สำหรับการขยายระยะเวลาการลงคะแนนทีพีเอ นาย บารัก โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐและผู้ที่สนับสนุนทีพีเอจะมีเวลาเพิ่มอีกเพื่อแสวงหามาตรการผลักดันการอนุมัติร่างรัฐบัญญัติฉบับนี้ แต่โอกาสเพื่อให้นาย โอบาม่า ได้รับการสนับสนุนในการอนุมัติทีพีเอและเสร็จสิ้นทีพีพียังอยู่ในระดับต่ำ เพราะตามความเห็นของบรรดาผู้สังเกตการ ร่างรัฐบัญญัตินี้ถูกคัดค้านอย่างหนักโดยมีเสียงคัดค้าน 302 เสียงและมีเสียงสนับสนุนแค่ 126 เสียง  ซึ่งเป็นการลงคะแนนของส.ส.ของพรรคเดโมแครตของนาย บารัก โอบาม่า
ชะตากรรมของทีพีเอ
ทีเอเอคือส่วนหนึ่งในร่างรัฐบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิผลักดันการค้าหรือทีพีเอซึ่งถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้การช่วยเหลือแรงงานสหรัฐที่ต้องตกงานเนื่องจากข้อตกลงหุ้นส่วนภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีที่สหรัฐกำลังผลักดัน จนถึงขณะนี้ การเจรจาเกี่ยวกับทีพีพีใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว แต่หุ้นส่วนการค้าต่างๆได้เผยว่า อยากให้ทางการของนาย บารัก โอบาม่า บรรลุทีพีเอก่อนที่จะเสร็จสิ้นข้อตกลงซึ่งถ้าร่างรัฐบัญญัตินี้ได้รับการอนุมัติก็จะเป็นเครื่องมือที่อนุญาติให้ประธานาธิบดีสหรัฐยื่นเสนอให้รัฐสภาพิจารณาข้อตกลงการค้าฉบับต่างๆโดยสมาชิกสภาคองเกรสมีสิทธิ์เพียงแค่อนุมัติหรือคัดค้านเท่านั้นโดยไม่มีสิทธิ์แก้ไขเนื้อหาในข้อตกลง ร่างรัฐบัญญัตินี้ถือเป็นเงื่อนไขล่วงหน้าเพื่อให้ประธานาธิบดี บารัก โอบาม่ามีสิทธิส่งเสริมการเจรจาทีพีพีกับ 11 ประเทศหุ้นส่วนเพื่อจัดตั้งเขตการค้าเสรีซึ่งคิดเป็นร้อยละ 30 ของยอดมูลค่าการค้าและร้อยละ 40 ของเศรษฐกิจโลก
แต่อย่างไรก็ตาม ในการลงคะแนนในการประชุมสภาล่างเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ถึงแม้                  นาย บารัก โอบาม่าได้มีความพยายามโน้มน้าวให้สภาอนุมัติ แต่ทีเอเอก็ยังคงถูกคัดค้าน ในขณะที่ส.สของพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่สนับสนุนทีพีพีแต่ส.สของพรรคเดโมแครตกลับแสดงความวิตกกังวลว่า ทีพีพีจะเอื้อประโยชน์ให้เฉพาะบริษัทข้ามชาติเท่านั้นส่วนผู้ใช้แรงงานภายในประเทศจะว่างงานเนื่องจากบริษัทของสหรัฐจะใช้แรงงานต่างชาติที่มีค่าแรงถูกกว่า นอกจากนั้น ข้อเสนอให้ปรับลดงบ 700 ล้านเหรียญสหรัฐจากงบประมาณ 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐของประกันสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุนำไปอุดหนุนโครงการทีเอเอของนาย บารัก โอบาม่าก็ถูกคัดค้านจากส.ส พรรคเดโมแครต ในขณะเดียวกัน นาง แนนซี เพลโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มเสียงข้างน้อยได้ประกาศว่าจะลงคะแนนคัดค้านทีเอเอเพื่อขัดขวางอำนาจการเจรจาอย่างรวดเร็วโดยในจดหมายที่ส่งถึงบรรดา ส.สภายหลังการลงคะแนน นาง เพโลซี ได้เร่งรัดให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันร่วมกันจัดทำร่างรัฐบัญญัติการค้าฉบับใหม่โดยมีข้อกำหนดที่เข้มแข็งมากขึ้นเพื่อปกป้องสิทธิผลประโยชน์ของแรงงานสหรัฐและสิ่งแวดล้อม
ปัญหาหลักคือสิทธิของผู้ใช้แรงงาน
ทีพีเอจะได้รับการอนุมัติหรือไม่ก็ต้องรอจนถึงวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้เห็นว่า การบรรลุทีพีเอจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทำเนียบขาว เพราะความล้มเหลวในสภาล่างเมื่อเร็วๆนี้ได้แสดงให้เห็นว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามา จะต้องเผชิญกับอุปสรรค์ไม่น้อยในช่วงเวลาที่เหลือเพียง18เดือนก่อนหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่2และนี่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกอย่างลึกซึ้งในพรรคเดโมแครต เหตุผลที่บรรดาส.ส ปกป้องผลประโยชน์ของผู้ใช้แรงงานภายในประเทศก็เพราะความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับองค์การสหภาพแรงงานสหรัฐซึ่งพวกเขาไม่อยากเสียคะแนนสนับสนุนในการเลือกตั้งสมัยหน้า ส.สนายหนึ่งของพรรคเดโมแครตได้แสดงความเห็นว่า นายโอบามาเหลือเวลาอีกแค่ 18 เดือนก็ต้องลงจากตำแหน่งแต่องค์การสหภาพแรงงานต่างๆที่เคยสนับสนุนพรรคเดโมแครตในหลายปีที่ผ่านมาจะยังคงปฏิบัติงานต่อไปอีกหลายปี เพราะการคัดค้านขององค์การสหภาพแรงงานจะส่งผลถึงคะแนนสนับสนุนของส.สพรรคเดโมแครตที่สนับสนุนทีพีพี
ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ การปฏิเสธอำนาจการเจรจาอย่างรวดเร็วจะทำให้ทางการของนาย บารักโอบาม่าประสบอุปสรรค์มากขึ้นในการบรรลุทีพีพีซึ่งอาจต้องใช้เวลามากกว่าแผนการที่วางไว้ ทีพีเอมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับกระบวนการเจรจาเกี่ยวกับทีพีพีเพราะการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีอย่างสมบูรณ์และมาตรฐานที่เข้มงวดเหมือนทีพีพีเคยเป็นปัญหาที่ลำบากและการบรรลุความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ระหว่าง 12 ประเทศสมาชิกในทุกปัญหาเป็นสิ่งที่ยากลำบาก เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีเกี่ยวกับทีพีพีได้มีแผนการจัดการประชุมนัดสุดท้ายแต่ถูกคัดค้านเนื่องจากญี่ปุ่นและชิลีได้ประกาศว่า ไม่สามารถเสร็จสิ้นการเจรจาทีพีพีได้จนกว่าทีพีเอจะได้รับการอนุมัติในการประชุมวุฒิสภาและสภาล่าง รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศว่า ญี่ปุ่นสามารถประนีประนอมทางการเมืองเพื่อลงนามทีพีพีถ้าหากรัฐสภาสหรัฐมีสิทธิปรับปรุงข้อตกลงฉบับสุดท้าย
ทีพีพีจะประสบอุปสรรค์นานัปการก่อนที่จะมาถึงรอบสุดท้าย
แต่อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่รอบสุดท้ายสำหรับทีพีเอ ถึงแม้ร่างรัฐบัญญัติให้การช่วยเหลือการปรับการค้าหรือทีเอเอประสบความล้มเหลวแต่ร่างรัฐบัญญัติอำนาจการเจรจาอย่างรวดเร็วยังมีโอกาสพิจารณาอีกครั้งตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 กรกฎาคม ดังนั้นประธานาธิบดี บารัก โอบามา ยังคงมีเวลาเพื่อโน้มน้าวให้บรรดาส.ส พรรคเดโมแครต เห็นชอบทีพีเอถึงแม้ได้รับการคาดหวังว่า นี่จะเป็นภาระผูกพันทางเศรษฐกิจที่นายโอบามาทิ้งไว้ให้แก่การเจรจาทีพีพีต้องเสียเวลามากขึ้นและประสบอุปสรรค์นานัปการ ในสภาวการณ์ที่สหรัฐอยากยืนยันบทบาทประเทศมหาอำนาจเหนือจีนในทวีปเอเชีย ทางการวอชิงตันจะต้องแสวงหาเสียงพูดร่วมเพื่อไม่ให้เสียโอกาสบรรลุทีพีพี./.