จีนตัดสินใจลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2017

(VOVworld) – รัฐบาลจีนได้เสนอลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2017 ลงเหลือร้อยละ 6.5 ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกกำลังผลักดันการปฏิรูปเพื่อแก้ไขอุปสรรคภายในประเทศ ผู้บริหารประเทศจีนได้เผยว่า นี่เป็นเป้าหมายที่สามารถบรรลุได้เพื่อช่วยกำหนดแนวทางและปฏิบัติตามความคาดหวัง

(VOVworld) – รัฐบาลจีนได้เสนอลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2017 ลงเหลือร้อยละ 6.5 ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกกำลังผลักดันการปฏิรูปเพื่อแก้ไขอุปสรรคภายในประเทศ ผู้บริหารประเทศจีนได้เผยว่า นี่เป็นเป้าหมายที่สามารถบรรลุได้เพื่อช่วยกำหนดแนวทางและปฏิบัติตามความคาดหวัง

จีนตัดสินใจลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2017 - ảnh 1
การประชุมรัฐสภาจีนครั้งที่ 5 สมัยที่ 12

ในการกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุมประจำปีของรัฐสภาจีนเมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายกรัฐมนตรีหลีเค่อเฉียงเผยว่า จีนได้ตัดสินใจลดเป้าหมายผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีในปีนี้ลงอยู่ที่ร้อยละ 6.5 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม อัตราการขยายตัวยังคงเพียงพอเพื่อบรรลุเป้าหมายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ต้องการขยายขนาดเศรษฐกิจของประเทศขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2020 เมื่อเทียบกับปี 2010 ส่วนปีที่แล้ว จีนได้บรรลุอัตราการขยายตัวร้อยละ 6.7 ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010 มาจนถึงปัจจุบัน

เป้าหมายที่จะกลายเป็นความจริง

การลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจถูกเสนอในสภาวการณ์ที่จีนกำลังพยายามเปลี่ยนจากการขยายตัวเร็วเกินไปที่พึ่งพาแต่การส่งออกและการลงทุนไปเป็นรูปแบบการขยายตัวอย่างยั่งยืนที่พึ่งพาการบริโภค แต่อย่างไรก็ตาม กระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้กำลังดำเนินไปอย่างซับซ้อนเนื่องจากทำให้การขยายตัวช้าลง  ค่าเงินหยวนลดลง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลต่อการเกิดฟองสบู่ด้านอสังหาริมทรัพย์และวิกฤตหนี้เสีย นายกรัฐมนตรีจีนหลีเค่อเฉียงยังคงยอมรับว่า สถานการณ์ภายในและต่างประเทศได้ส่งผลให้จีนต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนและลำบากมากขึ้น นายหลีเค่อเฉียงย้ำว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นไปอย่างเชื่องช้าแต่ลัทธิการคุ้มครองการค้าและแนวโน้มการเดินสวนกับโลกาภิวัตน์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว สำหรับปัญหาภายในประเทศ ในเวลาที่ผ่านมา จีนได้ปฏิบัติมาตรการปรับลดราคาอสังหาริมทรัพย์ ควบคุมการขยายตัวของสินเชื่อและลดการลงทุนจากภาครัฐ จึงทำให้อัตราการขยายตัวต้องอาศัยการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนของภาคเอกชนมากขึ้น เช่นเดียวกับปีที่แล้ว จีนไม่ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกในปี 2017 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไร้เสถียรภาพในการขยายตัวของโลก

ในสภาวการณ์ดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจได้เผยว่า เป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 6.5 ในปีนี้ของรัฐบาลจีนคือเป้าหมายที่เหมาะสม โดยนายกรัฐมนตรีหลีเค่อเฉียงเห็นว่า สอดคล้องกับกฎระเบียบทางเศรษฐกิจและการปฏิบัติในทางเป็นจริง ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการกำหนดแนวทาง ความมีเสถียรภาพและการปรับปรุงโครงสร้าง พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับเป้าหมายการสร้างสรรค์สังคมนิยมที่มั่งคั่งอย่างรอบด้าน เป้าหมายการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพเพื่อสร้างงานทำและเอื้อประโยชน์ให้แก่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

จีนตัดสินใจลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2017 - ảnh 2
นายหลีเค่อเฉียงกล่าวปราศรัยในการประชุมรัฐสภาจีนครั้งที่ 5 สมัยที่ 12

มาตรการแก้ไขหลัก

เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวในปีนี้ให้อยู่ที่ร้อยละ 6.5 รัฐบาลจีนจะปฏิบัติงบประมาณประจำปีที่เป็นฝ่ายรุก ปรับลดภาษีประมาณ 5 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่สถานประกอบการ พร้อมทั้งปฏิบัตินโยบายการเงินอย่างระมัดระวังและเป็นกลาง นายกรัฐมนตรีจีนหลีเค่อเฉียงเผยว่า ตอนนี้ จีนสามารถควบคุมความเสี่ยงในระบบการเงินได้แต่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากและสร้าง “ไฟร์วอลล์” เพื่อยับยั้งความเสี่ยงเหล่านี้ผ่านการประกาศใช้นโยบายการเงิน ธำรงเสถียรภาพของสภาพคล่อง ควบคุมดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและปรับปรุงกลไกการเปลี่ยนผ่านของนโยบายการเงินให้มีความสมบูรณ์ นอกจากนี้ การปฏิรูปสถานประกอบการภาครัฐยังเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของรัฐบาลจีน โดยนายกรัฐมนตรีหลีเค่อเฉียงเผยว่า การปฏิรูปสิทธิการเป็นเจ้าของของสถานประกอบการภาครัฐกว่า 100 แห่งโดยส่วนกลางเป็นผู้บริหารจะเสร็จสิ้นในปลายปีนี้ จีนจะปิดสถานประกอบการและบริษัทภาครัฐที่ขาดประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจ นายกรัฐมนตรีหลีเค่อเฉียงเผยว่า ปัจจัยส่วนหนึ่งที่กีดกันเศรษฐกิจจีนคือการผลิตอุตสาหกรรมหนักมากเกินไป ดังนั้นต้องแก้ไขปัญหานี้โดยลดการผลิตเหล็ก 50 ล้านตันและถ่านหิน 150 ล้านตัน พร้อมทั้งยุติการใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินหรือระงับการก่อสร้างโรงงานใหม่ๆ

แม้เป้าหมายการขยายตัวเศรษฐกิจของจีนในปี 2017 อยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมาก็ตามแต่ก็ยังคงเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมในสภาวการณ์ปัจจุบันเพราะจะช่วยให้รัฐบาลจีนเป็นฝ่ายรุกและมีความคล่องตัวในการชี้นำการปฏิบัติมาตรการแก้ไขเพื่อสามารถรักษาอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจรายใหญ่อันดับสองของโลกในปี 2017.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด