ผลสำเร็จของการสร้างสรรค์บรรยากาศของสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรมปี 2019

(VOVWORLD) - ปี 2019 ระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรมมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งตามคำประเมินขององค์กรระหว่างประเทศ เวียดนามเป็น 1ใน 3 ประเทศที่มีระบบนิเวศของสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรมที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน ซึ่งในปี 2019 สามารถดึงดูดเงินลงทุนให้แก่โครงการสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรมถึง 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับปี 2018 ซึ่งผลสำเร็จดังกล่าวมาจากความพยายามของทั้งผู้ที่เข้าร่วมโครงการบ่มเพาะและการสนับสนุนของรัฐบาลเวียดนาม
ผลสำเร็จของการสร้างสรรค์บรรยากาศของสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรมปี 2019 - ảnh 1Photo Internet

ปี 2019 กระแสสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรมได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งและกลายเป็นช่องทางระดมเงินทุนที่มีประสิทธิภาพของเศรษฐกิจ โดยมีจำนวนสถานประกอบการก่อตั้งใหม่มากที่สุดในหลายปีมานี้ กองทุนสำหรับการทำธุรกิจรูปแบบนี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีขอบเขตที่กว้างมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการจัดตั้งสถานประกอบการสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรมที่มีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปในเวียดนาม นาย จูหงอกแอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนามเผยว่า            “ปัจจุบันนี้ ในเวียดนาม มีกองทุนสำหรับการลงทุนกว่า 60 กองทุน ซึ่งรวมทั้งกองทุนสำหรับสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรม เช่น กองทุนเพื่อการวิจัยและประยุกต์ใช้ VinTech และกองทุน Next 100 ซึ่งเป็นกองทุนใหญ่ ถือเป็นสัญญาณที่น่ายินดีสำหรับระบบนิเวศของสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรมในเวียดนาม”

ส่วนรองนายกรัฐมนตรี หวูดึ๊กดามให้ข้อสังเกตว่า            “ในปี 2019 เรามีความยินดีต่อก้าวพัฒนาของขบวนการสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรมในเวียดนาม โดยมีการเข้าร่วมของนักลงทุน สถานประกอบการและสำนักงานต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เวียดนามกำลังเดินถูกทิศทางและมีการพัฒนาอย่างน่ายินดี”

นาย เหงียนเตี๊ยนจุง ประธานคณะผู้บริหารของบริษัทหุ้นส่วนให้คำปรึษาและการลงทุนเกี่ยวกับสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรมแห่งชาติ หัวหน้าสมาคมสนับสนุนสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรมเผยว่า            “จากการสนับสนุนของรัฐบาล ผู้นำกระทรวง หน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงการศึกษาและฝึกอบรม กระทรวงวางผังและการลงทุน กระบวนการสตาร์ทอัพได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยสามารถขยายผลในทั่วประเทศ”

การสนับสนุนได้มีขึ้นผ่านการจัดวันงานแห่งสตาร์ทอัพแห่งนวัตกรรมแห่งชาติหรือ Techfest ใน 4 เขตเศรษฐกิจหลักของประเทศคือ เขตตะวันออกภาคใต้ เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดงและที่ราบสูงในภาคเหนือเวียดนาม เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง เขตที่ราบสูงเตยเงวียนและเขตริมฝั่งทะเลภาคกลางตอนล่าง และเพื่อประชาสัมพันธ์และดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศให้แก่ระบบนิเวศของสตาร์ทอัพในเวียดนาม ในปี 2019 ได้มีการจัดวันงาน Techfest ที่สหรัฐ สาธารณรัฐเกาหลีและสิงคโปร์

ควบคู่กันนั้น ตามโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็มีการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมและศูนย์ส่งเสริมสตาร์ทอัพโดยเฉพาะสถาบันการศึกษาบางแห่งได้เปิดสอนหลักสูตรการทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้วย ซึ่งถือเป็นพื้นฐานให้แก่การจัดตั้งสถานประกอบการสตาร์ทอัพที่เข้มแข็งในเวลาข้างหน้า

นอกจากนี้ ในปี 2019 ยังมีการปรับปรุงระบบกฎหมายให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นสำหรับการทำธุรกิจและการลงทุนให้แก่สถานประกอบการสตาร์ทอัพ กระทรวง หน่วยงานต่างๆ ได้จัดทำและปฏิบัตินโยบายต่างๆเป็นการนำร่อง เช่น การทดสอบนวัตกรรมผ่านกลไกของ “Sandbox” ในยุคของเทคโนโลยีทางการเงิน ศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติ อำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการสตาร์ทอัพ เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมในต่างประเทศ นาย จูหงอกแอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเผยต่อไปว่า            “จำนวนองค์การที่สนับสนุนสถานประกอบการสตาร์ทอัพในทั่วประเทศได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีองค์กรสนับสนุน 23 แห่ง มีสวนบ่มเพาะสตาร์ทอัพ 38 แห่ง ส่วนจังหวัดและนคร 52 แห่งจากจำนวนทั้งหมด 63 แห่งได้ประกาศแผนการและเตรียมบุคลากรให้แก่กระบวนการสตาร์ทอัพ”

จากแนวทางที่ถูกต้องในด้านนโยบายและก้าวพัฒนาที่เข้มแข็งของสถานประกอบการสตาร์ทอัพในปี 2019 นักลงทุนจากต่างประเทศหลายคนเชื่อมั่นว่า เวียดนามมีศักยภาพสูงในการเสริมสร้างระบบนิเวศของสตาร์ทอัพชั้นนำของอาเซียน ซึ่งสตาร์ทอัพก็ถือเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อสร้างก้าวกระโดดในการขยายตัวของเวียดนาม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด