ความท้าทายสำหรับสถานประกอบการเวียดนาม

(VOVWORLD) - นับตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมปี 2019 ข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือซีพีทีพีพีได้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในประเทศเวียดนาม ซึ่งถือเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่มีคุณภาพสูง รอบด้านและมีคำมั่นที่ลึกซึ้งมากที่สุดในปัจจุบัน โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินว่า โอกาสและความท้าทายจากซีพีทีพีพีขึ้นอยู่กับทักษะความสามารถในการใช้โอกาสและการฟันฝ่าอุปสรรคของสถานประกอบการเวียดนาม
ความท้าทายสำหรับสถานประกอบการเวียดนาม - ảnh 1 (Photo sohuutritue.net.vn)

 

หลังจากที่ข้อตกลงซีพีทีพีพีมีผลบังคับใช้ นี่ถือเป็นโอกาสให้หน่วยงานเครื่องหนังรองเท้าเวียดนามเพิ่มการส่งออกเพราะบรรดาประเทศที่เข้าร่วมซีพีทีพีพีล้วนเป็นตลาดนำเข้าที่มีศักยภาพของเวียดนาม ภาษีประเภทต่างๆ โดยเฉพาะการเก็บภาษีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเครื่องหนัง เช่น รองเท้าและกระเป๋าอยู่ที่ร้อยละ 0 แต่อย่างไรก็ตาม นาง ฟานถิแทงซวน รองประธานและเลขาธิการของสมาพันธ์เครื่องหนังรองเท้าและกระเป๋าเวียดนามเผยว่า สำหรับสถานประกอบการเครื่องหนังและรองเท้าขนาดกลางและขนาดย่อม ความสามารถในการเข้าถึงตลาดส่งออกและการขยายขอบเขตการผลิตยังคงมีอุปสรรค            “กลไกนโยบายที่สนับสนุนสถานประกอบการให้ขยายตลาดและเน้นการพัฒนายังคงถูกจำกัดเพราะสำหรับหน่วยงานเครื่องหนังรองเท้า แม้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดีแต่กลับขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต เงื่อนไขเพื่อเข้าร่วมซีพีทีพีพีคือต้องใช้วัตถุดิบที่ผลิตในประเทศถึงร้อยละ 55 ดังนั้นสำหรับสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่ไม่มีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนและแหล่งบุคลากร การเป็นฝ่ายรุกในเงื่อนไขนี้จะทำได้ยาก”

ไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมเครื่องหนังรองเท้าเท่านั้น หากหน่วยงานอื่นๆ รวมทั้งหน่วยงานการเกษตรก็ประสบปัญหาดังกล่าวเช่นกัน ดังนั้น สถานประกอบการต้องเป็นฝ่ายรุกเปลี่ยนแปลงแนวคิดในการบริหาร การเข้าถึงและการใช้โอกาสจากซีพีทีพีพี เพราะเมื่อซีพีทีพีพีมีผลบังคับใช้ เศรษฐกิจจะต้องเปิดประตูให้แก่หุ้นส่วนตามคำมั่นที่ให้ไว้ ปฏิบัติหน้าที่ในด้านกลไกและกฎระเบียบของข้อตกลง ตอบสนองเงื่อนไขที่เข้มงวดในด้านคุณภาพ นายเลแทงหว่า รองอธิบดีกรมแปรรูปและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรสังกัดกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเผยว่า เมื่อเข้าร่วมซีพีทีพีพี เวียดนามก็ต้องพร้อมตอบสนองเงื่อนไขที่เข้มงวดต่างๆจากประเทศสมาชิกอื่นๆ โดยเฉพาะในด้านสินค้าการเกษตร            “ สิ่งที่ถือว่าเป็นปัญหายุ่งยากที่สุดสำหรับสินค้าการเกษตรของเวียดนามคือ คุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร ปัจจุบันนี้ กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทได้ประกาศข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรฐานด้านการเกษตรในการปลูก และการเพาะเลี้ยงเพื่อค้ำประกันการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าการเกษตรและสัตว์น้ำของเวียดนาม”

ชมรมสถานประกอบการเวียดนามเผยว่า เมื่อเข้าร่วมข้อตกลงซีพีทีพีพี ก็หมายความว่า การแข่งขันจะรุนแรงมากทั้งในตลาดภายในประเทศและในตลาดของประเทศที่เข้าร่วมข้อตกลงฉบับนี้ใน 3 ระดับคือ ผลิตภัณฑ์ สถานประกอบการและประเทศ นาย ฝามแหมงโก๋น ประธานกรรมการและผู้อำนวยการของบริษัท ElTex Viet Nam จำกัดเผยว่ เพื่อสามารถใช้โอกาสนี้ สถานประกอบการณ์ต้องศึกษาข้อมูลต่างๆของซีพีทีพีพีให้เข้าใจ            “เมื่อผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและเข้าร่วมข้อตกลงซีพีทีพีพี ตลาดจะเปิดกว้าง แต่นี่ก็ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นเพื่อพัฒนาสถานประกอบการ ต้องมีการกำหนดแนวทางให้ชัดเจน ควรมี “คู่มือ” ให้แก่สถานประกอบการ เพราะว่า ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงฉบับนี้ คู่มือจะช่วยสถานประกอบการศึกษาหาข้อมูลเพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ของสถานประกอบการให้มีความเหมาะสมมากที่สุด”

ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจเผยว่า เวียดนามไม่รู้สึกแปลกใจเมื่อเข้าร่วมข้อตกลงซีพีทีพีพีเพราะเวียดนามได้เตรียมเข้าร่วมข้อตกลงฉบับนี้ในตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น เวียดนามจึงมีกฎหมายที่สอดคล้องกับซีพีทีพีพี เช่น กฎหมายการลงทุน กฎหมายสถานประกอบการและกฎหมายการลงทุนภาครัฐ เป็นต้น แต่ถึงกระนั้นก็ต้องทำการปรับปรุงให้สมบูรณ์เพื่อใช้โอกาสได้อย่างเต็มที่และลดอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ นาย เหงียนมิงห์ฟอง ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจให้ข้อสังเกตุว่า            “เมื่อเข้าร่วมข้อตกลงซีพีทีพีพีอย่างเป็นทางการ เวียดนามต้องจัดทำแผนการผสมผสานในกรอบของซีพีทีพีพีเพื่อขออนุมัติจากสภาแห่งชาติและมีโครงการปฏิบัติของรัฐบาล จากนั้น กระทรวง ท้องถิ่นและสมาคมแต่ละแห่งจะนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติเพื่อให้มีความพร้อมเพรียงในระดับประเทศ มีมาตรการแก้ไขและมีเป้าหมายร่วมกัน เวียดนามต้องตรวจสอบกฎหมายฉบับต่างๆ รวมทั้งกฎหมายเกี่ยวกับผู้ใช้แรงงานและสถานประกอบการเพื่อปรับปรุงให้เหมาะสมที่สุด”

บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังเผยว่า เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงซีพีทีพีพีได้อย่างเต็มที่ ชมรมผู้ประกอบการ ต้องเป็นฝ่ายรุกในการเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการบริหารและการประกอบธุรกิจ จัดทำยุทธศาสตร์ให้เป็นแบบแผน ผลักดันการยกระดับเงื่อนไขต่างๆในการปกป้องลิขสิทธิ์ทางปัญญาและความสามารถของกลไกการปกป้องลิขสิทธิ์ทางปัญญาของเวียดนามในกระบวนการเข้าร่วมข้อตกลงซีพีทีพีพี.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด