หนุ่มชาวก่าเมาเสร้างฐานะที่มั่นคงผ่านการทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเกษตรปลอดสารพิษ

(VOVWORLD) -นาย เหงียนหิวฮวีห่าว อายุ 26 ปี หัวหน้าสโมสรสตาร์์ทอัพนวัตกรรมนครเกิ่นเทอได้คิดค้นวิธีการบำบัดน้ำเสียจากโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำให้เป็นโคลนชีวภาพที่สามารถใช้ปลูกต้นไม้ โดยผลงานนี้ได้รับรางวัลที่ 2 ในการประกวดนวัตกรรมสตาร์ทอัพของนักศึกษาเวียดนามหรือ “Start-up Student Ideas” ครั้งแรกเมื่อปี 2016 ซึ่งนี่เป็นพื้นฐานให้เขาพัฒนารูปแบบการเกษตรปลอดสารพิษและมีประโยชน์มากขึ้น
หนุ่มชาวก่าเมาเสร้างฐานะที่มั่นคงผ่านการทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเกษตรปลอดสารพิษ - ảnh 1คุณ เหงียนหิวฮวีห่าว กับดินอินทรีย์ Nata
 

หลังจากที่ได้รับรางวัลที่ 2 ในการประกวดดังกล่าว คุณ ฮวีห่าว ซึ่งเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเกิ่นเทอได้ทุ่มเทกับการวิจัยดินปลอดสารพิษผ่านการบำบัดน้ำเสียให้เป็นโคลนชีวภาพ ซึ่งผลงานการวิจัยนี้ทำให้คุณฮวีห่าวต่อยอดเปิดสถานประกอบการบำบัดสิ่งแวดล้อมและผลิตดินอินทรีย์ Nata

จากความสำเร็จในการผลิตดินปลอดสารพิษ เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2018 คุณ ฮวีห่าวก็เริ่มพัฒนารูปแบบการทำเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและก่อสร้างโรงเรือนกระจกปลูกแตงไทยอินทรีย์โดยได้ทำการวิจัยและทดลองปลูกแตงไทยในพื้นที่ดินเค็มของจังหวัดก่าเมา ซึ่งประสบอุปสรรคนานัปการ เขาบอกว่า คนส่วนใหญ่คิดว่า นี่คงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งก็รวมไปถึงหุ้นส่วนที่จัดสรรพันธุ์แตงไทยในญี่ปุ่นด้วย แต่เขาก็ยังคงตั้งใจเดินหน้าและได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากครอบครัว “ผมและพ่อได้ร่วมกันวิจัย โดยในช่วงแรกลำบากมาก เราได้ทดลองปลูกแตงไทย 6-7 พันต้นแต่มีไม่กี่ร้อยต้นสามารถอยู่รอดได้ แต่ในที่สุด เราก็สามารถถอดประสบการณ์และประสบความสำเร็จในการปลูกแตงไทยระยะแรก”

หลังการวิจัยมาเป็นเวลานานบวกกับประสบการณ์ที่ได้รับ ฮวีห่าว ได้ประสบความสำเร็จในการปลูกแตงไทยและก่อตั้งบริษัทฟาร์มเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง กาเมาฟาร์ม ที่มีฟาร์มปลูกแตงไทย 40 ฟาร์มในจังหวัดต่างๆตั้งแต่ก่าเมาไปจนถึงนครเกิ่นเทอ โดยแต่และฟาร์มมีพื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตรและแต่ละเดือนเก็บผลผลิตได้ประมาณ 10-12 ตัน และจำหน่ายในซูปเปอร์มาเก็ตใหญ่ๆ เช่น Coop, Go รวมทั้งส่งออกไปยังญี่ปุ่น สร้างกำไรกว่า 2 พันล้านด่งต่อปี

นอกจากนี้ คุณ ฮวีห่าว ยังเป็นผู้เดินหน้าในการนำสตอเบอรี่มาปลูกในจังหวัดก่าเมา โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและยังเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อแนะนำสินค้าถึงผู้บริโภคโดยตรง เมื่อมาเที่ยวฟาร์มของคุณ ฮวีห่าว นักท่องเที่ยวสามารถเก็บผลไม้ด้วยตนเอง ซึ่งช่วยให้สามารถขายผลไม้ในฟาร์มได้หมดภายในเวลาสองสามวันเท่านั้น สร้างงานทำให้แก่แรงงานท้องถิ่นจำนวนมาก โดยแต่ละคนได้เงินเดือนประมาณ 5-8 ล้านด่ง นาย ห่งหว่างหาว นักศึกษาปีที่ 3 จากมหาวิทยาลัยเกิ่นเทอ ที่ทำงานแบบ part - time ในฟาร์มปลูกแตงไทยของคุณ ฮวีห่าวที่นครเกิ่นเทอกล่าวว่า "งาน part-time นี้ช่วยให้ผมเก็บเกี่ยวประสบการณ์และนำความรู้ที่ได้เรียนในมหาวิทยาลัยฯมาประยุกต์ใช้ในงาน พร้อมทั้งมีเงินจ่ายค่าเรียนและเดินตามความฝัน"

ในฐานะหัวหน้าสโมสรสตาร์ทอัพนวัตกรรมนครเกิ่นเทอ คุณ ฮวีห่าวได้ช่วยเหลือในการประชาสัมพันธ์ กำหนดแนวทางและรูปแบบการทำธุรกิจสตาร์ทอัพให้แก่เยาวชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในแต่ละสัปดาห์และแต่ละไตรมาส ทางสโมสรฯ จะสรุปผลการปฏิบัติ ต่างๆสำหรับแผนการในอนาคต นาย ฮวีห่าว กล่าวว่า “ นอกเหนือจากจังหวัด ก่าเมา เราจะเปิดฟาร์มในจังหวัดอื่นๆ ของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อนำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าเหล่านี้ถึงมือของลูกค้าอย่างทั่วถึง ในฐานะหัวหน้าสโมสรสตาร์ทอัพเกิ่นเทอ ผมขอย้ำกับสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ว่า การทำธุรกิจสตาร์ทอัพเหมือนการต่อสู้ เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ดังนั้นเราต้องพยายามทำวันนี้ให้ดีที่สุด โดยรับฟังความคิดเห็นของผู้สนับสนุนเราให้นับวันมีความสมบูรณ์มากขึ้น นี่จะเป็นอาวุธที่แหลมคมช่วยให้เราชนะในการต่อสู้”

ถึงแม้มีอายุแค่ 26 ปี แต่คุณ เหงียนฮวีห่าว ได้เป็นเจ้าของสถานประกอบการ 4 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทบำบัดสิ่งแวดล้อม เหงียนเจิ่นจำกัด ที่บำบัดโคลนในน้ำเสียของโรงงานผลิตกุ้งในจังหวัดก่าเมา บริษัทจัดงานอีเว้นท์ ต้ามห่งจำกัด บริษัทผลิตดินอินทรีย์ NaTa และฟาร์มเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงก่าเมาฟาร์ม เขายังเป็นหนึ่งใน 56 เยาวชนดีเด่นที่ได้รับรางวัล เลืองดิ่งกั๋ว ประจำปี 2020 และหนังสือชมเชยต่างๆในระดับนครและส่วนกลาง ความสำเร็จของหนุ่มวัย 26 ปีนั้นมาจากความตั้งใจที่ไม่ยอมแพ้ โดยจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อความสำเร็จดั่งคำขวัญของเขาว่า “สร้างฐานะที่บ้านเกิดและอุทิศให้แก่ชุมชนคือความปรารถนาในตลอดชีวิต”.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด