ในปี 2021 ท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างซับซ้อนของโควิด-19 รัฐบาลได้ประกาศใช้นโยบายมากมายเพื่อช่วยเหลือคนจน

การให้ความเคารพและปกป้องสิทธิมนุษยชนเป็นแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคและรัฐเวียดนาม ซึ่งสิ่งนี้ถูกระบุอย่างชัดเจนในปฏิญญาเอกราชและรัฐธรรมนูญ โดยสิทธิมนุษยชนคือคุณค่าร่วมกันของมนุษยชาติ การค้ำประกันและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังนั้นเพื่อค้ำประกันให้ชาวเวียดนามทุกคนได้รับสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่ พรรคและรัฐเวียดนามได้ให้ความสนใจถึงการจัดทำและปรับปรุงระบบกฎหมายให้สมบูรณ์อยู่เสมอ เมื่อปี 2021 เวียดนามยังคงอนุมัติและแก้ไขประมวลกฎหมายที่สำคัญหลายฉบับ เช่น กฎหมายป้องกันและควบคุมยาเสพติดฉบับแก้ไข พิจารณาอนุมัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความทางอาญาฉบับแก้ไขและเพิ่มเติม โครงการจัดทำกฎหมายและกฤษฎีกาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาช่วยค้ำประกันหลักการให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการระบุโครงการกฎหมายเพื่อบังคับใช้ข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน สิทธิและหน้าที่ขั้นพื้นฐานของพลเมือง

เวียดนามไม่เพียงแต่ถือการค้ำประกันสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพของสื่อ และการเข้าถึงข้อมูลเป็นพันธกรณีตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนเท่านั้น หากยังเป็นการปฏิบัติเพื่อผลประโยชน์ที่นำไปสู่การพัฒนาของประเทศอีกด้วย  เวียดนามยังได้รับการยอมรับว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการพัฒนาและใช้อินเตอร์เน็ตอยู่ในระดับสูงของโลก  แพลตฟอร์มดิจิทัลและโซเชียลเน็ตเวิร์กได้สร้างช่องทางเชื่อมโยงที่สำคัญเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล แลกเปลี่ยนและแสดงความคิดเห็นของตน จนถึง เดือนธันวาคมปี 2021ประชากรเวียดนามกว่าร้อยละ 70 ใช้อินเตอร์เน็ตโดยมีผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ 72 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7 ล้านคนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน มีบัญชี Facebook 76 ล้านบัญชีในเวียดนาม

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมปี 2021 ประธานประเทศได้ลงนามอนุมัติการอภัยโทษให้แก่นักโทษ 3,035 คน นี่เป็นแนวทางและนโยบายที่สำคัญของพรรคและรัฐเวียดนาม แสดงให้เห็นถึงเกียรติประวัติที่ดีงามของประชาชาติเวียดนามซึ่งทั้งมีความเข้มงวดในการดำเนินคดีต่อผู้ทำผิดและความเมตตาและความมีมนุษยธรรมต่อผู้ต้องโทษที่กลับเนื้อกลับตัวพร้อมทำประโยชน์เพื่อสังคม นอกจากนั้น ยังมีการพิจารณาการอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องโทษที่เป็นชาวต่างชาติซึ่งได้รับการปฏิบัติบนพื้นฐานของความเป็นธรรมและโปร่งใสซึ่งยังช่วยให้ประชาคมระหว่างประเทศรับทราบอย่างชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแนวทาง นโยบายของพรรคและรัฐเวียดนาม มีส่วนร่วมผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีกับประเทศที่มีพลเมืองที่ได้รับการอภัยโทษ

ในปี 2021 ในสภาวการณ์ที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างซับซ้อน รัฐบาลได้ประกาศใช้นโยบายต่างๆเพื่อค้ำประกันความมั่นคงของชีวิตในขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยเฉพาะคนจน แพ็คเกจสวัสดิการสังคมงวดแรกมีมูลค่า 62 ล้านล้านด่ง และแพ็คเกจสวัสดิการสังคมงวดที่สองที่มีมูลค่ารวม 26 ล้านล้านด่งเป็นพื้นฐานเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและแสดงให้เห็นถึงความพยายามและความมุ่งมั่นของพรรคและรัฐในการปฏิบัติตามพันธกรณีในการปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม

นอกจากนั้น สำนักงานสื่อสารมวลชนของเวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการวิจารณ์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมาย นโยบายของรัฐบาล แผนการ ยุทธศาสตร์และโครงการสำคัญๆของรัฐบาล ส่วนรัฐบาลได้รับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์และถูกต้องอยู่เสมอ ปรับปรุงนโยบายและมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงของประเทศ เช่นงานด้านการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการแก้ไขปัญหาในกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

รัฐบาลเวียดนามยายามปฏิบัติรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (dangcongsan.vn)

รัฐบาลเวียดนามยังพยายามเป็นอย่างมากในการปฏิบัติรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นช่องทางในการให้ข้อมูลและการติดต่อ สื่อสารกับประชาชน โดยเพจเฟซบุ๊ก "ข้อมูลรัฐบาล" ให้ข้อมูลข่าวสารอย่างทันการณ์และถูกต้องเกี่ยวกับการชี้นำและการบริหารของนายกรัฐมนตรีและสถานการณ์สังคมเป็นประจำ ซึ่งได้รับการตอบรับและติดตามจากประชาชนเกือบ 2.6 ล้านคน ผู้ติดตามเกือบ 3 ล้านคนซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจเป็นอย่างมากของประชาชนต่อข้อมูลอย่างเป็นทางการของรัฐบาล

นอกจากการปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนภายในประเทศแล้ว ในปี2021 งานด้านการต่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนผ่านกรอบทวิภาคียังได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการจัดการสนทนาประจำปีว่าด้วยสิทธิมนุษยชนกับสหรัฐและออสเตรเลีย โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับความพยายามและความสำเร็จของเวียดนามในการปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ตอบสนองต่อความสนใจ ข้อกังวล ซึ่งช่วยเพิ่มความเข้าใจซึ่งกันและกัน ลดความแตกต่างกัน  แสวงหาโอกาสความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีกับหุ้นส่วนต่างๆ

เวียดนามธำรงการหารือกับหุ้นส่วนอื่นๆ เช่น อียู กลุ่ม G4 ประกอบด้วย แคนาดา สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และนิวซีแลนด์ และดำเนินการปรึกษาเพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนมิตรเก่าแก่ เช่น รัสเซียและจีนในด้านสิทธิมนุษยชน ในการแลกเปลี่ยนทวิภาคีในระดับต่าง ๆ การที่ประเทศต่างๆสนับสนุนเวียดนามในการลงสมัครเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติวาระปี2023-2025 ยังคงแสดงให้เห็นถึงสถานะและชื่อเสียงของประเทศที่เพิ่มขึ้นในด้านการค้ำประกันสิทธิมนุษยชน.