ร้านกาแฟที่มีหนังสือกว่า 4 พันหัว

(VOVworld) - ปัจจุบันในกรุงฮานอยมีร้านกาแฟพร้อมบริการหนังสือให้อ่านมากมายและก็ไม่กี่ ร้านที่สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยาวนาน แต่มีร้านกาแฟหนังสือร้านหนึ่งที่ถนนโอวเกอ กรุงฮานอยได้เปิดบริการมากว่า 10 ปีแล้วซึ่งเจ้าของร้านกาแฟนี้คือนาย เหงียนเท้แถ่ง ที่เรียนจบแค่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเท่านั้นซึ่งตามการเปิดเผยของนายแถ่ง การเปิดร้านนี้ไม่ได้หวังถึงเรื่องกำไรแต่เป็นเพราะต้องการแบ่งปันความรู้ และความรักในการอ่านหนังสือ


(VOVworld) - ปัจจุบันในกรุงฮานอยมีร้านกาแฟพร้อมบริการหนังสือให้อ่านมากมายและก็ไม่กี่ร้านที่สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยาวนาน แต่มีร้านกาแฟหนังสือร้านหนึ่งที่ถนนโอวเกอ กรุงฮานอยได้เปิดบริการมากว่า 10 ปีแล้วซึ่งเจ้าของร้านกาแฟนี้คือนาย เหงียนเท้แถ่ง ที่เรียนจบแค่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเท่านั้นซึ่งตามการเปิดเผยของนายแถ่ง การเปิดร้านนี้ไม่ได้หวังถึงเรื่องกำไรแต่เป็นเพราะต้องการแบ่งปันความรู้และความรักในการอ่านหนังสือ
ร้านกาแฟที่มีหนังสือกว่า 4 พันหัว - ảnh 1
นาย แถ่งและภรรยา

พวกเราเดินทางมาเยือนร้านกาแฟหนังสือในตอนเช้าของวันหยุด ร้านกาแฟหนังสือตั้งอยู่ในแนวทำนบโอวเกอ เมื่อเข้ามาภายในร้าน ก็รู้สึกแปลกใจเพราะชื่อของร้านคือ “กาแฟหนังสือ” แต่เรากลับไม่เห็นหนังสือสักเล่ม เห็นแต่เจ้าของร้านคือนาย เหงียนเท้แถ่ง กำลังนั่งจิบกาแฟและอ่านหนังสือรอพวกเราอยู่ ถึงแม้นาย แถ่งมีอายุกว่า 70 ปี ผมสีดอกเลา แต่เขายังคงดูกระฉับกระเฉงว่องไวและเป็นคนอารมณ์ดี หลังจากพูดคุยกับนาย แถ่ง พวกเราจึงทราบว่า เขาทำห้องอ่านหนังสือไว้ที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องบูชาบรรพบุรุษของครอบครัว ส่วนชั้น 1 ใช้ชงเครื่องดื่มและต้อนรับลูกค้า นาย แถ่งได้เล่าถึงเหตุผลที่เปิดร้านกาแฟหนังสือที่บ้านของตนว่าสมัยเป็นเด็ก ผมหลงไหลและชอบการอ่านหนังสือซึ่งเป็นสิ่งที่ได้รับมาจากคุณแม่ คุณแม่ของผมชอบการอ่านหนังสือมากถึงแม้ผมจบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเท่านั้น แต่ก็ตระหนักได้ว่า การอ่านหนังสือไม่ใช่เพื่อคลายเครียดเท่านั้น หากยังเพื่อเป็นการเพิ่มความรู้ให้แต่ตนเองและทำให้ผมรู้จักถึงคุณค่าของการอ่าน เมื่อโตขึ้น ผมก็เล็งเห็นถึงสิ่งที่เรียบง่ายคือ หลังจากได้รวบรวมและเก็บรักษาหนังสือที่มีค่าหายากก็คิดว่าควรแบ่งปันหนังสือเหล่านี้ให้คนอื่นๆได้อ่าน ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจเปิดร้านกาแฟหนังสือนี้”
หนังสือช่วยให้พวกเรามีความรู้และช่วยสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากขึ้น นี่คือสิ่งที่นาย แถ่งได้รวบรวมเก็บมาทั้งชีวิต ดังนั้น ถึงแม้ต้องประกอบอาชีพหลายอาชีพเพื่อดำรงชีวิต เช่นเป็นกรรมกรและขับมอเตอร์ไซด์รับจ้าง แต่นาย แถ่งก็ยังคงเก็บเงินไว้เพื่อซื้อหนังสือปัจจุบัน ทุกคนสามารถหาซื้อหนังสือได้โดยง่ายเพราะสำนักพิมพ์พิมพ์หนังสือจำหน่ายตามความต้องการของลูกค้าและลูกค้าส่วนใหญ่ก็มีเงินซื้อซึ่งต่างจากเมื่อก่อนที่กว่าจะได้หนังสือสักเล่มถือเป็นเรื่องที่ยากมากเพราะครอบครัวของผมยากจน ต้องเก็บเงินเองเพื่อซื้อหนังสือที่ชอบ”
หลังจากเริ่มเก็บสะสมหนังสือได้มากขึ้น เมื่อปี 2003 นาย แถ่งจึงตัดสินใจเปิดร้านกาแฟหนังสือที่ชั้น 3 ของบ้านตัวเองเพราะมีบรรยากาศที่เงียบสงบและบางครั้งก็ได้ยินแค่เสียงไก่ใกล้นำนบป้องกันน้ำท่วมของแม่น้ำแดงเท่านั้น ดังนั้น ลูกค้าที่นั่งอ่านหนังสือจะไม่ถูกรบกวนจากเสียงภายนอก ร้านกาแฟหนังสือของนาย แถ่งไม่เหมือนกับร้านกาแฟหรูหราทันสมัยในใจกลางกรุงฮานอยเพราะร้านนี้ได้รับการตกแต่งอย่างเรียบง่ายโดยมีโต๊ะเก้าอี้ 1 ชุดภายในร้าน ส่วนบริเวณระเบียงก็ตั้งโต๊ะเล็กๆไว้ 3 ตัวสำหรับลูกค้าที่อยากอ่านหนังสือในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้าและเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว ร้านกาแฟหนังสือที่มีพื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตรของนาย แถ่งอาจถือเป็นห้องสมุดเล็กๆสำหรับผู้ที่รักการอ่านเนื่องจากที่นี่มีหนังสือกว่า 4 พันเล่มที่ได้รับการจัดวางตามหมวดหมู่บนชั้นวางหนังสือที่ทำจากไม้ ประกอบด้วย หนังสือเกี่ยวกับวรรณกรรมภายในประเทศและต่างประเทศซึ่งในนั้น มีหนังสือหลายเล่มที่มีอายุมากกว่าอายุของนายแถ่ง เช่น “พจนานุกรมฮั่น-เวียดนาม” ของนาย ด่าวยุยแองที่ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 1932 “พจนานุกรมเวียดนาม” ที่ถูกตีพิมพ์เมื่อต้นศตวรรษที่ 20 หรือชุด “วรรณกรรมเวียดนาม” ของนาย ดิงยาแค๊งที่มี 42 เล่มที่ถูกตีพิมพ์เมื่อ 50 ปีก่อน ลูกค้าที่มาที่นี่เห็นว่า แม้จำนวนหนังสือจะไม่มากนักแต่สิ่งที่สำคัญคือ นี่คือผลงานสะสมทั้งชีวิตของนาย แถ่งสำหรับผม หนังสือทุกเล่มในห้องนี้ล้วนมีคุณค่าเพราะต้องใช้ทั้งเวลาและเงินจำนวนมากและการคัดเลือกที่ละเอียดละออ ดังนั้น จึงไม่สามารถบอกได้ว่า หนังสือเล่มไหนมีค่าที่สุด มีหนังสือที่มีอายุกว่า 100 ปี 70 ปีหรือ 50 ปีหรือมีหนังสือที่ผมเพิ่งซื้อมาแต่คุณค่าเกี่ยวกับความรักและเป้าหมายการอ่านนั้นเหมือนกัน”

ร้านกาแฟที่มีหนังสือกว่า 4 พันหัว - ảnh 2
ลูกค้าที่มาที่นี่มีหลากหลายอาชีพและทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา

ถึงแม้มีหนังสือที่มีค่าหายากหลายเล่มแต่นาย แถ่งก็ปล่อยให้ลูกค้าเลือกอ่านหนังสือได้ตามอัธยาศัย ลูกค้าที่มาที่นี่มีหลากหลายอาชีพและทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา นอกจากนั้น ยังมีลูกค้าหลายคนมาที่นี่เพราะความรักในการอ่าน รวมทั้งผู้สูงอายุ
ผมชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจีนและเวียดนาม ที่นี่มีหนังสือหลายเล่มที่มีค่าหายากเพราะหนังสือที่นี่ส่วนใหญ่คือหนังสือเก่าๆ มีอายุหลายปีเนื่องจากนาย แถ่งเก็บสะสมมานานแล้ว เดี๋ยวนี้ หาร้านหนังสืออื่นก็ไม่มี มาที่นี่อ่านสบายๆ เงียบสงบและไม่ถูกรบกวน”

ดิฉันอ่านหนังสือที่นี่ทุกวัน นอกจากนั้นก็สามารถพูดคุยกับนายแถ่งเกี่ยวกับเรื่องหนังสือซึ่งช่วยให้ดิฉันรู้สึกสบายๆ”

ถึงแม้ชื่อของร้านคือ ร้านกาแฟหนังสือ แต่บรรยากาศของร้านเหมือนเป็นห้องสมุดมากกว่า เมื่อมาที่นี่ ลูกค้าสามารถเลือกอ่านหนังสือได้ตามอัธยาศัย จะสั่งกาแฟ 1 แก้วแล้วนั่งอ่านหนังสือทั้งวันก็ได้ นอกจากนั้น ถ้ามีปัญหาสงสัยที่อยากพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องหนังสือ เจ้าของร้านก็ยินดีที่จะอธิบายและพูดคุยด้วย ภายใต้แนวคิด “ร้านกาแฟหนังสือมีเป้าหมายหลักคือให้บริการหนังสืออ่านฟรีแก่ลูกค้า ไม่ให้เช่า ยืมหรือขายหนังสือ” ร้านกาแฟหนังสือของนาย แถ่งจึงคงอยู่มาได้นับสิบปีท่ามกลางการพัฒนาอย่างรวดเร็วของอินเตอร์เน็ตและหนังสืออิเล็กทรอนิกส์./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด