ศ.ด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์จิ่งซวนถวนถ่ายทอดความหลงไหลให้แก่คนรุ่นใหม่

(VOVworld) – เมื่อจบจากโรงเรียนมัธยมตอนปลาย Jean Jacques Rousseau ที่เมืองไซ่ง่อน จิ่งซวนถวน ซึ่งขณะนั้นอายุ 18 ปีได้ตัดสินใจเดินบนเส้นทางวิจัยวิทยาศาสตร์ตามความฝันของตนเองแม้มีทักษะ ความสามารถในด้านวรรณกรรมก็ตาม เมื่อปี 1966 จิ่งซวนถวนเข้ามหาวิทยาลัย Pricenton ของสหรัฐและสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิต ในตลอด 40 ปีที่ทำงานในสหรัฐ ศ.จิ่งซวนถวนได้มีโอกาสทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก ซึ่งบางคนได้รับรางวัลโนเบล ศ.จิ่งซวนถวนเป็นหนึ่งในจำนวนคนเวียดนามไม่กี่คนที่ได้วิจัยและมีผลสำเร็จใน ด้านนี้

(VOVworld) – เมื่อจบจากโรงเรียนมัธยมตอนปลาย Jean Jacques Rousseau ที่เมืองไซ่ง่อน จิ่งซวนถวน ซึ่งขณะนั้นอายุ 18 ปีได้ตัดสินใจเดินบนเส้นทางวิจัยวิทยาศาสตร์ตามความฝันของตนเองแม้มีทักษะความสามารถในด้านวรรณกรรมก็ตาม เมื่อปี 1966 จิ่งซวนถวนเข้ามหาวิทยาลัย Pricenton ของสหรัฐและสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิต ในตลอด 40 ปีที่ทำงานในสหรัฐ ศ.จิ่งซวนถวนได้มีโอกาสทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก ซึ่งบางคนได้รับรางวัลโนเบล ศ.จิ่งซวนถวนเป็นหนึ่งในจำนวนคนเวียดนามไม่กี่คนที่ได้วิจัยและมีผลสำเร็จในด้านนี้

ศ.ด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์จิ่งซวนถวนถ่ายทอดความหลงไหลให้แก่คนรุ่นใหม่ - ảnh 1
ศ.ด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์จิ่งซวนถวนถ่ายทอดความหลงไหลให้แก่คนรุ่นใหม่

ศ.จิ่งซวนถวนเกิดเมื่อปี 1948 ที่กรุงฮานอย นับตั้งแต่ที่ยังเป็นนักเรียนในโรงเรียนมัธยม Jean Jacques Rousseau เขาได้ให้ความเคารพเป็นอย่างยิงต่ออัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ซึ่งเป็นนักฟิสิกส์ระดับโลกและให้ความสนใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นรอบตัว เช่น จักรวาลและสิ่งแวดล้อม ขณะนั้น การเรียนฟิสิกส์ดาราศาสตร์ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับชาวเวียดนามและเป็นวิชาที่ค่อนข้างยาก รวมทั้งคุณจิ่งซวนถวนด้วย ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่หลายคนถึงแม้จะสนใจแต่ก็มีน้อยคนนักที่ตัดสินใจศึกษาศาสตร์แขนงนี้อย่างจริงจัง เมื่อกล่าวถึงเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกศึกษาวิชาฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ศ.จิ่งซวนถวนเล่าว่า “ในตอนแรก ผมเลือกเรียนฟิสิกส์ ผมได้เดินทางไปเรียนที่โรงเรียน Caltech ในแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐ แต่เมื่อได้เห็นกล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ Cambrigde  ซึ่งสามารถทำให้เรามองเห็นวัตถุที่อยู่ห่างไกลในจักรวาลได้อย่างชัดเจนและสามารถคาดเดาช่วงเวลาที่วัตถุเหล่านี้จะปรากฎได้ ผมก็รู้สึกชอบมากและอยากเป็นนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ นอกจากนี้ ในช่วงนั้น วงวิทยาศาสตร์ได้ประสบผลสำเร็จต่างๆ เช่น การค้นพบรังสีไมโครเวฟในจักรวาลและนิล อาร์มสตรอง เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้เหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผมกลายเป็นนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์”
ในตลอด 40 ปีที่อาศัยและวิจัยด้านดาราศาสตร์ในสหรัฐและฝรั่งเศส ศ.จิ่งซวนถวนได้มีโอกาสคลุกคลีกับสถาบันวิทยาศาสตร์ชั้นนำระดับโลกคือ Caltech มหาวิทยาลัย Prienton และองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซา พร้อมทั้งมีความภาคภูมิใจที่ได้เรียนและทำงานกับนักฟิสิกส์ที่ได้รับรางวัลโนเบล ซึ่งตามความคิดเห็นของศ.จิ่งซวนถวน นี่เป็นผู้ที่ได้สอนให้ศ.มีความตั้งใจค้นคว้าเรื่องใหม่ และถึงปี 2004 ศ.จิ่งซวนถวนได้ค้นพบกาแล็คซี่เล็ก ๆ ที่ยังมีอายุน้อย ซึ่งเป็นส่วนร่วมที่สำคัญต่อวิทยาศาสตร์ด้านจักรวาล นอกจากนี้ ศ.จิ่งซวนถวนได้รับรางวัลสำคัญต่างๆ เช่น รางวัล Moron ของสถาบันวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศสเมื่อปี 2007 รางวัล Kalinga ของยูเนสโก้เมื่อปี 2009 รางวัล Cino del Duca ของสถาบันประเทศฝรั่งเศสปี 2012 และรางวัล Louis Pauwels ปี 2012 ซึ่งถือเป็นการยืนยันทักษะความสามารถและสติปัญญาของคนเวียดนามต่อวงการวิทยาศาสตร์โลก “ผมเป็นคนเวียดนามและมีความภาคภูมิใจว่า คนเวียดนามก็สามารถรับรางวัลระดับโลกเหมือนชาวต่างชาติได้ ประเทศเวียดนามได้สร้างแรงบันดาลใจและสร้างโอกาสให้ผมสามารถก้าวรุดหน้าไปบนเส้นทางการวิจัยวิทยาศาสตร์”
สิ่งที่น่าสนใจคือ ศ.จิ่งซวนถวนเขียนหนังสือเกี่ยวกับจักรวาลจำนวนมาก โดยมีกว่า 20 เล่มที่เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส ซึ่งในนั้นมีกว่า 10 เล่นถูกแปลเป็นภาษาเวียดนาม เช่น “ลีลาแห่งความลับ” “พจนานุกรมที่ชื่นชอบเกี่ยวกับท้องฟ้าและดวงดาวต่างๆ” “ควอนตัมและดอกบัว” “เผชิญกับจักรวาล” เป็นต้น นางหว่างแทงถวี หัวหน้าแผนกหนังสือวิทยาศาสตร์ของสำนักพิมพ์กิมด่งได้แสดงความคิดเห็นเมื่อได้มีโอกาสพบปะและทำงานกับศ.จิ่งซวนถวนว่า  “เป็นเรื่องยากที่จะหาคำพูดใดๆเพื่อสื่อถึงความรู้สึกของดิฉันเมื่อได้มีโอกาสทำงานกับศ.จิ่งซวนถวน ศ.เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำแต่มีความเป็นกันเอง มีอัธยาศัยดีและมีน้ำใจ ศ.ยังได้กล่าวชื่นชมพวกเรา ซึ่งทำให้ดิฉันมีความสุขมากเมื่อได้ทำงานกับท่าน”

ศ.ด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์จิ่งซวนถวนถ่ายทอดความหลงไหลให้แก่คนรุ่นใหม่ - ảnh 2
กับผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม

หัวข้อเกี่ยวกับจักรวาลส่วนใหญ่เป็นเรื่องเข้าใจยากและน่าเบื่อแต่หนังสือเหล่านี้ของศ.จิ่งซวนถวนล้วนมีเสน่ห์ บรรยายอย่างสละสลวยและเข้าใจง่าย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้ภาษาของศ.เพื่อเป้าหมายส่งสาส์นเกี่ยวกับความสวยงามของดวงดาวต่อผู้อ่าน ซึ่งทำให้ผู้อ่านเวียดนามชอบมาก คุณฝามหวูหลก สมาชิกสมาคมดาราศาสตร์เล่นสมัครในกรุงฮานอยเผยว่า “หนังสือของศ.จิ่งซวนถวนได้ดึงดูดใจและสร้างความหลงไหลให้แก่คนรุ่นใหม่เวียดนาม วงการดาราศาสตร์ของเวียดนามถือเป็นวงการใหม่ ซึ่งผู้ที่โด่งดังเหมือนศ.จิ่งซวนถวนมีไม่มากนักและส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นเมื่อศ.กลับประเทศ พวกเราต่างมีความปรารถนาที่จะได้พบปะกับ ศ.เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เวียดนามเดินต่อไปบนเส้นทางการวิจัยสาขาวิทยาศาสตร์นี้”
ศ.จิ่งซวนถวนมีพื้นเพเป็นชาวหมู่บ้านก๊อย ตำบลมายเลิม อำเภอดงแอง กรุงฮานอย แต่ไม่ว่าท่านจะอาศัยอยู่ที่ประเทศไหน ท่านก็ยังคงมีความปรารถนาที่จะทำเพื่อประเทศเวียดนามและถิ่นเกิด ดังที่ท่านเคยบอกว่า ท่านกลับประเทศก็เพื่อถ่ายทอดความหลงไหลให้แก่คนรุ่นใหม่ที่ชอบศึกษาวิทยาศาสตร์และช่วยให้วงการวิทยาศาสตร์ของเวียดนามพัฒนาทัดเทียมกับประเทศที่มีวิทยาศาสตร์พัฒนาในอนาคต.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด