ประธานสหภาพรัฐสภาโลกหรือไอพียู Saber Chowdhury กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมปี 2017 การประชุมเชิงวิชาการของสหภาพรัฐสภาโลกหรือไอพียูย่านเอเชียแปซิฟิกเกี่ยวกับ“การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ-ปฏิบัติการของนักร่างกฎหมายเพื่อบรรลุเป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืน” โดยรัฐสภาเวียดนามและสหภาพรัฐสภาโลกหรือไอพียูจัดขึ้นได้หารือเกี่ยวกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและประกาศมาตรฐานประเมินการปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับรัฐสภาต่างๆ วันที่ 12 พฤษภาคม บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมตรวจสอบเขตชุมชน โก่ว เหยิ่น ไซ ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญาหาน้ำทะเลหนุนได้เข้าร่วมพิธีปลูกต้นไม้และเยือนป่าชายเลนเกิ่นเหย่อในอำเภอเกิ่นเหย่อ นครโฮจิมินห์

รัฐสภาผลักดันความผูกพันในการปฏิบัติเป้าหมายพัฒนา

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภากับการปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืน ประธานรัฐสภาเมียนมาร์ มานน์ วิน เคียง ตาน ได้แสดงความเห็นว่า นักร่างกฎหมายมีบทบาทสำคัญในการวางและปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งการค้ำประกันนโยบายพัฒนา ความก้าวหน้าในหลายด้านของกฎหมายและดึงดูดการเข้าร่วมของทุกฝ่ายในกระบวนการ รัฐสภาเมียมาร์ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติโครงการอย่างยั่งยืนและปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนา ควบคู่กันนั้น ประธานรัฐสภาเวียดนาม เหงียนถิกิมเงิน ได้ยืนยันว่า เวียดนามมีความเห็นพ้องเป็นอย่างสูงกับไอพียูเกี่ยวกับเนื้อหาของระเบียบวาระการประชุมของการประชุมเชิงวิชาการครั้งนี้ เวียดนามได้จัดทำแผนปฏิบัติการแห่งชาติเกี่ยวกับการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุม 2030 ซึ่งเป็นพื้นฐานทางนิตินัยเพื่อให้เวียดนามปฏิบัติตามคำมั่นระหว่างประเทศ มีส่วนร่วมอย่างมีความรับผิดชอบต่อความพยายามของประชาคมโลกเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยถือมนุษย์เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของมนุษย์อย่างเต็มที่ด้วยบทบาทเป็นเจ้าของ แหล่งพลังหลักและถือเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นสำคัญ เวียดนามได้เน้นปรับปรุงระเบียบนโยบายให้มีความสมบูรณ์เพื่อค้ำประกันกรอบทางนิตินัยให้แก่การปฏิบัติแผนปฏิบัติการและเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเวียดนาม จัดทำแผนปฏิบัติการของกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆ สอดแทรกเป้าหมายแผนปฏิบัติการแห่งชาติในการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุมปี 2030 ในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในช่วงปี 2016-2020

ปฏิบัติการที่เข้มแข็งมากขึ้นเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

สำหรับความท้าทาย โอกาสและปฏิบัติการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของประเทศต่างๆในย่านเอเชียแปซิฟิก ที่ประชุมได้เห็นพ้องกันว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิตของมนุษย์อย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้การขยายตัวจีดีพีของโลกลดลงร้อยละ 5-10 ย่านเอเชียแปซิฟิกคือหนึ่งในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น เช่นน้ำท่วมและสภาพอากาศที่แปรปรวนมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนนับร้อยล้านคน แต่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศก็เป็นโอกาสเพื่อให้ประเทศต่างๆได้ร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมต่างๆเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เปลี่ยนแปลงจิตสำนึกและวิธีการปฏิบัติ ผลิตและประกอบธุรกิจตามแนวทางปรับตัวและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ตามความเห็นของนาง Anna Schreyoegg ที่ปรึกษานโยบายและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ องค์การร่วมมือพัฒนาเยอรมนีหรือ GIZ ประเทศต่างๆที่เข้าร่วมข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศควรเน้นปฏิบัติเป้าหมายควบคุมไม่ให้อุณหภูมิสูงขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส จัดทำแผนปฏิบัติการรับมือแห่งชาติ สร้างสรรค์กรอบมาตรฐานเกี่ยวกับการรับมือและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่วนนาย ฟาน ซวน หยุง หัวหน้าคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมเวียดนามได้เผยว่า ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้เข้าร่วมการปฏิบัติโครงการระหว่างประเทศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปรับปรุงระบบกฎหมายเกี่ยวกับการรับมือและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศให้มีความสมบูรณ์ และผลักดันการใช้เทคโนโลยีสะอาดและการผลิตการเกษตรที่สะอาด

นาง Namosimalua Veniana ส.ส ของสาธารณรัฐฟิจิได้ย้ำว่า บรรดา ส.ส ต้องมีปฏิบัติการที่เข้มแข็งเพื่อลดสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมรับมือกับปัญหานี้ ควบคู่กับกระบวนการและปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบกิจกรรมบังคับใช้กฎหมายในการปฏิบัติกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ ประเทศต่างๆในเอเชียแปซิฟิกต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิด ให้คำมั่นอย่างชัดเจนในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ระดมแหล่งพลังและบุคลากรให้แก่การลดสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและผลักดันกิจกรรมร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีในด้านนี้.