ตรุษเต๊ตแห่งเอกราชกับบทเรียนเกี่ยวกับคุณค่าของเสรีภาพ

(VOVWORLD) -เมื่อ73ปีก่อนหลังการปฏิวัติเดือนสิงหาคม ซึ่งตรงกับวันที่2กันยายนปี1945 ณ จตุรัสบาดิ่งห์แห่งประวัติศาสตร์ ประธานโฮจิมินห์ได้กล่าวประกาศให้ประชาชนทั้งประเทศและทั่วโลกได้รับทราบเกี่ยวกับการสถาปนาประเทศเวียดนามที่เอกราชและเสรีภาพ  ซึ่งเสี้ยวนาทีแห่งความปลื้มปิติยินดีและศักดิ์สิทธิ์ในวันนั้นได้สถิตอยู่ในใจของชาวเวียดนามทั้งมวลที่เพิ่งหลุดพ้นจากยุคแห่งการเป็นทาสและวันที่2กันยายนก็ได้กลายเป็นวันงานสำคัญ เป็น “ตรุษเต๊ตแห่งเอกราช”ที่เปี่ยมด้วยความหมายของชาวเวียดนามทุกรุ่น
ตรุษเต๊ตแห่งเอกราชกับบทเรียนเกี่ยวกับคุณค่าของเสรีภาพ - ảnh 1

 

เสียงประธานโฮจิมินห์อ่านปฏิญญาเอกราช “ประชาชาติหนึ่งที่ต่อสู้อย่างทรหดกล้าหาญกับแอกปกครองของนักล่างเมืองขึ้นฝรั่งเศสมากว่า80ปี ประชาชาติที่เด็ดเดี่ยวสนับสนุนพันธมิตรต่อต้านฟัสซิสเป็นเวลาหลายปี ประชาชาตินั้นต้องได้รับเสรีภาพ ประชาชาตินั้นต้องมีเอกราช” 

เสียงพูดของประธานโฮจิมินห์ที่ดังกังวาลกลางจตุรัสบาดิ่งห์เมื่อ73ปีก่อนโน้นยังสถิตในใจของชาวเวียดนามทุกคนเพราะนับตั้งแต่เสี้ยวนาทีนั้นประชาชาติเวียดนามได้รับรู้ถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์ จากการถูกกดขี่ขุดรีดและความเป็นทาสได้กลายเป็นพลเมืองของประเทศที่มีเอกราชและเสรีภาพอย่างแท้จริง

เจตนารมณ์แห่งอมตะของปฏิญญาเอกราช

ปฏิญญาเอกราชคือบทเพลงแห่งวีรกรรมอันเกรียงไกรที่ได้เขียนต่อหน้าประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของชาติจากนับพันปีก่อน เป็นนิมิตหมายแห่งชัยชนะของหนึ่งศตวรรษที่ต่อสู้อย่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเพื่อต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นและระบอบศักดินา เปิดศักราชใหม่บนดินแดนของประเทศเวียดนาม ซึ่งปฏิญญาเอกราชนี้ไม่เพียงแต่ได้สถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ประเทศแรกที่เอกราชในระบบดินแดนที่เป็นเมืองขึ้นทั่วโลกเท่านั้น หากยังเป็นสัญญาณของกระบวนการจัดตั้งระบอบสังคมใหม่และรัฐของชนชั้นกรรมกรชาวนารัฐแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่บัดนั้นในฐานะที่เป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง ประชาชนเวียดนามภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์ได้ยืนหยัดต่อสู้ต่อต้านลัทธิจักรวรรดินิยมและระบอบศักดินา ศ.ดร ฟานซวนเซิน สมาชิกสภาทฤษฏีส่วนกลางได้กล่าวว่า ชัยชนะของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี1945มาจากแนวทางยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องและความพร้อมใจเป็นหนึ่งเดียวของคนทั้งชาติ

พรรคได้ชี้นำเราให้สนับสนุนฝ่ายพันธมิตรและประชาธิปไตยต่อต้านฟัสซิสเพื่อสร้างชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเราแสดงท่าทีที่ชัดเจนคือจะให้การสนับสนุนฝ่ายพันธมิตร ส่วนในประเทศของเราเองก็ต่างระดมพลังอันแข็งแกร่งของประชาชนทุกหมู่เหล่าไม่จำแนกชนชั้น ศาสนาหรือชนเผ่า

ตรุษเต๊ตแห่งเอกราชกับบทเรียนเกี่ยวกับคุณค่าของเสรีภาพ - ảnh 2ณ จตุรัสบาดิ่งห์แห่งประวัติศาสตร์ ประธานโฮจิมินห์ได้กล่าวประกาศให้ประชาชนทั้งประเทศและทั่วโลกได้รับทราบเกี่ยวกับการสถาปนาประเทศเวียดนามที่เอกราชและเสรีภาพ 

คุณค่าของเอกราชและเสรีภาพ

สำหรับผู้ที่มีโอกาสร่วมอยู่ในเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์นั้นส่วนใหญ่ก็มีอายุมากแล้วแต่เมื่อถามถึงความทรงจำเกี่ยวกับเสี้ยวนาทีแห่งความศักดิ์สิทธิ์นั้นทุกคนก็ต่างรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งพร้อมเล่าถึงความทรงจำที่ยังคงอยู่ในใจไม่จางหาย  พลโทฝามห่งกือ อดีตรองหัวหน้าฝ่ายการเมืองทบวงการเมืองกองทัพประชาชนเวียดนามเล่าว่า หลังจากที่ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฏิญญาเอกราช เขาและชาวเวียดนามนับแสนคนที่ยืนอยู่บนจตุรัสต่างยกมือเปล่งคำสาบาน “ยืนหยัดรักษาเอกราชอธิปไตยของชาติให้มั่นคง”

เราทุกคนพร้อมใจยกมือสาบานดังสนั่นไปทั่วจตุรัส ส่วนผมนั้นน้ำตาคลอเบ้าแล้วเมื่อมองไป รอบๆตัวก็มีแต่คนที่ซับน้ำตากันไปหมด ซึ่งพวกเราก็เข้าใจดีว่านั่นคือน้ำตาแห่งความสุขเพราะเมื่อหลายวันก่อนเรายังอยู่ในฐานะเป็นทาสของชาติอื่นแต่วันนี้ได้กลายเป็นพลเมืองของประเทศเวียดนามที่มีเอกราชและเสรีภาพแล้ว

ส่วนพันเอกเหงวียนจ๋องห่าม อดีตรองเสนาธิการใหญ่กองทัพนครหลวงเล่าว่า มีแต่คนที่ผ่านในช่วงประวัติศาสตร์นั้น ต้องใช้ชีวิตภายใต้การกดขี่ขูดรีดของระบอบล่าอาณานิคมและศักดินาถึงจะเข้าใจบรรยากาศแห่งความสุขในวันนั้นได้ดี

หลังจากที่ต้องใช้ชีวิตใน3ระบอบการปกครองแล้วถึงเวลาที่ได้รับเอกราชก็จะซาบซึ้งและเข้าใจผลงานนั้นมันยิ่งใหญ่เหลือที่จะกล่าว ตรุษเต๊ตแห่งเอกราชปีนั้นมันพิเศษมากจริงๆ ไม่เพียงแต่ผมเองหากทุกคนที่ออกมาร่วมฉลองตามถนนสายต่างๆก็ต่างโบกมือทักทายกัน บรรยากาศนั้นเปี่ยมไปด้วยความฮึกเหิม ความปิติยินดีและความสามัคคี

ด้วยคุณค่าแห่งเอกราช เสรีภาพและความผาสุกที่ประชาชาติเวียดนามต้องแลกด้วยเลือดเนื้อเพื่อรักษาเอาไว้นั้น ตรุษเต๊ตแห่งเอกราชจะเป็นความภาคภูมิใจ เป็นอุดมการณ์ของชาวเวียดนามทั้งมวลในปัจจุบันและในอนาคต. 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด