ปี2017เวียดนามรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

(VOVWORLD) - เวียดนามจะบรรลุอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจที่ร้อยละ 6.7ในปี2017 นี่คือข้อมูลที่ถูกระบุในรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจเวียดนามที่ธนาคารโลกเพิ่งประกาศเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและบรรลุอัตราการขยายตัวที่ได้วางไว้ในปี2017จะช่วยสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การรักษาอัตราการขยายตัวอย่างมั่นคงในปี2018และปีต่อๆไป

ตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2017 มีสัญญาณที่สดใสเนื่องจากความพยายามอย่างข้ามขั้นของหน่วยงานเศรษฐกิจ รวมทั้งการขยายตัวของอุตสาหกรรมการแปรรูป อุตสาหกรรมการผลิตและความต้องการของตลาดภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น  ส่วนรายงานของรัฐบาลในการประชุมสภาแห่งชาติระบุว่า อัตราการขยายตัวจีดีพีในไตรมาสแรกและไตรมาสที่สองอยู่ในระดับตํ่า แต่ในไตรมาสที่สามได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นต่อการบรรลุอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจที่ร้อยละ 6.7 ตามเป้าหมายที่สภาแห่งชาติได้วางไว้ตั้งแต่ต้นปี  แต่อย่างไรก็ตาม ช่องว่างระหว่างอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจกับรายได้นับวันเพิ่มมากขึ้น โดยอัตราการขยายตัวรายได้มวลรวมประชาชาติ หรือ   GNI เมื่อปี  2010 ของเวียดนามอยู่ที่ร้อยละ6.42 ในขณะที่อัตราการขยายตัวจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ6.88 ต่อมาเมื่อปี2016 อัตราการขยายตัว GNI  ลดลงอยู่ที่ร้อยละ 5.18 ในขณะที่อัตราการขยายตัวจีดีพีลดลงเพียงเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ6.21 นอกจากนี้ ยังมีปัญหาต่างๆที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อการขยายตัวด้านเศรษฐกิจในระยะกลาง อย่างยั่งยืน  ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจลิวบิ๊กโห่ได้วิเคราะห์ว่า“การเบิกจ่ายเงินลงทุนสาธารณะยังดำเนินไปอย่างล่าช้าและอยู่ในระดับตํ่า และถึงแม้จะมีการประกาศปล่อยสินเชื่อร้อยละ 18-21 แต่จนถึงขณะนี้สถานประกอบการสามารถกู้เงินได้แค่ร้อยละ11 นอกจากนี้ ปัญหาหนี้เสียก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะต้องพิจารณาและกำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่สามารถชำระได้”

ปี2017เวียดนามรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืน - ảnh 1ดร.หวิ่งเท้ยู จากมหาวิทยาลัย Fullbright (Photo: tuoitre.vn) 

ต่อสถานการณ์ดังกล่าว หน่วยงานเศรษฐกิจได้หารือถึงมาตรการต่างๆ เช่น การปฏิบัตินโยบายปรับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างคล่องตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเวียดนาม การลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ การผลักดันการแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วน การถอนและยกระดับประสิทธิภาพการใช้เงินลงทุนภาครัฐในสถานประกอบการ ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ยํ้าถึงการปฏิรูปโครงสร้างสถานประกอบการภาครัฐ ซึ่งถือเป็นมาตรการเร่งด่วนเพื่อผลักดันการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ ดร.หวิ่งเท้ยู จากมหาวิทยาลัย Fullbright ได้เผยว่า“เวียดนามต้องเน้นถึงปัจจัยต่างๆที่เอื้อให้แก่การขยายตัวในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยหนึ่งคือต้องแก้ไขปัญหาการเก็งกําไรในตลาดสินทรัพย์ที่อาศัยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและการฉกฉวยโอกาสจากช่องว่างของนโยบาย สองคือต้องสร้างกลไก บรรยากาศการประกอบธุรกิจที่โปร่งใสและการเข้าถึงแหล่งพลังต่างๆอย่างเสมอภาคระหว่างสถานประกอบการภาคเอกชน สถานประกอบการที่มีเงินลงทุนเอฟดีไอและสถานประกอบการภาครัฐเพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบการภาคเอกชนเวียดนามพัฒนาและสนับสนุนการพัฒนาประเทศเวียดนาม”

มติเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมปี 2018 ที่ได้รับการอนุมัติจากสภาแห่งชาติเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ตั้งเป้าหมายว่า ต้องรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ พยายามบรรลุความคืบหน้าในการปฏิบัติยุทธศาสตร์ก้าวกระโดด 3 ข้อ ทำการเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัวควบคู่กับการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อยกระดับประสิทธิภาพของการขยายตัว ผลผลิตและขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่วนสำหรับเป้าหมายการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ มติดังกล่าวระบุว่า อัตราการขยายตัวจีดีพีจะอยู่ที่ร้อยละ 6.5 – 6.7  มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 7-8 และดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 4  ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจลิวบิ๊กโห่ได้เผยว่า เป้าหมายอัตราการขยายตัวจีดีพีที่ร้อยละ 6.5 – 6.7 คือเป้าหมายที่สามารถปฏิบัติได้ แต่เพื่อสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว รัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานต่างๆต้องทำการปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงใหม่ในด้านต่างๆ ปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ โครงสร้างเศรษฐกิจและปรับเปลี่ยนรูปแบบการขยายตัวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด