ภาพความเสียหายจากการปะทะในซีเรีย (AP)

จากหัวข้อ “สนับสนุนอนาคตของประเทศซีเรียและภูมิภาค” การประชุมนักอุปถัมภ์ระหว่างประเทศให้แก่ซีเรียในระหว่างวันที่ 12 - 14มีนาคมได้ดึงดูดความสนใจจากองค์การ NGO และองค์การสังคมหลายร้อยแห่งของซีเนีย ภูมิภาคและนานาชาติ ซึ่งเพื่อสานต่อผลการประชุมครั้งก่อนๆ การประชุมครั้งนี้ได้หารือถึงปัญหาที่สำคัญเกี่ยวกับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การรับมือกับปัญหาต่างๆที่ประชาชนซีเรียและชุมชนที่รับผู้ลี้ภัยซีเรียต้องเผชิญ

การช่วยเหลือระหว่างประเทศคือสิ่งที่จำเป็น

ซีเรียเคยเป็นเศรษฐกิจที่พัฒนาในระดับปานกลาง โดยมีภาคการเกษตร อุตสาหกรรมน้ำมัน อุตสาหกรรมและการบริการเป็นภาคเศรษฐกิจหลัก แต่ทุกอย่างได้ถูกทำลายนับตั้งแต่เกิดการชุมนุมประท้วงที่มีการใช้ความรุนแรงภายใต้ชื่อ "อาหรับสปริงเมื่อปี 2011"   และการปะทะทที่เกิดขึ้นในตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลกระทบในทางลบต่อศักยภาพการพัฒนาอุตสาหกรรมและทำให้ซีเรียตกอยู่ในภาวะถอยหลังถึง30ปี ในขณะนั้นกระบวนการฟื้นฟูประเทศซีเรียได้รับการคาดการณ์ว่า จะประสบความลำบากเป็นอย่างมากเพราะปัญหาขาดงบประมาณเนื่องจากงบประมาณส่วนใหญ่ถูกใช้ในการต่อสู้กับกองกำลังฝ่ายต่อต้านและกลุ่มก่อการร้าย โดยนาย บาชาร์ อัล-อัสซาดประธานาธิบดีซีเรียได้เผยว่า ต้องใช้เงิน 2แสน5 หมื่น ถึง4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อฟื้นฟูประเทศ ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า การแก้ไขผลดสียหายจากสงครามต้องใช้เวลา 10 - 15 ปี ส่วนสำหรับกาฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานและการขยายตัวให้กลับไปอยู่ในระดับเท่ากับช่วงก่อนปี 2011 จะต้องใช้เวลานานกว่านี้และต้องการความช่วยเหลือในทุกด้านจากประชาคมระหว่างประเทศ

ผู้ลี้ภัยซีเรีย (AFP)

นอกจากความเสียหายด้านเศรษฐกิจ ปัญหาที่ถูกผลกระทบหนักหน่วงที่สุดคือมนุษย์ โดยข้อมูลที่สหประชาชาติได้ประกาศ มีประชาชนซีเรียจำนวนมากที่เสียชีวิตจากการปะทะ ประชาชนหลายล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือนอพยพไปยังเขตที่ปลอดภัย สงครามยังทำให้ประชากรวัยทำงาน 3ใน4 ว่างงานและอีกจำนวนมากเสียชีวิตจากโรคระบาดและการไม่สามารถเข้าถึงการบริการสาธารณสุขในสภาวการณ์ดังกล่าว การช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศจะช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้แก่การฟื้นฟูประเทศซีเรีย

ความพยายามของรัฐบาลซีเรีย

นอกจากการช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศ รัฐบาลซีเรียก็เป็นฝ่ายรุกในการปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อแก้ไขความเสียหายจากสงคราม ในด้านการทูต ซีเรียได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับบรรดาประเทศอาหรับเพื่อแสวงหาเงินทุนเพื่อฟื้นฟูประเทศ โดยเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คณะผู้แทนซีเรียนำโดยนาย Hammouda Sabbagh ประธานรัฐสภาได้เดินทางไปถึงกรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดนเพื่อเข้าร่วมการรปะชุมสหภาพรัฐสภาอาหรับ หรือ  AIPU ซึ่งถือเป็นก้าวเดินเพื่อส่เสริมการเชื่อมโยงด้านการเมืองกับประเทศต่างๆในภูมิภาค ก่อนหน้านั้น เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ผู้นำซีเรียได้ให้การต้อนรับนาย Omar Bashir ประธานาธิบดีประเทศซูดานที่เดินทางมาเยือนในขณะที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบาห์เรนได้ตัดสินใจเปิดสถานทูตประจำประเทศซีเรียอีกครั้ง

ในด้านเศรษฐกิจ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซีเรียและอิหร่านได้บรรลุข้อตกลงร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า โดยนอกจากข้อตกงที่สำคัญๆด้านธนาคาร อิหร่านจะช่วยซีเรียซ่อมแซมสถานีจ่ายไฟฟ้าและก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าใหม่ในจังหวัด Latakia ก่อนหน้านั้นเมื่อปลายเดือนธันวาคมปี 2018 รัสเซียและซีเรียได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม ณ กรุงดามัสกัส

การปะทะในซีเรียได้ย่างเข้าสู่ปีที่ 9ในขณะที่ความต้องการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการฟื้นฟูประเทศนับวันเพิ่มสูงขึ้น และการประชุมนักอุปถัมภ์ระหว่างประเทศให้แก่ซีเรียครั้งที่ 3มีขึ้นในขณะที่สงครามในซีเรียยังไม่ยุติลง ซึ่งประชามติหวังว่า จากความพยายามของประชาชนซีเรีย คำมั่นต่างๆของบรรดานักอุปถมภ์ในการประชุมจะมีส่วนร่วมและเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการฟื้นฟูประเทศซีเรียในอนาคต.