มติที่ไม่เหมาะสมในกระบวนการพัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐ

(VOVworld)- เมื่อเร็วๆนี้ นครซานตา อานา รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐได้ออกมติขัดขวางเจ้าหน้าที่รัฐบาลเวียดนามมาเที่ยวหรือเดินทางผ่านนครนี้ แต่การออกมติได้มีขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐกำลังพัฒนาอย่างดีงามและสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศซึ่งก็ยิ่งทำให้มติดังกล่าวกลายเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและน่าขบขันเป็นอย่างยิ่ง

(VOVworld)- เมื่อเร็วๆนี้ นครซานตา อานา รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐได้ออกมติขัดขวางเจ้าหน้าที่รัฐบาลเวียดนามมาเที่ยวหรือเดินทางผ่านนครนี้ แต่การออกมติได้มีขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐกำลังพัฒนาอย่างดีงามและสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศซึ่งก็ยิ่งทำให้มติดังกล่าวกลายเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและน่าขบขันเป็นอย่างยิ่ง
มติที่ไม่เหมาะสมในกระบวนการพัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐ - ảnh 1
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามและสหรัฐ ณ กรุงฮานอย 10/7/2012

มติ55บีที่ขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลเวียดนามเข้าเมืองซานตาอานา ได้รับการลงนามโดยผู้ว่าการ Miguel Pulido และประกาศใช้เมื่อวันที่19กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามนั้นเจ้าหน้าที่รัฐบาลเวียดนามที่ประสงค์เข้าเมืองหรือเดินทางผ่านนครแห่งนี้ต้องแจ้งให้สำนักงานตำรวจท้องถิ่นทราบก่อน2สัปดาห์เพื่อยื่นขออนุมัติจากผู้ว่าการและสภานคร ส่วนหน่วยงานที่เป็นฝ่ายเชิญคณะเจ้าหน้าที่เวียดนามมาเยือนต้องรับผิดชอบค่าดำเนินการทั้งหมดที่ทางนครต้องใช้สำหรับการเยือนต่างๆเหล่านี้ แต่ถ้าหากเป็นเพียงข้อกำหนดของเฉพาะนครที่มีชาวสหรัฐเชื้อสายเวียดนามอาศัยจำนวนมากนั้นก็มิใช่เรื่องน่าถกเถียงกันแต่ในเนื้อหาของมติยังระบุว่า ทางนคร ซานตาอานาไม่ส่งเสริมให้ตัวแทนของทางการเวียดนามเดินทางมายังนครจนกว่ากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐหรือองค์การระหว่างประเทศได้รับรองว่าเวียดนามทำการปรับปรุงและมีผลงานใหม่ด้านสิทธิมนุษยชนและให้ความเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง ซึ่งในการแถลงข่าวผ่านสถานีวิทยุวีโอเอวันที่20กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้ว่าการนครซานตา อานา ยังกล่าวว่า มตินี้เป็นการแสดงความสามัคคีกับชมรมชาวเวียดนามในทั่วโลกที่ไม่ยินดีต้อนรับคณะผู้แทนรัฐบาลเวียดนามเพื่อคัดค้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนของทางการฮานอยต่อประชาชนในประเทศ ที่น่าเสียใจอีกก็คือผู้ว่าการคนนี้ยังแสดงความหวังว่ามลรัฐต่างๆจะทำตามตัวอย่างของเขาเพื่อผลักดันสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม

ทั้งนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามติ55บีมิได้เป็นเพียงระเบียบการที่มุ่งสร้างความพอใจให้กับกลุ่มคนส่วนหนึ่งในชมรมชาวสหรัฐเชื้อสายเวียดนามในนครซานตา อานา เท่านั้นหากการออกมติขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่เวียดนามเดินทางเข้าเมืองหรือผ่านนครซานตา อานา ก็เพื่อคัดค้านอันที่เรียกว่าการละเมิดหรือส่งเสริมประชาธิปไตยในเวียดนามนั้นถือเป็นเรื่องที่น่าขบขัน เพราะในทางเป็นจริงในเวียดนามไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน หากทุกสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์เช่น สิทธิการมีชีวิต การมีงานทำ ได้รับการศึกษา การแสดงความคิดเห็นหรือการนับถือศาสนาอย่างเสรีของพลเมืองทุกคนต่างได้รับการค้ำประกันและระบุอย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญพร้อมทั้งได้มีการปฏิบัติในชีวิตจริง โดยผลสำเร็จต่างๆด้านสิทธิมนุษยชนของเวียดนามต่างได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกที่สะท้อนในรายงานระหว่างประเทศต่างๆเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและผ่านการประเมินของมิตรชาวต่างชาติรวมทั้งชาวอเมริกันหลังจากได้มาศึกษาสถานการณ์ที่เป็นจริงในเวียดนาม

ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐกำลังพัฒนาอย่างดีงามตั้งแต่ปี1995หลังจากที่ทั้งสองประเทศปรับความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นปกติโดยความสัมพันธ์นั้นได้พัฒนาในทุกด้านทั้งการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคม บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐโดยเฉพาะประธานาธิบดีบิลคลินตั้นและประธานาธิบดีGeoge W.Bush ก็เคยเดินทางมาเยือนเวียดนาม ส่วนบรรดาผู้นำระดับสูงของเวียดนามรวมทั้งประธานประเทศเหงวียนมิงเจี๊ยดและนายกฯเหงวียนเตินหยุงก็เคยเดินทางไปเยือนสหรัฐแล้ว ทั้งสองประเทศได้พยายามพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านอย่างไม่หยุดยั้งและประชาคมชาวเวียดนามในสหรัฐ2ล้านคนก็กำลังมีชีวิตที่ผสมผสานและกลมกลืนกับสังคมสหรัฐ พร้อมทั้งมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาท้องถิ่นที่พวกเขาอาศัยรวมทั้งนครซานตา อานา  ในหลายปีมานี้ พลเมืองเวียดนามนับหมื่นคนได้เดินทางไปสหรัฐเพื่อศึกษา ทำธุรกิจ เยี่ยมญาติหรือท่องเที่ยวโดยสะดวก ในขณะที่พลเมืองสหรัฐรวมทั้งนักการเมือง ทหารผ่านศึกและนักศึกษาก็ได้เดินทางมาเวียดนามอย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมไกล่เกลี่ยและช่วยแก้ไขผลเสียหายจากสงครามตามโครงการต่างๆของรัฐบาลสหรัฐหรือเพื่อแสดงความรักใคร่ต่อชาวเวียดนามผ่านกิจกรรมการกุศลต่างๆ ซึ่งความจริงนั้นคือกระแสชีวิตที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีความเข้มแข็งกว่าระเบียบการทุกข้อที่มุ่งขัดขวางความสัมพันธ์ระหว่างพลเมืองทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้และทั้งนั้น ถึงแม้จะได้รับการส่งเสริมมากน้อยแค่ไหน มติ55บีของนคร ซานตา อานา ก็เป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับกระบวนการพัฒนาที่เข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ./.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด