เมื่อ 20 ปีก่อน นายห่าเติ๊นเติมได้สร้างฐานะด้วยมือเปล่า เขาและภรรยาต้องทำงานหลายอย่างเพื่อเลี้ยงลูก เช่น เป็นลูกจ้างขนข้าวและขายผลไม้ เมื่อเก็บเงินได้ส่วนหนึ่ง เขาได้นำไปลงทุนขุดบ่อเลี้ยงปลาสวายตามกระแสการเพาะเลี้ยงปลาสวายที่เพิ่งพัฒนาในเขตริมฝั่งแม่น้ำเห่า จากความร่วมมือกับบริษัทส่งออกหุ่งเวืองและได้รับความไว้วางใจจากหุ้นส่วน ครอบครัวของนายเติมก็ค่อยๆพัฒนาธุรกิจได้อย่างมั่นคง โดยเขาได้ใช้กำไรที่ได้จากการเลี้ยงปลาสวายฤดูแรกไปซื้อที่ดินเพื่อขยายพื้นที่เลี้ยงปลาและสวนผลไม้เพื่อกระจายความเสี่ยงในกรณีที่ราคาผลผลิตตกต่ำหรือได้รับความเสียหาย ดังนั้นในช่วงปี 2007-2008 แม้อาชีพเลี้ยงปลาสวายตกอยู่ในภาวะที่ลำบากแต่ครอบครัวของนายเติมยังคงมีรายได้ที่มั่นคงจากการเลี้ยงปลาสวายในพื้นที่ 5 เฮ็กต้าให้แก่บริษัทเพื่อทำการส่งออก การปลูกผลไม้ในพื้นที่ 8 เฮ็กต้าพร้อมดูแลเรือขนส่งอาหารสัตว์น้ำขนาดเล็ก 12 ลำและการให้บริการต่างๆ ซึ่งสร้างงานทำให้แก่แรงงานเกือบ 100 คน นายห่าเติ๊นเติมเผยว่า เคล็ดลับของความสำเร็จคือการศึกษาด้วยตนเอง การถอดประสบการณ์และการเปลี่ยนวิธีการประกอบธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ “ผมได้ศึกษาเรียนรู้และถอดประสบการณ์จากการเพาะเลี้ยงในปีก่อนๆ เมื่อได้กำไร ผมได้ซื้อที่ดินเพื่อขยายการเพราะเลี้ยง ในขณะที่สถานการณ์การเลี้ยงปลาประสบความยากลำบาก ผมได้เปลี่ยนไปประกอบอาชีพให้บริการขนส่งอาหารสัตว์น้ำและขุดลอกโคลนในบึงน้ำ เป็นต้น”

สำหรับประชาชนในแขวงเท้ยอาน เขตโอมน นายห่าเติ้นเติมยังเป็นคนที่มีใจกุศล ซึ่งได้เข้าร่วมขบวนการรณรงค์สร้างสรรค์บ้านเกิดเมืองนอน ให้การช่วยเหลือคนจนในพื้นที่และทำกิจกรรมการกุศลในท้องถิ่นต่างๆของนครเกิ่นเทอ จังหวัดอานยาง เบ๊นแจ เตี่ยนยางและนครโฮจิมินห์ เป็นต้น โดยใน 5 ปีที่ผ่านมา นายเติมได้บริจาคเงินเกือบ 1 พันล้านด่งให้แก่กิจกรรมการกุศลต่างๆด้วยความคิดที่เรียบง่ายว่า ตนก็เคยเป็นคนจนที่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่มีใจกุศลแล้ว การช่วยเหลือคนจนนั้นก็ถือเป็นการตอบแทนบุณคุญต่อชีวิต ซึ่งไม่สามารถทำให้ตนยากจนได้อีกแต่กลับช่วยให้ชีวิตของตนมีความหมายมากขึ้น

ความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อสร้างฐานะให้มั่นคงพร้อมกับการเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลต่างๆได้ทำให้ทางการปกครองแขวงเท้ยอานเลือกนายห่าเติ๊นเติมเป็นบุคคลตัวอย่างในขบวนการแข่งขันรักชาติ นายเหงียนวันจุง เจ้าหน้าที่คณะกรรมการประชาชนแขวงเท้ยอาน เขตโอมนเผยว่า “นายห่าเติ๊นเติมได้มีส่วนร่วมมากมายต่อสังคม เช่น ในการก่อสร้างถนนหนทางในเขตชนบทและบ้านเอื้ออาทร นายเติมได้สบทบเงินทุนนับร้อยล้านด่ง ส่วนในเทศกาลต่างๆ เช่น ตรุษเต๊ดประเพณี เขาก็มอบข้าวและของขวัญที่จำเป็นให้แก่คนจน ดังนั้นทางคณะกรรมการฯได้เรียกร้องให้ทางการปกครองระดับเขตและตัวเมืองมอบหนังสือชมเชยให้แก่เขาในปี 2015 และเสนอให้กระทรวงคมนาคมและนายกรัฐมนตรีมอบหนังสือชมเชยอีกด้วย เมื่อเร็วๆนี้ นายเติมยังได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์แรงงานชั้นสอง”

สำหรับเกษตรกรในนครเกิ่นเทอ นายห่าเติ๊นเติมเป็นตัวอย่างในการผลิตและประกอบธุรกิจดีเด่น รวมทั้งเป็นคนที่มีใจกุศลอีกด้วย ซึ่งสมกับการเป็นหนึ่งในเกษตรกรดีเด่นจาก 50 คนทั่วประเทศประจำปี 2015.