รูปแบบการเกษตรที่ปลอดสารพิษที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเอียนบ๊าย

(VOVWORLD) - จากการพัฒนาการเกษตรปลอดสารพิษ ควบคู่กับการเพาะเลี้ยงปศุสัตว์และปลูกพืชแบบครบวงจร รูปแบบของบริษัทหุ้นส่วนลงทุนพัฒนาการเกษตร บิ่งเงวียนแซงในตำบล โตโหม่ว อำเภอหลุกเอียน จังหวัดเอียนบ๊ายได้กลายเป็นตัวอย่างสำหรับผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในเขตเขา
รูปแบบการเกษตรที่ปลอดสารพิษที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเอียนบ๊าย - ảnh 1รูปแบบการเกษตรที่ปลอดสารพิษที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเอียนบ๊าย 

 

เมื่อต้นปี 2017 บริษัทหุ้นส่วนลงทุน พัฒนาการเกษตรบิ่งเงวียนแซงได้ตัดสินใจลงทุนเกือบ 3 หมื่นล้านด่งเพื่อสร้างสรรค์รูปแบบการเกษตรปลอดสารพิษครบวงจรในตำบล โตโหม่ว อำเภอ หลุกเอียน จังหวัดเอียนบ๊าย โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคิดเป็นค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งของเงินลงทุนทั้งหมด รูปแบบครบวงจร ประกอบด้วยเขตเลี้ยงโคและกระบือขนาดพื้นที่ 3 พันตารางเมตรที่มีหลังคาที่ทันสมัย เขตเลี้ยงไส้เดือน เขตปลูกหญ้ารวมพื้นที่ 15เฮกตาร์ นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ปลูกส้มนับสิบเฮกตาร์ นาย จิ่งแทงตุ่ง ผู้อำนวยการบริษัทฯเผยว่า “เมื่อเริ่มปฏิบัติ พวกเราได้ศึกษาปฏิบัติตามมาตรฐาน VietGap ในการเพาะเลี้ยงปศุสัตว์ พวกเราได้คัดเลือกอย่างรอบคอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดตั้งแต่การเลือกพันธุ์ไปจนถึงการดูแลสัตว์ สำหรับต้นส้ม พวกเราใช้พันธุ์ส้มจากสถาบันพันธุ์พืชเวียดนาม และคัดเลือกมาจากต้นส้มในอำเภอหลุกเอียน”

ทุกปี บริษัท บิ่งเงวียนแซง สามารถเลี้ยงโคและกระบือได้รวมกันเกือบ 1 พันตัว โดยมีการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์อย่างรอบคอบและเลี้ยงในคอกที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และในพื้นที่กลางแจ้ง รวมทั้งมีการดูแลเรื่องการฉีดวัคซีนและอาหารตามมาตรฐานความปลอดภัย ดังนั้น ผลิตภัณฑ์จากบริษัท บิ่งเงวียนแซงจึงได้รับความนิยมจากลูกค้า โคและกระบือของที่นี่มีน้ำหนักเฉลี่ยตั้งแต่ ๓๐๐ กิโลกรัมถึง ๗๐๐ กิโลกรัมต่อตัว ราคาขายสูงถึง ๘หมื่นด่งต่อกิโลกรัม ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการภายในประเทศเท่านั้น หากยังส่งออกไปยังต่างประเทศอีกด้วย

รูปแบบการเกษตรที่ปลอดสารพิษที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเอียนบ๊าย - ảnh 2เมื่อต้นปี 2017 บริษัทหุ้นส่วนลงทุน พัฒนาการเกษตรบิ่งเงวียนแซงได้ตัดสินใจลงทุนเกือบ 3 หมื่นล้านด่งในการสร้างสรรค์รูปแบบการเกษตรที่ปลอดสารพิษครบวงจร 

จากการมีแหล่งปุ๋ยคอกบวกกับการติดตั้งระบบคัดกรองวัชพืชเพื่อเลี้ยงไส้เดือนในพื้นที่นับพันตารางเมตร ทำให้ราคาขายปุ๋ยคอกของบริษัทอยู่ที่ตั้งแต่ 3 หมื่นด่งต่อกิโลกรัมขึ้นไป และปุ๋ยส่วนหนึ่งก็นำไปใช้สำหรับการปลูกส้มของบริษัทในพื้นที่เกือบ 100 เฮกตาร์ในอำเภอหลุกเอียน จังหวัดเอียนบ๊ายและอำเภอบั๊กวาง จังหวัดห่ายาง นาย จิ่งแทงตุ่ง เผยว่า “ผลิตภัณฑ์การเกษตรต้องมีความยั่งยืน ในตอนแรกที่ปฏิบัติรูปแบบนี้ พวกเราได้กำหนดว่า จะสร้างเครื่องหมายการค้าที่สะอาดตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์”

นาย เลืองวันหุ่ง คนงานในฟาร์มของบริษัทบิ่งเงวียนแซงได้เผยว่า นอกจากมีเงินเดือนที่มั่นคงคือ 5 ล้านด่งต่อเดือนแล้ว เขายังได้เรียนรู้ประสบการณ์ในการเลี้ยงปศุสัตว์ที่ทันสมัย ซึ่งไม่เหมือนกับการเลี้ยงแบบครัวเรือนที่ขาดประสิทธิภาพ ซึ่งชาวเขาทำกันมานาน “รูปแบบนี้เหมาะสมกับท้องถิ่นนี้ เพราะที่นี่มีทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ สัตว์กินข้าวโพด ส่วนมูลสัตว์นำไปใช้สำหรับการปลูกต้นไม้”

ปัจจุบัน รูปแบบการเลี้ยงสัตว์ของบริษัทบิ่งเงวียนแซงคือรูปแบบการเกษตรสะอาดที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเอียนบ๊าย ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯกำลังมีส่วนแบ่งในตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ส้มปลอดสารพิษหลุกเอียน-เซินตุ่ง คณะและบุคคลหลายคนในจังหวัดและเขตที่ใกล้เคียงยังคงเดินทางมาเยี่ยมชมและศึกษาเพื่อหาแนวทางขยายผลรูปแบบฟาร์มเกษตรปลอดสารพิษ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด