พลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-สิงคโปร์

(VOVWORLD) - ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลีเซียนลุง วันที่ 25 เมษายน นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงียนซวนฟุกจะเริ่มการเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการเยือนสิงคโปร์ครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกในฐานะผู้นำรัฐบาลเวียดนาม การเยือนมีขึ้นในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศฉลองครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 1 สิงหาคม และ 5 ปีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีและสร้างก้าวกระโดดใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเวลาที่จะถึง

พลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-สิงคโปร์ - ảnh 1นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เมื่อปี 2017 (vietnamplus) 

 

จากการสานต่อความสัมพันธ์ทางการเมืองที่น่าไว้วางใจและใกล้ชิด ทั้งสองประเทศกำลังประสานงานจัดพิธีฉลองครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และ 5 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ การเยือนของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ที่มีขึ้นในเวลานี้คือพื้นฐานเพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-สิงคโปร์ให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่

ประสิทธิภาพที่จริงจังของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์

เวียดนามและสิงคโปร์สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อปี 2013 นอกจากความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีงาม ความสัมพันธ์ร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์นับวันพัฒนาอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ สิงคโปร์คือคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในอาเซียนและอยู่อันดับ 6 ของโลก มูลค่าการค้าต่างตอบแทนของทั้งสองประเทศได้เพิ่มขึ้นทุกปี สิงคโปร์คือนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนามโดยมีเกือบ 2 พันโครงการ รวมยอดเงินจดทะเบียนบรรลุ 4 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่านับตั้งแต่ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งในนั้นต้องกล่าวถึงส่วนร่วมที่สำคัญของนิคมอุตสาหกรรมเวียดนาม-สิงคโปร์หรือ VSIP ทั้ง 8 แห่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคต่างๆของเวียดนาม อดีตเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสิงคโปร์ เหงียนเตี๊ยนมิงห์ ได้แสดงความเห็นว่า “ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจคือเนื้อหาหลัก ปัจจุบัน เศรษฐกิจของเวียดนามและสิงคโปร์พัฒนาอย่างเข้มแข็ง การลงทุนของสิงคโปร์ในเวียดนามมีการขยายตัว โดยใน 3 ปีมานี้ ทุกปี มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 22 ทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมมือกันผลิตสินค้าที่หลากหลาย ซึ่งบรรลุมาตรฐานคุณภาพของสิงคโปร์เพื่อมุ่งสู่ตลาดที่ใหญ่กว่า”

ไม่เพียงแต่ร่วมมืออย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนเท่านั้น ความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงระหว่างสองประเทศก็มีก้าวเดินใหม่ โดยเฉพาะในด้านการพบปะสังสรรค์ระหว่างกองทัพเรือ การต่อต้านการก่อการร้ายและความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ต ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนนับวันพัฒนามากขึ้น ซึ่งมีส่วนร่วมผลักดันความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ รวมทั้งกิจกรรมวัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนระดับประชาชนและการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงได้ปฏิบัติผ่านช่องทางของพรรค รัฐบาล รัฐ รัฐสภา การทาบทามความคิดเห็น การประสานงานจุดยืนและนโยบายสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

ในสภาวการณ์ใหม่ สิงคโปร์ให้คำมั่นที่จะผลักดันการลงทุนในเวียดนามในด้านพลังงาน การพัฒนาตัวเมืองและการสร้างสรรค์เครือข่ายเชื่อมโยงตัวเมืองอัจฉริยะ ในการประเมินเกี่ยวกับศักยภาพความร่วมมือของทั้งสองประเทศในปัจจุบัน อดีตเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสิงคโปร์ เหงียนเตี๊ยนมิงห์ ได้ยืนยันว่า “เวียดนามและสิงคโปร์มีศักยภาพร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ เพราะเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศสามารถสนับสนุนกัน โดยสิงคโปร์มีเงินทุนและประสบการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจเชิงตลาดและการพัฒนาเศรษฐกิจ ส่วนเวียดนามมีแหล่งบุคลากรและทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์และมีพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่กว้างใหญ่ ดังนั้น เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศสามารถสนับสนุนกันและสร้างศักยภาพร่วมมือ โดยเฉพาะในปัจจุบันใ ซึ่งมีการจัดทำและพัฒนาข้อตกลงการค้าเสรี บรรยากาศความร่วมมืออยู่ในระดับสูง ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์ไม่เพียงแต่อยู่ในกรอบของประเทศสิงคโปร์เท่านั้น หากยังขยายไปยังอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก”

ในกรอบการเยือนสิงคโปร์ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก จะเจรจากับนายกรัฐมนตรี ลีเซียนลุง เข้าพบประธานาธิบดีสิงคโปร์ กล่าวปราศรัย ณ สถาบันบริหารสิงคโปร์ เข้าร่วมฟอรั่มเศรษฐกิจเวียดนาม-สิงคโปร์และเยือนสถานที่ด้านเศรษฐกิจบางแห่งของสิงคโปร์ ซึ่งกิจกรรมนี้มีส่วนร่วมกำหนดแนวทางความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเวลาที่จะถึง

ประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มพหุภาคีทั้งในระดับภูมิภาคและโลก

ในความร่วมมือพหุภาคี เวียดนามและสิงคโปร์ได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดในฟอรั่มทั้งในระดับภูมิภาคและโลก ขณะนี้ สิงคโปร์กำลังดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนอาเซียนปี 2018 เวียดนามสนับสนุนและให้ความสำคัญต่อความพยายามและข้อคิดริเริ่มของสิงคโปร์ สนับสนุนหัวข้อของอาเซียนในปีนี้คือ “พึ่งพาตนเองและมีความคิดสร้างสรรค์” ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า อาเซียนต้องให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์แห่งการพึ่งพาตนเองในทุกด้านอาศัยพื้นฐานคือหลักการ คำมั่นร่วมของอาเซียน รักษาความสามัคคีและบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในปัญหาเชิงยุทธศาสตร์ของภูมิภาค สิงคโปร์ให้คำมั่นที่จะผลักดันความร่วมมือในอนุภูมิภาคผ่านบทบาทการเป็นประธานอาเซียน

การเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกในฐานะผู้นำรัฐบาลในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศฉลองครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 1 สิงหาคมและ 5 ปีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์จะสร้างก้าวกระโดดใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเวลาที่จะถึงอย่างแน่นอน. 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด