว่า “พลเมืองเวียดนามทุกคนไม่ว่าผู้สูงอายุหรือเยาวชน หญิงหรือชาย รวยหรือจน เด็กหรือผู้ใหญ่ต่างสามารถกลายเป็นทหารในทุกแนวรบไม่ว่าจะเป็นแนวรบทางทหาร เศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม เป็นต้น” ซึ่งคำเรียกร้องนั้นได้เร่งเร้าใจเขาซึ่งตอนนั้นเป็นหนุ่มวัย20ปีอาสาสมัครเข้าเป็นทหารหน่วยปืนใหญ่ที่เข้าร่วมการต่อสู้ในสมรภูมิภาคเหนือและภาคกลาง ซึ่งนายเหงวีมบอกว่าในตอนนั้นไม่เพียงแต่ตัวเขาเองเท่านั้นหากประชาชนทุกภาคส่วนต่างขานรับคำเรียกร้องของลุงโฮอย่างกระตือรือร้นเพื่อทำการผลิตและแข่งขันปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างมีประสิทธิผล “คำเรียกร้องของประธานโฮจิมินห์เปรียบเสมือนเป็นการระดมกำลังแม้จะเป็นคำพูดที่เรียบง่ายแต่ก็มีความหมายอันลึกซึ้งที่ช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ทุกๆคน ซึ่งเมื่อลุงโฮได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยือนหน่วยทหารปืนใหญ่ของผมท่านก็คุยกับเราว่า วิธีการแข่งขันเพื่อแสดงความรักชาติของทหารทุกคนในขณะนี้คือต้องพยายามต่อสู้และปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ แม้แต่ละระยะของการปฏิวัติจะมีหน้าที่ที่ไม่เหมือนกันแต่โดยรวมแล้วการแข่งขันรักชาติก็ต้องควบคู่กับการปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นรูปธรรมของทุกคน ทุกองค์กรและทุกหน่วยงาน”

คำเรียกร้องของประธานโฮจิมินห์ “ทุกคนทำการแข่งขัน ทุกหน่วยงานทำการแข่งขัน” ได้ช่วยสร้างพลังจูงใจที่เข้มแข็งในชีวิตสังคม สร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชนทั้งประเทศในการทำการผลิต เข้าร่วมการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชและรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งจากนั้นได้มีการเปิดการแข่งขันต่างๆได้รับการปฏิบัติเช่น “การขจัดศัตรูแห่งความอดอยาก ศัตรูแห่งความไม่รู้หนังสือ ศัตรูผู้รุกราน” “ไหข้าวแห่งการปฏิวัติ” “ธงบาเญิต” “กลองบั๊กลี้” “เยาวชนพร้อม3ประการ” “สอนดีเรียนเก่ง”เป็นต้น

ถึงการเปลี่ยนแปลงใหม่ขบวนการแข่งขันรักชาติ

ในช่วงทำการต่อสู้กู้ชาติระยะต่างๆ ขบวนการแข่งขันรักชาติล้วนสร้างประสิทธิผลที่จริงจัง ส่วนในช่วงที่ประเทศเข้าสู่ระยะแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่นั้น ความต้องการเปลี่ยนแปลงใหม่ขบวนการแข่งขันรักชาติต่างๆและงานด้านการมอบรางวัลก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับหน้าที่การพัฒนาและผสมผสานของประเทศ โดยเมื่อปี2014กรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ประกาศใช้มติ34เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่งานด้านการแข่งขันและมอบรางวัลโดยเน้นการปรับเปลี่ยนรูปแบบ เนื้อหาและวิธีการจัดการแข่งขันตามแนวทางที่เป็นรูปธรรมทและมีประสิทธิภาพ ศ.ดร.เหงวียนหงอกบ๋าว เผยว่า เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวทุกขบวนการแข่งขันต้องมีเนื้อหาที่เป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับสถานการณ์ของแต่ละท้องถิ่นหรือหน่วยงาน ส่วนงานด้านการมอบรางวัลก็ต้องได้รับการปฏิบัติให้ทันการณ์เพื่อให้กำลังใจผู้ใช้แรงงาน “ประเด็นแรกคือต้องรู้ตจักทำการปลูกฝังจิตสำนึกของทุกคนเพื่อสร้างเป็นพลังอันเข้มแข็ง ประเด็นที่สองคือแนวทางนโยบายของพรรคและรัฐต้องสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงเนื้อหาเกี่ยวกับการแข่งขันรักชาติว่ามีความผูกพันกับผลประโยชน์ของประชาชนอย่างไร ประเด็นที่สามคือคือแข่งขันรักชาติต้องได้รับการปฏิบัติในเชิงสร้างสรรค์ตามสถานการณ์ของท้องถิ่นและหน่วยงาน”

67ปีที่ผ่านมา คำเรียกร้องทำการแข่งขันรักชาติและแนวคิดโฮจิมินห์เกี่ยวกับการแข่งขันและมอบรางวัลชมเชยยังคงทรงคุณค่า โดยการเปลี่ยนแปลงใหม่งานด้านนี้ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ อันเป็นการส่งเสริมให้การแข่งขันรักชาติต่างๆกลายเป็นกำลังใจอันยิ่งใหญ่ สร้างพลังที่เข้มแข็งเพื่อภารกิจการพัฒนาและพิทักษ์รักษาปิตุภูมิอย่างมั่นคง.