หมู่บ้านอีตี้ จังหวัดหล่าวกาย ในช่วงต้นเดือนกันยายน เหมือนก้าวเข้าสู่เทศกาลใหญ่ของธรรมชาติ ด้วยความสูงเกือบ 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล พื้นที่แห่งนี้กำลังถูกปกคลุมด้วยสีเหลืองอร่ามของรวงข้าว
ผู้คนจากทุกที่หลั่งไหลมาเที่ยวสถานที่ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “สวรรค์นาขั้นบันไดที่สวยที่สุดแห่งตะวันตกเฉียงเหนือ” เพื่อชื่นชมภาพที่หาดูได้ยากที่ธรรมชาติและมนุษย์ร่วมกันสร้างขึ้น
จากเนินหงายเทิ่ว (Ngải Thầu) หรือหมู่บ้านชว๋านแถ่น (Choản Thèn) มองลงมา จะเห็นผืนนาเรียงรายลดหลั่นตามไหล่เขา ดูอ่อนช้อยราวกับคลื่นสีทอง
แสงแดดสาดส่องลอดผ่านม่านหมอกยามเช้า ทำให้เกิดภาพที่น่าประทับใจ
นี่คือช่วงเวลาที่ทำให้ผู้คนยอมเดินทางไกลนับพันกิโลเมตร เพียงเพื่อได้เห็นด้วยตาตนเองถึงความสวยงามอัศจรรย์นี้สักครั้งในชีวิต
ไม่ใช่เพียงทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่อีตี้ยังตราตรึงใจนักท่องเที่ยวด้วยความจริงใจของผู้คนท้องถิ่น ระหว่างพักเหนื่อยที่ริมท้องนา นาง ลี้ถิเปอ ชาวบ้านคนหนึ่งเล่าด้วยรอยยิ้มว่า “ปีนี้ปลูกข้าวได้ผลดี เห็นนักท่องเที่ยวมา ถ่ายรูปกันเยอะมาก พวกเราก็รู้สึกดีใจไปด้วย เพราะนั่นคือวิธีทำให้อีตี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น”
เมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ เส้นทางไปยังอี้ตี๋มีความสะดวกขึ้นมาก รถยนต์สามารถเข้าถึงตัวตำบล โฮมสเตย์หลายแห่งได้รับการลงทุนปรับปรุงให้ทันสมัย ตอบสนองความต้องการด้านที่พักและการลองทานอาหารท้องถิ่น ด้วยเหตุนี้ ฤดูข้าวสุกของอีตี้จึงกลายเป็นสถานที่ที่พลาดไม่ได้ของผู้ที่รักการท่องเที่ยว
ตามประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการมาเที่ยวอีตี่คือฤดูข้าวสุกคือระหว่างปลายเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนกันยายน
อีกไม่กี่สัปดาห์ ก็จะถึงฤดูเกี่ยวข้าว สีเหลืองของรวงข้าวจะกลายเป็นทุ่งนาสีน้ำตาลเข้ม ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศที่สวย ๆ ของที่นี่เอาไว้

หมู่บ้านเขตเขาอีตี้ยามฤดูข้าวสุก

(VOVWORLD) - สีเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วภูเขาอีตี่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายพันคนให้เดินทางมาเที่ยวเพื่อชื่นชมฤดูข้าวสุก

Viên Minh/VTC News