ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาสานต่อและมุ่งสู่อนาคต

(VOVWORLD) -ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต ได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 11-12 ธันวาคม การเยือนครั้งนี้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็ง ซึ่งมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและมุ่งสู่อนาคตของทั้งสองประเทศ

การเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต ได้มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่ของกัมพูชาปฏิบัติหน้าที่ได้กว่า 3 เดือน ซึ่งมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์ “เพื่อนบ้านที่ดี มิตรภาพที่มีมาช้านาน ความร่วมมือในทุกด้าน ยั่งยืนและยาวนาน” ระหว่างสองประเทศให้นับวันแน่นแฟ้นมากขึ้น บนพื้นฐานของความเสมอภาค มีผลประโยชน์ร่วมกันและความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ ให้ความเคารพผลประโยชน์ของกันและนำความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่

ความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในทุกด้าน

เวียดนามและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกัน โดยเมื่อ 56 ปีก่อนคือในวันที่ 26 มิถุนายนปี 1967 ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และผลสำเร็จของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในตลอดกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาไม่เพียงแต่เป็นชัยชนะในสงครามปลดปล่อยประชาชาติของทั้งสองประเทศเท่านั้น หากยังเห็นได้ชัดจากการพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านอีกด้วย นาย So Naro ทูตพิเศษของ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ประเมินว่า

            “ปัจจุบันนี้ โลกมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก แต่มีเรื่องสำคัญที่ไม่เปลี่ยนแปลงนั่นคือ ความสัมพันธ์มิตรภาพฉันท์พี่น้องและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา ซึ่งได้รับการทำนุบำรุงจากคนรุ่นแล้วรุ่นเล่าและนับวันพัฒนามากขึ้น เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา กัมพูชาได้ฉลองวันก่อตั้งแนวร่วมกู้ชาติกัมพูชา โดยได้กล่าวย้ำถึงส่วนอุทิศของผู้นำกัมพูชา เช่น สมเด็จ  เจีย สิม สมเด็จ เฮงสัมรินและสมเด็จฮุนเซ็น ซึ่งได้นำชาวกัมพูชาที่รักประเทศภายใต้การช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ของพรรค รัฐบาลและประชาชนเวียดนาม โดยเฉพาะการสละชีพของทหารอาสาเวียดนามที่ได้ให้การช่วยเหลือประชาชนกัมพูชาให้หลุดพ้นจากระบอบฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เขมรแดง

            จุดเด่นของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศคือการลงทุนและการค้า ปัจจุบันนี้ เวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของกัมพูชา เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของกัมพูชา โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนใกล้บรรลุ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะกัมพูชาอยู่อันดับที่ 2 จาก 79 ประเทศและดินแดนที่เวียดนามเข้าไปลงทุน รวมกว่า 200 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นาย ฟานวันเจื่อง ผู้ดูแลฝ่ายการค้าในต่างประเทศของเวียดนามประจำกัมพูชา กล่าวว่า

            “สถานประกอบการเวียดนามมีการพัฒนาเป็นอย่างดี โดยมีชื่อเสียงในชมรมสถานประกอบการกัมพูชาและได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากจากทั้งสถานประกอบการกัมพูชาและรัฐบาลกัมพูชา โดยเฉพาะส่วนร่วมของสถานประกอบการเวียดนามในการพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างงานทำและจ่ายภาษีให้แก่ทางการท้องถิ่นในกัมพูชา”

หน้าใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคี

ในกรอบการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามและนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะมีการเจรจาเพื่อขยายความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่างๆ เช่น การศึกษา การค้า การลงทุน การเชื่อมโยง การท่องเที่ยว ความมั่นคงกลาโหมและปัญหาชายแดน เป็นต้น พร้อมทั้งเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงฉบับต่างๆ เป็นประธานร่วมในฟอรั่มส่งเสริมการลงทุนและการค้าเวียดนาม – กัมพูชา เป็นต้น นาย Oknha Leng Rithy ตัวแทนของกลุ่มอุตสาหกรรมยางพารา ณ กัมพูชา ประธานชั่วคราวของคณะกรรมการสโมสรสถานประกอบการเวียดนามประจำกัมพูชาแสดงความคิดเห็นว่า การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต จะช่วยขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การลงทุนและการค้าระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านการเกษตรและการแปรรูปสินค้าการเกษตร

            “การที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกัมพูชาเยือนเวียดนามแสดงถึงไมตรีจิตและเป็นพลังขับเคลื่อนช่วยให้นักลงทุนเวียดนามและกัมพูชามีความเชื่อมั่นต่อความตั้งใจและความพยายามของรัฐบาลชุดใหม่ของกัมพูชา ผมรู้สึกยินดีและภูมิใจที่นักลงทุนด้านการเกษตรของเวียดนามได้เข้ามาลงทุนและขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับสถานประกอบการกัมพูชา โดยเฉพาะกิจกรรมนี้จะมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”

            การเลือกเยือนเวียดนามเป็นประเทศแรกในอาเซียนของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต ถือเป็นการสานต่อนโยบายการต่างประเทศของรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งช่วยให้บรรดาผู้นำและประชาชนเวียดนามและกัมพูชาต่างมีความเชื่อมั่นว่า การเยือนครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ มุ่งสู่ระยะแห่งการพัฒนาใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคี.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด