คุณครูจิ๋งหงอกจิ่ง-พลเมืองกรุงฮานอยดีเด่นประจำปี2018

(VOVWORLD) -คุณครูจิ๋งหงอกจิ่งเป็นผู้ที่อุทิศน์ทั้งชีวิตเพื่อภารกิจการศึกษา แม้ปีนี้จะอายุ84ปีแล้วแต่เขายังคงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือการพัฒนาการศึกษาในเขตเขา เลขที่4ถนนจิ๋งหว่ายดึ๊ก กรุงฮานอย  เมื่อเร็วๆนี้ คุณครูจิ๋งหงอกจิ่งได้รับการสดุดีให้เป็น1ใน10พลเมืองกรุงฮานอยดีเด่นประจำปี2018 

คุณครูจิ๋งหงอกจิ่ง-พลเมืองกรุงฮานอยดีเด่นประจำปี2018 - ảnh 1 คุณครู จิ๋งหงอกจิ่ง พลเมืองกรุงฮานอยดีเด่นประจำปี2018

คุณ จิ๋งหงอกจิ่งเกิดในจังหวัดนิงบิ่ง เมื่อปี1945 ตอนอายุ11ขวบ นาย จิ่งได้สมัครเป็นบุรุษไปรษณีย์ของกองทัพในช่วงสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศส มีวันหนึ่ง ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ แม้ถูกศัตรูโจมตีและถูกยิงที่มือข้างหนึ่งแต่นายจิ่งยังพยายามวิ่งไปเป็นระยะทาง3กิโลเมตรเพื่อทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ประสบความสำเร็จแล้วถึงหมดสติ   โดยแพทย์ต้องตัดมือของนาย จิ่งเพื่อรักษาชีวิต  ซึ่งด้วยความซาบซึ้งในความกล้าหาญของนายจิ่ง  แพทย์เหงวียนจิงเกอได้เขียนเรื่องสั้นเรื่อง “น้องชายหงอก”  ซึ่งในเวลาต่อมา   เรื่อง “น้องชายหงอก”ได้ถูกบรรจุเป็นแบบเรียนในหลักสูตรวรรณกรรมป.5เพื่อเป็นการให้การศึกษาแก่เยาวชนและยุวชนเวียดนามหลายรุ่นในช่วงสงครามต่อต้านอเมริกาเพื่อกู้ชาติ

ในช่วงสงครามต่อต้านอเมริกาเพื่อกู้ชาติ นาย จิ๋งหงอกจิ่งเป็นครูในเขตเขาตะวันตกเฉียงเหนือและต่อมาก็มาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยครุศาสตร์ฮานอย ในฐานะเป็นเลขาธิการกองเยาวชนสาขามหาวิทยาลัยครุศาสตร์ฮานอย เขาและคณะกรรมการบริหารกองเยาวชนสาขามหาวิทยาลัยฯได้เปิดขบวนการ “ Ba sẵn sàng”หรือ "ความพร้อม3ประการ”  หลังจากนั้น ขบวนการนี้ได้รับการพัฒนาเป็นขบวนการแข่งขันรักชาติในทั่วประเทศ นาย จิ๋งหงอกจิ่งได้เผยว่า “เมื่อคืนวันที่30เมษายนปี1964 เจ้าหน้าที่ ครูอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยครุศาสตร์ฮานอยได้จัดพิธีเปิดขบวนการ “ Ba sẵn sàng”- "ความพร้อม3ประการ”  ซึ่งหมายถึงพร้อมต่อต้านอเมริกาเพื่อกู้ชาติ พร้อมสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องภาคเหนือ  ปลดปล่อยภาคใต้และรวมประเทศเป็นเอกภาพ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ที่พรรค ประชาชนและปิตุภูมิมอบหมายให้ หลังจากนั้น1สัปดาห์ กรุงฮานอยและภาคเหนือก็เปิดการรณรงค์ขบวนการดังกล่าว”

เมื่อปี1965 นาย จิ๋งหงอกจิ่งได้ย้ายไปทำงานที่กองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ส่วนกลางและจนถึงปี1975 นาย จิ๋งหงอกจิ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกงานด้านการเมือง โดยเสนอให้จัดตั้งภาควิชา “การศึกษานโยบาย”และสอนนักศึกษาเกี่ยวกับแนวทาง นโยบายของพรรคและรัฐ

นับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี1990มาจนถึงปัจจุบัน นาย จิ๋งหงอกจิ่ง ได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือการพัฒนาการศึกษาในเขตเขา ซึ่งเขาได้ทำงานร่วมกับทางศูนย์ในการส่งเสริมให้องค์การทั้งภายในและต่างประเทศช่วยเหลือยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ทั้งวัตถุและจิตใจของชนกลุ่มน้อยต่างๆ  จนถึงขณะนี้ มีโครงการกว่า200โครงการที่ช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยใน43จังหวัดและนครทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการด้านการศึกษา  นาย จิ๋งหงอกจิ่งได้เผยว่า “ปัจจุบัน พวกเราได้ช่วยเหลือโรงเรียนมัธยมตอนต้นนิงทั้ง ตำบลนิงซวน อำเภอฮวาลือ จังหวัดนิงบิ่งห์ก่อสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์ โดยมีเครื่องคอมพิวเตอร์10เครื่อง พร้อมทั้ง  จัดตั้งกองทุนการศึกษา“น้องชายหงอก”ในโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นนิงทั้งเพื่อชมเชยนักเรียนที่ยากจนและนักเรียนที่โดนสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินและเด็กกำพร้า นอกจากนี้ ยังมีโครงการก่อสร้างศูนย์ภาษาอังกฤษในโรงเรียนนิงทั้ง  ซึ่งสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-อังกฤษได้มอบหน้าที่ให้ผมปฏิบัติโครงการของนาย Len Adis เลขาธิการสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-อังกฤษ ก่อนที่ถึงแก่อสัญกรรม นาย  Len Adis ได้มอบเงินสนับสนุนมูลค่า1.4พันล้านด่งให้สหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนาม ซึ่งเราได้ใช้เงินก้อนนี้เป็นทุนการศึกษามอบให้แก่นักเรียนยากจนและนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกวินจำนวน 120ทุนทุกปี ทุนละ5แสนด่ง”

ศูนย์ช่วยเหลือการพัฒนาการศึกษาในเขตเขายังจัดการประชุมและการสัมมนาเพื่อถอดประสบการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาในเขตเขา พร้อมทั้ง ช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยในการแก้ปัญหาความยากจนและการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมอย่างยั่งยืน นาย จิ๋งหงอกจิ่งเผยต่อไปว่า   “โครงการที่โดดเด่นที่สุดคือโครงการการเกษษตรในตำบลเกื่องเหลยและตำบลตามงือ อำเภอนาหรี่ จังหวัดบั๊กก๋าน  พวกเราได้ช่วยเหลือเกษตรกรในการปลูกถั่วเหลืองเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน โดยแต่ละตำบลสามารถปลูกถั่วเหลืองในพื้นที่5เฮกตาร์ หลังจากนั้น พวกเราขยายพื้นที่การปลูกถั่วเหลืองในทั่วอำเภอนาหรี่ในพื้นที่กว่า80เฮกตาร์ ปัจจุบันนี้ พื้นที่ปลูกถั่วเหลืองได้เพิ่มขึ้นเป็นนับร้อยเฮกตาร์ พวกเราก็ส่งศาสตราจารย์ด้านการเกษตรไปแนะนำวิธีการปลูกให้แก่ประชาชนชนกลุ่มน้อย”

จากการมีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรมต่อชุมชน นาย จิ๋งหงอกจิ่งได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์แรงงานชั้นสองจากพรรคและรัฐและหนังสือชมเชยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษาและฝึกอบรมและรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะกรรมการชาติพันธุ์  ซึ่งประชาชนในท้องถิ่นที่นาย จิ่งเคยทำงานต่างเรียกเขาว่า “น้องชายหงอก” “ทหารทุพลลภาพ” “ชายที่มีความพร้อม3ประการ” “คุณครูที่มีมือข้างเดียว”แต่นาย จิ๋งหงอกจิ่งชอบให้เรียกว่า คุณครูเพราะเขาได้ทุ่มเทตลอดชีวิตเพื่อสอนหนังสือให้แก่นักเรียนในเขตที่ห่างไกลความเจริญและเขตทุรกันดาร.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด