เอนโดกาซซูฮีโร – สถาปนิกหนุ่มญี่ปุ่นกับมรดกวัฒนธรรมเวียดนาม

(VOVworld) – นายเอนโดกาซซูฮีโร สถาปนิกหนุ่มชาวญี่ปุ่นทำงานในเวียดนามมา 11 ปีทำให้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการพัฒนาวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ....


(VOVworld) – นายเอนโดกาซซูฮีโร สถาปนิกหนุ่มชาวญี่ปุ่นทำงานในเวียดนามมา 11 ปีทำให้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการพัฒนาวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เพราะจากการศึกษาสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเวียดนามและช่วยชาวบ้านพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนจนทำให้เขาเกิดความหลงไหลและรักประเทศเวียดนามและอยากจะให้มรดกวัฒนธรรมของเวียดนามเป็นที่รู้จักดีในทั่วโลก

เอนโดกาซซูฮีโร – สถาปนิกหนุ่มญี่ปุ่นกับมรดกวัฒนธรรมเวียดนาม - ảnh 1
เอนโดกาซซูฮีโร สถาปนิกหนุ่มชาวญี่ปุ่นผู้ที่หลงไหลและรักประเทศเวียดนาม (Internet)

เอนโดกาซซูฮีโร หนุ่มญี่ปุ่นที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี เป็นสถาปนิกที่มากความสามารถ แม้เพียงได้พบหน้าเป็นครั้งแรกแต่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าเป็นคนที่รู้จักกันมานานแล้ว  เขาบอกว่าถ้าพูดแบบคนเวียดนามแล้ว การที่เขาได้มาทำงานที่นี่ก็คือต้องมนต์เสน่ห์ของเวียดนาม  “ผมรู้จักเวียดนามตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนชั้นประถม ก่อนหน้านี้ 30 ปีในจินตนาการของผม เวียดนามเป็นประเทศของสงคราม เมื่อเรียนถึงชั้นมัธยมได้ฟังการบรรยายของครูบาอาจารย์และได้อ่านหนังสือก็เห็นว่า เวียดนามเป็นประเทศของสงคราม จนถึงปี 2001 เมื่อมาทำงานในเวียดนามผมจึงรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับความคิดของผมเมื่อก่อนนี้

เอนโดกาซซูฮีโรยังจำได้อย่างติดตาเมืองเก่า Hoi An ผืนแผ่นดินแห่งแรกที่เขาเหยียบย่างเมื่อมาถึงเวียดนามเพื่อเข้าร่วมการปฏิสังขรณ์เมืองเก่านี้และนี่คือจุดประกายแห่งความรักของเขาที่มีต่อประเทศเวียดนาม ความประทับใจในความงามของเมืองเก่าและรอยยิ้มสดใสแห่งมิตรไมตรีของชาว Hoi An ยังติดตาตรึงใจเขามิรู้คลาย เอนโดกาซซูฮีโรกล่าวว่า“ 11 ปีอยู่เวียดนาม ผมได้ไปทำงานใน 40 จังหวัดและนคร แต่เมืองเก่า Hoi An ได้สร้างความประทับใจที่สุดให้แก่ผม Hoi An เป็นเมืองแรกในเวียดนามที่ผมมาทำงานและหลายปีหลังจากนั้นเมื่อมาเยือนอีกครั้งก็ยังมีคนจำได้และเรียกผม เอนโดครับ ซึ่งสร้างความประทับใจให้ผมเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยพบเห็นในประเทศญี่ปุ่น

นอกจากโครงการปฏิสังขรณ์เมืองเก่า Hoi An แล้ว เอนโดกาซซูฮีโรยังเข้าร่วมโครงการปฏิสังขรณ์หมู่บ้านเก่าแก่ Phuong Tich ในเมืองเว้ Cai Be ในจ.Tien Giang  Duong Lam ในฮานอยและโครงการอื่นๆอีกมากมาย  Duong Lam เป็นหมู่บ้านโบราณเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในภาคเหนือเวียดนาม ปี 2005 Duong Lam ได้รับการรับรองเป็นปูชนียสถานแห่งชาติและนับตั้งแต่นั้นมาหมู่บ้านเก่า Duong Lam เริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เอนโดกาซซูฮีโรกับเพื่อนร่วมอาชีพชาวญี่ปุ่นและเวียดนามได้ช่วยบูรณะปฏิสังขรณ์บ้านและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในหมู่บ้านรวมทั้งการขยายรูปแบบการท่องเที่ยวชุมชนเพื่อให้การท่องเที่ยวของหมู่บ้าน Duong Lam มีคุณภาพยิ่งขึ้น   เอนโดกาซซูฮีโรได้ร่วมกับมัคคุเทศในคณะกรรมการดูแลปูชนียสถานDuong Lam ทำการสำรวจทรัพยากรท่องเที่ยวใหม่ของหมู่บ้านและทำแผนที่การท่องเที่ยว ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่ดูแลมีความรู้เพิ่มเติมในการพัฒนาจุดท่องเที่ยวที่เมื่อก่อนนี้พวกเขาไม่สนใจ นาง Nguyen Thi Hoai มัคคุเทศคนหนึ่งในคณะกรรมการดูแลหมู่บ้านเก่าแก่ Duong Lam และได้ร่วมทำการสำรวจกับเอนโดกาซซูฮีโรเผยว่า “จากการสำรวจปรากฏว่าในหมู่บ้าน Dong Sang มีปูชนียสถานเก่าแก่ที่ยังไม่ได้รับการเอาใจใส่คือ วิหารเก่าแก่สองแห่ง  ส่วนที่หมู่บ้าน  Mong Phu นั้นไม่มีวิหารแต่มีบ้านโบราณเก่าแก่ของอำมาตย์ฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นสมัยก่อนหลายหลัง

เอนโดกาซซูฮีโร – สถาปนิกหนุ่มญี่ปุ่นกับมรดกวัฒนธรรมเวียดนาม - ảnh 2
เข้าร่วมโครงการปฏิสังขรณ์ต่างๆ  (Internet)

ความรักประเทศเวียดนามของเอนโดกาซซูฮีโรได้เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆชาวเวียดนามที่ทำงานด้านการท่องเที่ยวอย่างเช่นคุณ Hang Nga เรียนจบด้านการท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นแต่ทึ่งในความรู้ลึกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเวียดนามของเอนโด ส่วนคุณ Nam เจ้าหน้าที่ของทบวงการท่องเที่ยวเวียดนามที่ได้กลายเป็นเพื่อนสนิทของเอนโดจากการทำงานร่วมกัน คุณ Nam เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ 1 ปีเมื่อเรียนจบด้านการท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นกลับประเทศ ผมได้รู้จักและทำงานร่วมกับคุณเอนโดกาซซูฮีโร ผมซาบซึ้งใจในความรักของเขาที่มีต่อประเทศเวียดนาม เอนโดไม่เพียงแต่ช่วยเวียดนามอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมและพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนเท่านั้น หากยังช่วยเหลือในด้านศึกษาการตลาด การประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเวียดนามในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

เมื่อถูกถามว่า นอกจากความหลงไหลในการฟื้นฟูบูรณปฏิสังขรณ์มรดกวัฒนธรรมแล้ว เขายังมีความประทับใจต่อสิ่งใดอีกในเวียดนาม เอนโดกาซซูฮีโรยิ้มด้วยความชอบใจและตอบว่า“ในวันไม่ทำงาน ผมชอบนั่งในร้านกาแฟแล้วมองออกไปข้างนอกดูชีวิตความเป็นอยู่ ดูผู้คนสัญจรไปมา รู้สึกตื่นตาและคลายเครียด ผมชอบวิถีชีวิตแบบเงียบๆที่นี่ มีเวลาให้กับตัวเองในช่วงวันหยุดงานอย่างสุขสบาย ผมถือว่า ชีวิตนี้มีความหมายมากที่ได้มีโอกาสมาทำงานในเวียดนาม./.

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด