ใช้โอกาสยุคทองของประชากรเพื่อพัฒนาประเทศ

(VOVWORLD) -ตั้งแต่ปี 2006 เวียดนามได้ย่างเข้าสู่ยุคทองของประชากรโดยมีแรงงาน 54 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ นี่ถือเป็นพื้นฐานของการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ในสภาวการณ์ที่การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 กำลังใกล้เข้ามา เวียดนามได้วางนโยบายที่เหมาะสมเพื่อใช้ความได้เปรียบดังกล่าวเพื่อผลักดันการพัฒนาประเทศ
ใช้โอกาสยุคทองของประชากรเพื่อพัฒนาประเทศ - ảnh 1 ใช้โอกาสยุคทองของประชากรเพื่อพัฒนาประเทศ (Photo VNplus)

ผลการวิจัยเมื่อเร็วๆนี้ปรากฎว่า “ยุคทองของประชากร” จะส่งผลดีต่อการพัฒนาประเทศอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ในอีก 20 ปีข้างหน้า หากเวียดนามใช้โอกาสนี้ได้ดีก็จะสามารถบรรลุก้าวกระโดดใหม่ในทุกด้าน แต่อย่างไรก็ตาม เวียดนามกำลังต้องเผชิญกับความท้าทายเมื่อแรงงานส่วนใหญ่มีทักษะวิชาชีพต่ำ ขาดทักษะความสามารถในการแก้ปัญหาและทักษะการทำงานเป็นทีม ส่วนอัตราแรงงานที่ได้รับการฝึกอบรมคิดเป็นแค่ร้อยละ 20 เท่านั้น ซึ่งเป็นความท้าทายไม่น้อยต่อเศรษฐกิจเวียดนาม โดยเฉพาะหน่วยงานอุตสาหกรรมในสภาวการณ์ที่กระแสวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี โดยเฉพาะการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 กำลังจะนำไปสู่การใช้หุ่นยนต์แทนแรงงานมนุษย์ นายดั่งวันหุ่ง กรรมกรในนิคมอุตสาหกรรมทังลอง กรุงฮานอยแสดงความคิดเห็นว่า “การนำหุ่นยนต์เข้ามาทำงานจะส่งผลกระทบต่องานทำของมนุษย์ ผมรู้สึกกังวลมากเพราะการหางานทำยากมากหากเรามีฝีมือแค่นี้”

การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่องานทำของแรงงานที่ขาดทักษะความสามารถเท่านั้น หากยังส่งผลกระทบต่อแรงงานที่มีทักษะความสามารถในระดับกลางอีกด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่แรงงานเวียดนามนับหมื่นคนแม้ยังไม่ถึงวัยเกษียณแต่ก็ต้องตกงาน และหากไม่มีมาตรการแก้ไขโดยเร็ว เวียดนามจะไม่เพียงแต่ตกในภาวะล้าหลังเท่านั้น หากยังต้องรับมือกับภาระจากนโยบายสวัสดิการสังคม โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่โลกกำลังย่างเข้าสู่ยุคแห่งการพัฒนาบนพื้นฐานเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 นางฝามชีลาน ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเห็นว่า “เราไม่สามารถพึ่งพาค่าแรงงานจ้างถูก รวมทั้งสินค้าที่มีราคาต่ำอีกแล้ว ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงใหม่เป็นเรื่องที่จำเป็น นี่คือสัญญาณเตือนพวกเรา”

การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ได้ส่งผลทำให้ความได้เปรียบจากยุคทองของประชากรอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการพัฒนาของประเทศในอนาคต นายหวูกวางเถาะ หัวหน้าสถาบันกรรมกรและสหภาพแรงงาน สังกัดสหภาพแรงงานเวียดนามเผยว่า เพื่อส่งเสริมความได้เปรียบของแรงงานรุ่นใหม่ ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ตั้งแต่การฝึกอบรม “สิ่งที่แรงงานต้องทำทันทีคือเพิ่มทักษะความสามารถในด้านวิชาชีพหรือหางานใหม่ที่สามารถทำได้ ส่วนระบบสวัสดิการสังคมก็ต้องปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการประกันสังคมและการประกันการว่างงานเพื่อให้การช่วยเหลือคนตกงานได้เรียนอาชีพใหม่ มิฉะนั้น ภาระด้านสังคมจะนับวันหนักมากขึ้น นี่คือภารกิจที่เราต้องทำทันทีเพื่อช่วยให้แรงงานปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน”

ในความเป็นจริง เมื่ออยู่ในยุคทองของประชากร ถ้าหากสามารถใช้สติปัญญาและแรงงานของคนรุ่นใหม่ได้ดีที่สุด เราก็จะสามารถสร้างความมั่งคั่งเพื่อรับมือกับปัญหาประชากรสูงอายุในอนาคตได้ ซึ่งในปัจจุบัน เวียดนามกำลังปฏิบัติมาตรการเพื่อส่งเสริมความได้เปรียบของยุคทองของประชากร ผลักดันการวางแนวทางในด้านงานทำ สร้างงานทำที่มีคุณภาพและได้ผลผลิตมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด