บราซิลเผชิญกับมรสุมทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจถดถอย

(VOVworld) – เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม วุฒิสภาบราซิลได้ประชุมครบองค์เพื่อลงคะแนนถอดถอนนาง ดิลมา รุสเซฟฟ์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ฐานละเมิดกฎหมายงบประมาณแผ่นดิน เหตุการณ์นี้ได้แสดงให้เห็นว่า บราซิลกำลังตกเข้าสู่วิกฤตการเมืองครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่งจะส่งผลกระทบไม่น้อยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของบราซิล

(VOVworld) – เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม วุฒิสภาบราซิลได้ประชุมครบองค์เพื่อลงคะแนนถอดถอนนาง ดิลมา รุสเซฟฟ์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ฐานละเมิดกฎหมายงบประมาณแผ่นดิน เหตุการณ์นี้ได้แสดงให้เห็นว่า บราซิลกำลังตกเข้าสู่วิกฤตการเมืองครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่งจะส่งผลกระทบไม่น้อยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของบราซิล

บราซิลเผชิญกับมรสุมทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจถดถอย - ảnh 1
นาง ดิลมา รุสเซฟฟ์ ประธานาธิบดีบราซิล (AFP)

การประชุมของวุฒิสภาบราซิลเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 13.00 ตามเวลากรีนิชของวันที่ 11 พฤษภาคม โดยสมาชิกวุฒิสภา 81 นายได้ลงคะแนนถอดถอนนาง ดิลมา รุสเซฟฟ์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี และเริ่มกระบวนการพิจารณาคดี โดยนาง ดิลมา รุสเซฟฟ์ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีเป็นเวลา 6 เดือนและรองประธานาธิบดี มิเช เทเมอร์ จะเป็นรักษาการประธานาธิบดีบราซิล แต่นาย เรนาน กาลเยรุส ประธานวุฒิสภาได้ประเมินว่า กระบวนการพิจารณาคดีนาง ดิลมา รุสเซฟฟ์ จะต้องใช้เวลานานและประสบความลำบาก
คัดค้านข้อกล่าวหา
สำหรับข้อกล่าวหาตกแต่งบัญชีงบประมาณแผ่นดิน ประธานาธิบดี ดิลมา รุสเซฟฟ์ ได้พาดพึงถึงรองประธานาธิบดี มิเช เทเมอร์ และอดีตประธานสภาล่าง เอดูอาร์โด คุนญา ว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนการทำรัฐประหารซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อรัฐธรรมนูญ นาง ดิลมา รุสเซฟฟ์ ได้แสดงความเห็นว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือกระบวนการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม เพราะประชาชนไม่มีสิทธิ์เลือก
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ผู้ที่สนับสนุนประธานาธิบดี ดิลมา รุสเซฟฟ์ ได้ปิดถนนในทั่วประเทศจนทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดเป็นวงกว้างเพื่อคัดค้านการพิจารณาคดี จนตำรวจต้องตั้งจุดสกัดบนทางหลวง 14 สายใน 26 รัฐของบราซิลและเขตสหพันธรัฐที่ครอบคลุมพื้นที่กรุงบราซีเลีย ส่วนที่นคร รีโอเดจาเนโร กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งรั้วปิดถนนหลักที่เชื่อมกับเมืองเซาเปาโล
การชุมนุมประท้วงการดำเนินคดีต่อประธานาธิบดี ดิลมา รุสเซฟฟ์ ถูกจัดขึ้นโดยองค์การฝ่ายซ้ายแนวร่วมบราซิล โดยข้อความที่โพสบน facebook ได้ยืนยันว่า จะทำการต่อสู้ในสถานที่ทุกแห่งเพื่อปกป้องประชาธิปไตย บราซิลไม่สนับสนุนการทำรัฐประหาร ในวันเดียวกัน ผู้พิพากษา Eduardo Cardozo ได้เรียกร้องให้ศาลสูงสุดยกเลิกกระบวนการพิจารณาคดีประธานาธิบดี ดิลมา รุสเซฟฟ์ เนื่องจากมีเป้าหมายทางการเมืองและไม่มีกฎหมายรองรับ
ส่วนเลขาธิการองค์การประเทศลาตินอเมริกาหรือโอเอเอส Luis Almagro ได้ประกาศว่า จะทำการทาบทามด้านนิตินัยกับศาลสิทธิมนุษยชนสหรัฐเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดีประธานาธิบดี ดิลมา รุสเซฟฟ์ โดยยืนยันว่า โอเอเอส มีหน้าที่สังเกตการณ์การปฏิบัติประชาธิปไตยในภูมิภาค พร้อมทั้งแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงและกฎหมายของบราซิล เพราะนาง ดิลมา รุสเซฟฟ์ ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่าวจริงจังเพื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

บราซิลต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ใหญ่หลวง
ตามความเห็นของผู้สังเกตการณ์ ไม่ว่านาง ดิลมา รุสเซฟฟ์ จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีบราซิลต่อไปหรือไม่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของบราซิลได้ทั้งหมด โดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับบราซิล Brian Winter จากองค์การ Americas Society and Council of the Americas ได้แสดงความเห็นว่า ไม่มีใครชนะในการพิจารณาคดีนาง ดิลมา รุสเซฟฟ์ เพราะแม้รัฐสภาบราซิลก็ไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในขณะที่สมาชิกรัฐสภา 352 คนจากจำนวนทั้งหมด 594 คนถูกกล่าวหาว่า มีการกระทำผิด ปัจจุบัน เศรษฐกิจบราซิลกำลังตกเข้าสู่ภาวะซบเซาโดยงบประมาณแผ่นดินขาดดุลสูงถึงร้อยละ 11ของจีดีพี และกำลังมีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสซีกาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทั้งนี้ เพื่อนำประเทศหลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองในปัจจุบัน ผู้นำของบราซิลต้องแก้ไขความท้าทายต่างๆ เช่นการปฏิรูปการเมือง การควบคุมการใช้จ่ายทางราชการ การปรับปรุงระบบภาษีและผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ดูเหมือนว่า วิกฤตการเมืองในปัจจุบันในบราซิลจะยิ่งทำให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมีอุปสรรคมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด