บทสัมภาษณ์ท่านเอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนาม

(VOVworld) – นายมานพชัย วงศ์ภักดี เอกอัครราชทูตไทยได้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระในเวียดนามมาเกือบ 1 ปี ซึ่งก็เท่าๆกับช่วงเวลาการจัดตั้งประชาคมอาเซียน แม้เวลาเกือบ 1 ปีจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานนักแต่ก็ช่วยให้ท่านสามารถให้ข้อสังเกตต่างๆเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทย โดยเฉพาะในกรอบความร่วมมือของอาเซียนที่ “ได้เห็นพัฒนาการในทางบวกมากมาย” รวมทั้งย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในปีที่ผ่านมา
(VOVworld) – นายมานพชัย วงศ์ภักดี เอกอัครราชทูตไทยได้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระในเวียดนามมาเกือบ 1 ปี ซึ่งก็เท่าๆกับช่วงเวลาการจัดตั้งประชาคมอาเซียน แม้เวลาเกือบ 1 ปีจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานนักแต่ก็ช่วยให้ท่านสามารถให้ข้อสังเกตต่างๆเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทย โดยเฉพาะในกรอบความร่วมมือของอาเซียนที่ “ได้เห็นพัฒนาการในทางบวกมากมาย” รวมทั้งย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในปีที่ผ่านมา
บทสัมภาษณ์ท่านเอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนาม  - ảnh 1

“ในช่วงปีหนึ่งที่ผ่านมานี้ นอกจากจะเป็นช่วงที่ประชาคมอาเซียนครบรอบ 1 ปีแล้ว ยังมีโอกาสที่เราเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย – เวียดนามครบรอบ 40 ปีด้วย ในปีที่ผ่านมา เรามีการแลกเปลี่ยนการเยือนกันในหลายระดับ ต้องขอขอบพระคุณท่านเหงียนซวนฟุ๊ก นายกรัฐมนตรีเวียดนามที่ได้กรุณาเดินทางไปประเทศไทยเพื่อที่จะไปถวายสักการะพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งท่านไป ท่านก็ไม่ไปคนเดียว ท่านพาคณะรัฐมนตรีไปด้วยถึง 3-4 กระทรวง อันนี้เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงความใกล้ชิด นอกจากนั้น ท่านรองนายกฯหวูดึ๊กดาม ที่คุมทางด้านการศึกษา วัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ก็เดินทางไปเยือนประเทศไทยและเข้าร่วมการประชุมเอซีดีด้วย สำหรับฝ่ายไทยมีทั้งรองนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึง 2 ท่านคือ พลเอก ธนศักดิ์ ปฏิมาปกรณ์ ท่านเดินทางมาเยือนถึง 3 ครั้ง แล้วก็มีท่าน สมคิด ที่ดูแลด้านเศรษฐกิจก็ได้มาเป็นตัวแทนของท่านนายกฯในการประชุมเรื่องแม่น้ำโขงที่นี่ แล้วมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของไทยเดินทางมา มีรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชของไทยเดินทางมา…

ในส่วนของความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ ประชาคมเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นนี้ ถ้าเราหันไปมองดูทางด้านสถิติการค้าและการลงทุน เราก็จะเห็นได้ว่า การค้า การลงทุนที่เกิดขึ้นในระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกันนี้มีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเวียดนามเอง การลงทุนที่เกิดขึ้นจากประเทศอาเซียนด้วยกันมีที่อยู่ในอันดับ Topten เลย คือ 10 อันดับแรก มีทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย นะครับ ถึง 3 อันดับใน 10 อันดับต้น เขาเรียกว่าเป็นเรื่องบ่งชี้ที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการผสานเข้าเป็นเนื้อเดียวกันของระบบการผลิตในอาเซียนด้วยกัน นอกจากนั้น ในเรื่องสถิติการค้า ก็จะเห็นได้ว่า การค้าระหว่างเวียดนามกับประเทศอาเซียนก็มีปริมาณการค้าเพิ่มขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะกับไทยจะเห็นว่า มีการค้าเพิ่มขึ้นมาก เป็นจำนวนถึงประมาณ 1 หมื่น 3 พันล้านเหรียญในปีนี้ ก็ถือว่าเป็นเครื่องหมายที่ดี

ในส่วนของประชาชนเอง ก็มีการเดินทางไปมาหาสู่เพิ่มมากขึ้นโดยตลอด ทั้งที่ประชาชนชาวเวียดนามไปท่องเที่ยวในประเทศไทย  แล้วก็มีชาวไทยเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศเวียดนาม สิ่งเหล่านี้สำคัญพอๆกับความสัมพันธ์เศรษฐกิจเพราะว่า มันจะทำให้ประชาชนของสองประเทศยิ่งพบปะไปมาหาสู่กันมากขึ้น”

มูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปีที่แล้วได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากถ้าหากเปรียบเทียบกับตัวเลขของปีก่อนๆ ซึ่งอยู่ที่ 1หมื่น1พันล้าน-1หมื่น2 พันล้านเท่านั้นสาเหตุอันเนื่องมาจากอะไรคะ

“ปัจจุบัน ไทยกับเวียดนามไม่เหมือนกับการค้าไทย – เวียดนามเมื่อ 30 ปีที่แล้วที่ค้าขายกันเฉยๆ เดี๋ยวนี้มันมีการลงทุน การฝึกอบรมคนของแต่ละฝ่าย ทางเวียดนามเองก็เริ่มมาลงทุนในประเทศไทยแล้ว มีบริษัท Vietjet เข้าไปแล้ว ไปจดทะเบียนในประเทศไทยถึง 50 ล้านเหรียญ แล้วก็จ้างพนักงานไทยถึงเกือบ 300 คน แล้วยังมีเจ้าของบริษัทเกี่ยวกับอาหารของเวียดนามก็ไปตั้งร้านอาหารเวียดนามในประเทศไทย อันนี้เป็นพัฒนาการที่น่าจับตามองเพราะที่ 20 ปีที่ผ่านมา เราเห็นว่ามีเฉพาะฝ่ายไทยมาลงทุนที่นี่ แต่ตอนนี้เราเห็นว่า เราจะมีการลงทุนทั้งสองทาง สิ่งนี้ยิ่งทำให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจแน่นแฟ้นขึ้นอีกนอกเหนือจากทางการค้าแล้ว ในด้านการค้า สินค้าเวียดนามเองก็เริ่มได้รับการเสนอให้กับประชาชนชาวไทย เช่น สินค้าของวีนามิลล์ในซูเปอร์มาเกตหรือร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย แล้วเรื่องผลไม้เวียดนามที่มีคุณภาพดีกว่าไทยก็มีมากแล้วก็เริ่มได้รับการส่งออกจากเวียดนามไปยังประเทศไทย เพราะฉะนั้นในอนาคต ผมเห็นแต่ความสดใสของความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ”

ในปี 2017 สถานทูตไทยประจำเวียดนามจะให้ความสนใจในด้านไหนเป็นพิเศษเพื่อขยายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและมีส่วนร่วมพัฒนาประชาคมอาเซียนให้เข้าสู่ส่วนลึก มีประสิทธิภาพอย่างจริงจัง

“ในปีหน้า 2017 ทางสถานทูตก็เตรียมวางแผนที่จะจัดกิจกรรมหลายอย่างเพื่อที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ เรากำลังมองถึงการจัดการแสดงด้วย จะเป็นพระราชนิพนธ์ เพื่อที่จะเผยแพร่ให้ชาวเวียดนามได้รู้จักมากขึ้น แล้วก็ยังมีกิจกรรมที่จะร่วมมือกับจังหวัดต่างๆด้วย แล้วก็โรงเรียนที่อยู่ในอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพที่อยู่ในภาคเหนือของเวียดนาม 3 โรงเรียน”

ค่ะ โรงเรียนประถมศึกษานิงหมีในจังหวัดนิงบิ่งห์ โรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษากาวเซินที่ด่ายบั๊ก จังหวัดหว่าบิ่งห์และโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาหุ่งทั้งในจังหวัดกว๋างนิงห์ใช่ไหมคะ

“ครับ แล้วในกรอบของความร่วมมืออาเซียน ก็คงดำเนินไปตามที่ได้มีการกำหนดไว้แล้ว อันนี้หน่วยงานไทยที่มีเกี่ยวข้องทั้งหมดก็จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสมาชิกอาเซียนทั้งหมด เพราะปี2017จะเป็นปีที่ครบรอบ 50 ปีการสถาปนาอาเซียน ซึ่งคิดว่าเป็นก้าวสำคัญอีกอันหนึ่งของอาเซียน เราคงไม่หวังที่เราจะพัฒนาความร่วมมือที่จะมีกรอบความร่วมมือที่ลักษณะเดียวกับประเทศกลุ่มประชาคมยุโรป เพราะว่าพื้นฐานไม่เหมือนกัน แล้วก็แต่ละประเทศของเรายังมีความต้องการที่จะรวมตัวกันในลักษณะหลวมๆมากกว่า การรวมตัวที่มีลักษณะผูกมัด แข็งเกินไปก็จะขาดความยืดหยุ่น ซึ่งในอาเซียนเรา เราจะเนิ้นหลักเรื่องความยืดหยุ่น”

ในโอกาสปีใหม่ 2017 ท่านเอกอัครราชทูตอยากกล่าวอะไรกับประชาชนเวียดนามคะ

“ในโอกาสคริส์มาสและปีใหม่ ผมก็ขออนุญาตที่จะขออวยพรให้ประชาชนชาวเวียดนามประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ ความก้าวหน้าในชีวิตการงาน มีความมั่นคง สุขภาพดี แล้วก็มีความเจริญรุ่งเรืองในอาชีพและกิจการที่ตนเองประกอบอยู่ ถ้าทำการค้าก็ขอให้ได้ผลประกอบการที่สูงๆ ถ้าทำงานอยู่ในบริษัทก็ขอให้ได้รับโบนัสมากๆ ถ้าเรียนหนังสืออยู่ก็ขอให้ได้เกรดที่ดีตามความปรารถนาของพ่อแม่พี่น้อง ในส่วนที่ท่านรับราชการเหมือนผมก็ขอให้เราก็ตั้งใจทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุด เพราะก็มั่นใจว่าในปี 2017 ก็จะเป็นอีกปีทองอีกปีหนึ่งของประเทศ รัฐบาลและประชาชนชาวเวียดนาม เพราะว่าน่าจะเป็นอีกปีสำคัญที่จะมีการค้าการลงทุนที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปลายปี2017 เวียดนามก็ได้รับเกียรติที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมสำคัญอันหนึ่งของโลก คือเอเปก ซึ่งผมมั่นใจว่า จะต้องผ่านไปอย่างราบรื่นแล้วก็สมเกียรติ”.

ขอขอบคุณท่านที่ได้ให้สัมภาษณ์ภาคภาษาไทยสถานีวิทยุเวียดนาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด