(VOVWorld)-การสร้างห่วงโซ่เชื่อมโยงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มมูลค่าการผลิตเกษตรเป็นแนวโน้มในการพัฒนาการเกษตรของเวียดนาม นี่เป็นความต้องการไม่เพียงแต่ของเกษตรกรเท่านั้น หากยังของบรรดาผู้ประกอบการอีกด้วย  ในจังหวัดห่าติ๋ง รูปแบบดังกล่าวได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้มีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจในเขตดังกล่าว

เกษตรกรในจังหวัดห่าติ๋งหลุดพ้นจากความยากจนเนื่องจากรูปแบบการเลี้ยงแม่พันธุ์สุกรแรกของเครือบริษัทมีตราโก

ถ้าหากเดินทางไปยังตำบลกี่บั๊ก ซึ่งเป็นตำบลเขตเขาในอำเภอกี่แอง จังหวัดห่าติ๋ง  ต้องเดินทางผ่านเส้นทางที่คดเคี้ยวเกือบ๕๐กิโลเมตร   ที่นี่ มีสภาพอากาศที่แปรปรวน ซึ่งทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนประสบอุปสรรคมากแต่หลังจากที่สหกรณ์หว่างเจิวเริ่มดำเนินงานก็ได้ช่วยให้เขตนี้พัฒนามากขึ้น ซึ่งได้ช่วยฟื้นฟูเขตดังกล่าว นาง เจิ่นถิเจิว ผู้อำนวยการสหกรณ์หว่างเจิวได้เผยว่า ตอนแรก กลุ่มสหกรณ์มีสมาชิก๖คนที่ร่วมกันให้บริการขนส่งสินค้าให้แก่ประชาชนในตำบลกี่บั๊กและเขตใกล้เคียง    กลุ่มสหกร์นี้ก่อตั้งขึ้นเองและไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน โดยมีรายได้เฉลี่ย๕แสนด่งต่อเดือน นาง เจิ่นถิเจิวได้เผยว่า เมื่อปี๒๐๑๒  สหพันธ์สหกรณ์ห่าติ๋งได้ให้คำปรึกษาจัดตั้งสหกรณ์ เสนอมาตรการผลิต ช่วยเหลือการกู้เงินและเชื่อมโยงกับบริษัทแร่ธาตุและการค้ามีตราโกห่าติ๋งเพื่อเชื่อมโยงในการเลี้ยงแม่พันธุ์สุกร  ซึ่งเป็นรูปแบบการเลี้ยงแม่พันธุ์สุกรแรกของเครือบริษัทมีตราโกและเป็นรูปแบบการเลี้ยงแม่พันธุ์สุกรเป็นการนำร่องของจังหวัดห่าติ๋ง“ทางบริษัทได้ให้ความช่วยเหลือในการจัดสรรพันธุ์สัตว์ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์  การก่อสร้างโรงเลี้ยง เชื่อมโยงระหว่างเกษตรกรกับบริษัท  ให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและยารักษาโรค  ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่สมาชิกสหกรณ์ในการผลิต”

จังหวัดห่าติ๋งกำหนดได้ว่า กวางเป็นสัตว์เลี้ยงหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจ

กวางเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง   ดังนั้น จังหวัดห่าติ๋งได้กำหนดว่า ให้เป็นสัตว์เลี้ยงหลักและได้รับความสนใจเพื่อลงทุนพัฒนา  โดยเฉพาะ การเลี้ยงกวางพันธุ์และการเลี้ยงกวางเพื่อจำหน่ายเขาอ่อน จากความต้องการของตลาดและนโยบายช่วยเหลือของจังหวัด  รูปแบบการเลี้ยงกวางนับวันได้รับการขยาย  ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ชนบทใหม่และแก้ปัญหาความยากจน  นาย ฟานวันหลวด  หัวหน้าสหกรณ์การบริการกวางพันธุ์และเขากวางอ่อนได้เผยว่า“นับตั้งแต่ลงนามสัญญา ประชาชนตำบลเซินเลิมดีใจมากที่ทางสหกรณ์ฯให้ความช่วยเหลือในการจำหน่าย  ในเวลาที่จะถึง จากความได้เปรียบที่มีทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ ทางสหกรณ์ฯจะพัฒนาต่อไปแต่ก็ยังคงประสบอุปสรรค์ด้านเงินทุน ผมหวังว่า ทางสหกรณ์ฯจะสนับสนุนการกู้เงินเพื่อให้สมาชิกสหกรณ์พัฒนาการผลิต”
นี่เป็นสหกรณ์การเกษตรสองแห่งจากทั้งหมดนับร้อยแห่งที่ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพของจังหวัดห่าติ๋ง  จนถึงขณะนี้ จังหวัดห่าติ๋งได้จัดตั้งรูปแบบการผลิตการเกษตรกว่า๗๐๐๐รูปแบบที่มีรายได้สูงจากการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์   สิ่งที่น่าสนใจในการผลิตเกษตรของจังหวัดห่าติ๋งก็คือ การจัดตั้งห่วงโซ่เชื่อมโยงการผลิตและการจำหน่ายสินค้า  ทางการจังหวัดฯได้กำหนดผลิตภัณฑ์ที่มีจุดแข็ง เช่น หมู วัว กุ้ง กวาง การปลูกผักและการเลี้ยงกุ้งที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง  การแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตรและสัตว์น้ำ  นาย เลดิ่งเซิน เลขาธิการพรรคสาขาจังหวัดห่าติ๋งได้ยืนยันว่า “ต้องเชื่อมโยงการผลิต ถ้าหากให้เกษตรกรผลิตเอง ก็จะไม่สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตได้  ซึ่งจะส่งผลให้การจำหน่ายผลผลิตของเกษตรกรประสบอุปสรรค  โดยก่อนอื่น สหกรณ์และกลุ่มสหกรณ์ต้องเชื่อมโยงกับสถานประกอบการในการลงทุน ”
จากรูปแบบการเชื่อมโยงการผลิตการเกษตรในจังหวัดห่าติ๋งได้แสดงให้เห็นว่า สหกรณ์เป็นปัจจัยสำคัญเพื่อเชื่อมโยงเกษตรกรกับผู้ประกอบการเข้าด้วยกัน  ประสบการณ์ของจังหวัดห่าติ๋งได้แสดงให้เห็นว่า การเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดจะช่วยเพิ่มมูลค่าการเกษตรเพื่อมุ่งสู่การเพิ่มรายได้อย่างมั่นคงให้แก่เกษตรกร.