การขยายการพยุงราคาสินค้าในช่วงปลายปี๒๐๑๒

(VOVworld) –  นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้มีคำสั่งขยายการบริหาร ควบคุมและพยุงราคาสินค้าในช่วงปลายปี๒๐๑๒เพื่อสร้างความสมดุลย์ระหว่างอุป สงค์และอุปทานและพยุงราคาสินค้าและการบริการที่จำเป็นให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงตรุษเต๊ตที่จะถึงซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้แก่การผลิต ประกอบธุรกิจ กระตุ้นกำลังซื้อ แก้ไขปัญหาสินค้าค้างสต๊อก พัฒนาตลาดภายในประเทศ ช่วยประชาสัมพันธ์“ชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม”อย่างมี ประสิทธิภาพ


(VOVworld) –  นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้มีคำสั่งขยายการบริหาร ควบคุมและพยุงราคาสินค้าในช่วงปลายปี๒๐๑๒เพื่อสร้างความสมดุลย์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานและพยุงราคาสินค้าและการบริการที่จำเป็นให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงตรุษเต๊ตที่จะถึงซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้แก่การผลิต ประกอบธุรกิจ กระตุ้นกำลังซื้อ แก้ไขปัญหาสินค้าค้างสต๊อก พัฒนาตลาดภายในประเทศ ช่วยประชาสัมพันธ์“ชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม”อย่างมีประสิทธิภาพ

การขยายการพยุงราคาสินค้าในช่วงปลายปี๒๐๑๒ - ảnh 1
การขยายการพยุงราคาสินค้าในช่วงปลายปี๒๐๑๒ (Photo:Internet)

ในช่วงปลายปี ราคาสินค้าหลายชนิดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ สินค้าที่จำเป็น บวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจสังคมที่ประสบความยากลำบาก เช่น การส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอตัว การนำเข้าลดลง กำลังซื้อในประเทศอยู่ในระดับต่ำและปริมาณสินค้าบางชนิดค้างสต๊อกในระดับสูงซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังสร้างความกังวลว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ CPI อาจจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งโดยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา CPIได้เพิ่มขึ้นร้อยละ๒.๒เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นการเพิ่มสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี  เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งชะลอการขึ้นราคาการบริการที่จำเป็นต่างๆแต่CPIในบางกลุ่ม เช่นสาธารณสุข และการศึกษาก็ยังคงอยู่ในระดับสูง  เพื่อปฏิบัติเป้าหมายให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการควบคุมเงินเฟ้อและสร้างเสถียรภาพให้เศรษฐกิจ  นายกรัฐมนตรีได้ประกาศใช้คำสั่งเกี่ยวกับการขยายการบริหาร ควบคุมและพยุงราคาสินค้าในช่วงปลายปี๒๐๑๒  ส่วนเมื่อกลางเดือนมิถุนายน รัฐบาลได้จัดการประชุม e.conference กับ๓๖จังหวัดและนครทั่วประเทศเพื่อประเมินการพยุงราคาสินค้า และชี้นำการปฏิบัติมาตรการพยุงราคาสินค้าในช่วงปลายปี จนถึงปัจจุบัน ทั่วประเทศมีจุดขายสินค้าที่ได้รับการพยุงราคากว่า๖พัน๔ร้อยแห่ง โดยเฉพาะ ระบบการจำหน่ายสินค้านี้ที่ได้เข้าถึงเขตชนบท เขตทุรกันดาร เขตชุมชนที่แออัด  นิคมอุตสาหกรรมและเขตการผลิตเพื่อการส่งออกซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์กำหนดว่า สินค้าที่ได้รับการพยุงราคาต้องถูกกว่าที่ขายในท้องตลาดตั้งแต่ร้อยละ๕ ถึงร้อยละ๑๐และงบประมาณสำหรับโครงการพยุงราคาสินค้าของรัฐบาลก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ท่าน Hồ Kim Thoa รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสากรรมและพาณิชย์เผยว่า “จนถึงปัจจุบัน การเข้าร่วมของภาคสังคมในการจำหน่ายสินค้าที่ได้รับการพยุงราคานับวันยิ่งมากขึ้นซึ่งตามข้อกำหนด สถานประกอบทุกแห่งที่สามารถจ่ายเงินทุนด้วยตัวเองจึงจะได้เข้าร่วมโครงการพยุงราคาสินค้า และปัจจุบันมีสถานประกอบการ๖๐แห่งที่สามารถจ่ายเงินทุนเองได้ในจำนวนสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนี้ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จำนวนสถานประกอบการที่สามารถจ่ายเงินทุนเองนับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น พลังจูงใจและขอบเขตของโครงการพยุงราคานับวันยิ่งขยายกว้างมากขึ้น”   เพื่อปฏิบัติเป้าหมายสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจ ควบคุมเงินเฟ้อ พยุงราคาสินค้าในช่วงปลายปี นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆควบคุมราคาและค่าธรรมเนียมของสินค้าและการบริการที่จำเป็น เช่น สาธารณสุข การศึกษา น้ำประปา ค่าขนส่ง ราคานม ยารักษาโรค ยาปราบศัตรูพืชและสัตว์ และปุ๋ย โดยเฉพาะ สินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของประชาชน ซึ่งในนั้น กลุ่มมาตรการต่างๆได้เน้นในตลาดใหญ่๒แห่งคือกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ ปัจจุบัน นครโฮจิมินห์มีจุดจำหน่ายสินค้าที่ได้รับการพยุงราคากว่า๓พัน๕ร้อยแห่ง นับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน บรรดาสถานประกอบการได้นำสินค้าไปจำหน่ายในเขตและอำเภอต่างๆกว่า๕๐๐ครั้งมีรายได้กว่า๑หมื่น๑พันล้านด่ง เฉพาะ เดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางนครได้จัดการจำหน่ายสินค้าในอำเภอและเขต๗แห่ง คือ Củ Chi Hóc Môn Cần Giờ Bình Chánh Nhà Bè Gò Vấp และเขต๘ รวมทั้งหมดกว่า๑๐๐ครั้งโดยมีสถานประกอบการ๒๕แห่งเข้าร่วม แบ่งเป็น๓กลุ่มโดยเครือบริษัทการค้าไซ่ง่อนหรือStra  และสหพันธ์สหกรณ์การค้านครโฮจิมินห์หรือไซ่ง่อนCo.op เป็นแกนหลัก   ส่วนสำหรับกรุงฮานอยก็มีจุดจำหน่ายสินค้าที่ได้รับการพยุงราคาในอำเภอต่างๆรวมทั้งหมดกว่า๖๐๐แห่ง รวมทั้งในเขตชานเมืองที่มีกว่า๒๕๐จุด เพิ่มขึ้นเป็น๓เท่าเมื่อเทียบกับปี๒๐๑๐ สำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์ฮานอยได้ชี้นำการพยุงราคาต่อสินค้าที่จำเป็น๑๐ชนิด เช่น ข้าว อาหาร สมุดโดยมีราคาต่ำกว่าท้องตลาดตั้งแต่ร้อยละ๑๐ถึงร้อยละ๑๕ ซึ่งได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะ ผู้ใช้แรงงาน สิ่งที่น่าสนใจคือ ตั้งแต่ปี๒๐๑๑ มีสถานประกอบการเอกชนจำนวนมากได้เข้าร่วมโครงการพยุงราคาสินค้าและนำสินค้าไปจำหน่ายในเขตชนบทซึ่งมีส่วนร่วมประชาสัมพันธ์และสร้างพลังจูงใจให้แก่โครงการ “ชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม”  นาย Nguyễn Bội Ngọc ผู้จัดการระบบซุปเปอร์มาเก็ตLan Chi เผยว่า“พวกเราเลือกชนบทเป็นพื้นที่เพื่อพัฒนาระบบซุปเปอร์มาเก็ตที่ยั่งยืนโดยอำเภอแต่ละแห่งมีซุปเปอร์มาเก็ต๑แห่งเพื่อมีส่วนร่วมในการปฏิบัตินโยบายของฮานอยคือการนำสินค้าไปถึงมือของผู้บริโภค”  ความพยายามในการบริหารของรัฐบาลทำให้CPIในเดือนตุลาคมของกรุงฮานอยเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ๐.๓๗  นครโฮจิมินห์เพิ่มขึ้นร้อยละ๐.๔และ CPIของทั้งประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ๑ เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน รัฐบาลคาดว่าจากมาตรการควบคุมเงินเฟ้อ และการพยุงราคาสินค้า CPIของปี๒๐๑๒จะเพิ่มขึ้นร้อยละ๘และจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในหลักหน่วยดังเป้าหมายที่รัฐสภาได้วางไว้./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด